Under Armour หุ้นร่วง เหตุรายได้โตช้าไม่เข้าเป้า

ภาพจาก : www.baltimoresun.com

แบรนด์แฟชั่นกีฬาดาวรุ่ง Under Armour หุ้นร่วงลงกว่า 10% ช่วงกลางสัปดาห์เนื่องจากการประกาศตัวเลขคาดการณ์รายได้ที่ต่ำกว่าเป้าเดิม นักลงทุนเซ็งเพราะ Under Armour ฟอร์มตกในตลาดหลักอย่างภูมิภาคอเมริกาเหนือ เบื้องต้นผู้บริหารยืนยันพร้อมรบเต็มที่เพื่อขยายฐานตลาด Under Armour ให้โตก้าวกระโดดในระยะยาว

ไม่ว่าอนาคตจะโตเพียงใด แต่สำหรับปีหน้า 2019 ดาวรุ่งอย่าง Under Armour ยอมรับความจริงว่าจะมีรายได้เติบโตขึ้นประมาณ 3 ถึง 4 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ตัวเลขนี้น้อยกว่าการคาดการณ์ของวอลล์สตรีท ที่เชื่อว่า Under Armour จะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ เบื้องต้นมีการประเมินว่า Under Armour จะเติบโตซบเซาในตลาดอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นตลาดที่ Under Armour พยายามดิ้นรนที่จะเพิ่มยอดขายมาตลอด ท่ามกลางภาวะการแข่งขันที่รุนแรงจากคู่แข่งทั้ง Nike และ Adidas

Patrick T. Fallon | Bloomberg | Getty Images
Kevin Plank, founder and chief executive officer of Under Armour.

CEO Under Armour อย่าง Kevin Plank ไม่พูดถึงประเด็นนี้ แต่กล่าวในแถลงการณ์ว่าบริษัทได้วางกลยุทธ์ในระยะยาว ที่ยึดมั่นเรื่องปกป้องและการผลักดันแบรนด์ Under Armour ให้เติบโต จุดนี้ CEO พยายามเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุน เพราะ Under Armour มีทีมผู้บริหารทรงประสิทธิภาพ การพัฒนานวัตกรรม ร่วมกับการดำเนินงานที่มุ่งมั่นเพิ่มผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น ทำให้ Under Armour มั่นใจว่าบริษัทจะเติบโตต่อไปไม่หยุดในระยะยาว

ระยะสั้น อเมริกาเหนือซึมยาว

สิ่งที่นักลงทุนกังวลใน Under Armour คือการที่บริษัทยอมรับว่าตลาดอเมริกาเหนือจะมีรายได้ทรงตัวต่อไปอีกหลายปี ทำให้รายได้ในตลาดนี้ของ Under Armour อาจจะเติบโตในระดับต่ำเพียงตัวเลขหลักเดียวตั้งแต่ปี 2020 ถึงปี 2023

นอกจากนี้ Under Armour ยังแสดงจุดยืนอีกว่าจะลดปริมาณผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากจีนลงเหลือ 7 เปอร์เซ็นต์จาก 18 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2023 ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดเรื่องนโยบายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ และจีน

ภายใต้รายได้ที่ชะลอตัว Under Armour ไม่ได้นิ่งเฉยแต่เร่งมือปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อลดค่าใช้จ่าย ที่ผ่านมา Under Armour ลดการจ้างงานหลายร้อยตำแหน่งโดยมุ่งเน้นลงทุนระบบการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีนวัตกรรม รวมถึงระบบจัดการสินค้าคงคลังอัจฉริยะ ทั้ง 2 มาตรการทำให้มูลค่าหุ้น Under Armour เพิ่มขึ้นเมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากที่บริษัทสามารถประกาศผลประกอบการที่แข็งแกร่ง แต่ล่าสุดมูลค่าหุ้นลดลงเพราะความกังวลของนักลงทุน

หวั่นใจกรณี Sports Authority เตรียมล้มละลาย

ภาวะวิกฤติของ Under Armour ยังเป็นผลมาจากการเตรียมล้มละลายของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ในสหรัฐฯ อย่าง Sports Authority เนื่องจาก Under Armour ถูกมองว่าเป็นแบรนด์อันดับต้นๆ ที่จะได้รับความเสียหายจากการล้มละลายของ Sports Authority ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ Under Armour มีฐานตลาดหลักในอเมริกาเหนือ (ราว 60%) โดย Under Armour ทำรายได้ในตลาดพื้นที่อื่นเพียง 40% เท่านั้น 

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าคาดการณ์รายได้ของ Under Armour นั้นเป็นการคาดการณ์ที่เจียมตัวเกินไป เนื่องจาก Under Armour มีทิศทางเติบโตดีมากในตลาดจีนและเอเชียแปซิฟิก จุดนี้ทำให้น่าสังเกตว่าปี 2019 จะเป็นปีแห่งการขยายตลาดออกนอกบ้านเกิดของ Under Armour ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนอื่นในหลายภูมิภาคทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม Under Armour ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันดุเดือดกับ Nike, Adidas, Fila และอีกหลายแบรนด์ที่โกยส่วนแบ่งมากขึ้นจากนักช้อปแฟชั่น ขณะเดียวกันก็ต้องบริหารจัดการความตึงเครียดที่เกิดขึ้นท่ามกลางนโยบายทางการค้าระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ และจีน ซึ่งอาจส่งผลให้มีการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมได้อีก ทั้งหมดนี้ทำให้ 2019 ไม่ใช่ปีที่ง่ายสำหรับ Under Armour แน่นอน.

ที่มา :