“ธนวัฒน์ วันสม” ติดใจ ประกวดนางงาม ทุ่ม 1,000 ล้าน เจ้าภาพ “มิสเวิลด์” 2019 

หลังปีก่อนธนวัฒน์ วันสม”  อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท  คืนสู่หน้าจอธุรกิจสื่ออีกครั้งกับการประกาศตัวเป็นผู้คว้าลิขสิทธิ์การประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018” ในประเทศไทย ภายใต้บริษัท  TW Investment Group ก่อนที่จะถูกยกเลิกสิทธิ โดยหุ้นส่วนธุรกิจตี๋ แม็ทชิงคว้างานจัดประกวดไปในท้ายที่สุด จนเกิดมหากาพย์ฟ้องคดีเรียกค่าเสียหาย 600 ล้านบาทตามมา

ครั้งนั้น ธนวัฒน์ ประกาศในงานแถลงข่าวจัดประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018” ว่าจะใช้งบลงทุนราว 1,000 ล้านบาทในการเป็นเจ้าภาพ แต่ในที่สุดก็ไม่ได้ใช้งบประมาณก้อนดังกล่าว ซึ่งก็รอไม่นานสำหรับการจัดงานประกวดระดับโลกที่ใหญ่ไม่แพ้กัน  

โดยเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จูเลีย มอร์ลีย์ ประธานและซีอีโอ มิสเวิลด์ออร์แกไนเซชั่น ประกาศให้ลิขสิทธิ์ บริษัท ทีดับเบิลยู เพเจ้นส์ จำกัด ในเครือ TW Investment Group เป็นผู้จัดการประกวด Miss World 2019 ครั้งที่ 69 รอบสุดท้าย ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศไทยและนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการประกวดมิสเวิลด์ ที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพ   โดยเวที มิสเวิลด์ เป็นการประกวดนางงามระดับนานาชาติ ที่จัดมาต่อเนื่องยาวนานที่สุดในโลกนับตั้งแต่ ปี 1951 (..2494) 

ทุ่มพันล้านจัดมิสเวิลด์

ธนวัฒน์ วันสม ประธานกรรมการผู้บริหาร บริษัท ทีดับเบิลยู เพเจ้นส์ จำกัด กล่าวว่าบริษัทได้ติดต่อขอลิขสิทธิ์จัดประกวดมิสเวิลด์กับ มิสเวิลด์ออร์แกไนเซชั่น มาเป็นเวลา ปี และได้รับลิขสิทธิ์เป็นผู้จัดประกวด มิสเวิลด์ 2019 รอบชิงชนะเลิศ ในประเทศไทยปีนี้  คาดว่าจะใช้งบประมาณจัดประกวดราว 1,000 ล้านบาท ใช้ทีมออร์แกไนเซอร์ระดับประเทศร่วมจัดงานหลายทีม 

ในการประกวดครั้งนี้ จะมีตัวแทนผู้เข้าประกวดมิสเวิลด์ 2019 จาก 130 ประเทศ เดินทางมาร่วมประกวดช่วงเดือนพฤศจิกายนปีนี้ เพื่อเก็บตัวก่อนเข้าประกวดรอบสุดท้ายในกลางเดือนธันวาคม ช่วง 1 เดือนของการเก็บตัว ผู้เข้าร่วมประกวดจะร่วมกิจกรรมในสถานที่ท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรองของเมืองไทย รวมถึงเข้าร่วมกิจกรรมในโครงการ Beauty With A Purpose เพื่อบริจาคช่วยเหลือองค์กรการกุศล

ดึงรัฐเอกชนร่วมสปอนเซอร์

ในการเป็นเจ้าภาพจัดการประกวดมิสเวิลด์ในครั้งนี้  ธนวัฒน์ บอกว่าจะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านศักยภาพของประเทศไทย รวมทั้งช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักสร้างรายได้เข้าประเทศ ในการจัดประกวดมิสเวิลด์ครั้งแรกในประเทศไทย และในรอบ 69 ปี ของเวที มิสเวิลด์ เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากหน่วยงานรัฐและเอกชน ร่วมเป็นสปอนเซอร์สนับสนุนการประกวดครั้งนี้ 

โดยได้ติดต่อไปยังหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อย่าง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ร่วมเป็นสปอนเซอร์  มีภาคเอกชนในธุรกิจความงามให้ความสนใจเช่นกัน  และเนื่องจาก มิสเวิลด์ ได้จัดทำโครงการ Beauty With A Purpose ในการประกวดครั้งนี้จึงมีองค์กรการกุศลต่างๆ ให้ความสนใจเป็นสปอนเซอร์ในครั้งนี้ด้วย  

โอกาสการหารายได้จากการจัดประกวดมิสเวิลด์ นอกจากสปอนเซอร์แล้ว ยังมาจากอีกหลายช่องทาง เช่น การขายบัตรเข้าชมการประกวด การทำเมอร์เชนไดส์  คาดว่าจะทำรายได้จากการจัดประกวดมิสเวิลด์กว่า 1,000 ล้านบาท และมีกำไรแน่นอน” 

ในการถ่ายทอดสดการประกวดรอบชิงชนะเลิศ มิสเวิลด์ ทุกปี ช่อง 3 เป็นผู้ถ่ายทอดสด รวมทั้งการประกวดมิสเวิลด์ 2019 ปีนี้ ช่อง 3 จะเป็นสถานีทีวีที่ถ่ายทอดสดด้วยเช่นกัน  โดยการประกวดมิสเวิลด์รอบสุดท้ายจะถ่ายทอดสดไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

การประกวดมิสเวิลด์ครั้งล่าสุดในปีที่ผ่านมาจัดขึ้นที่ประเทศจีน วาเนซา ปอนเซ เด เลออน” จากเม็กซิโก เป็นผู้ครองตำแหน่งมิสเวิลด์คนปัจจุบัน และ นิโคลีน พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ตัวแทนของประเทศไทยคว้าตำแหน่งรองอันดับ 1 และครองตำแหน่งมิสเวิลด์เอเชีย

ที่ผ่านมา จีน ได้รับสิทธิเป็นเจ้าภาพจัดประกวดมิสเวิลด์ เป็นครั้งที่ 9 โดยมีสาวงามจากประเทศจีนครองมงกุฏมิสเวิลด์แล้ว 2 คน ได้แก่จางจื่อหลิน ในปี 2007 และ หยูเหวินเซียะ ในปี2012  หลังจากประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดมิสเวิลด์ในปีนี้ มีโอกาสที่จะได้รับการพิจารณาเป็นเจ้าภาพจัดอีกในอนาคตเช่นกัน 

สำหรับเวทีการจัดประกวด มิสไทยแลนด์เวิลด์  ซึ่งเป็นเวทีที่จัดคัดเลือกสาวงามเพื่อเข้าร่วมประกวดในเวทีมิสเวิลด์ ดำเนินการจัดประกวดโดย บีอีซีเทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์