ต้องเรียกว่าสั่นสะเทือนธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำ เมื่อ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ผู้ให้บริการสายการบินไทยแอร์เอเซีย ส่งหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์ชี้แจง ถึงกรณีข่าวลือที่บริษัทให้ความสนใจเข้าซื้อหุ้น บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK ผู้ให้บริการสายการบินนกแอร์ จากกลุ่มจุฬางกูรทั้งหมด
โดยบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ได้ชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า บริษัทมีความสนใจและอยู่ระหว่างการพิจารณาถึงความเหมาะสมในการลงทุน เกี่ยวกับการเข้าซื้อหุ้นนกแอร์จากกลุ่มจุฬางกูรทั้งหมดนั้น แต่ยังมิได้มีข้อตกลงอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร และยังไม่ได้กระทำการใดที่มีผลผูกพันบริษัทเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นนกแอร์แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม หากมีความคืบหน้าหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น จะแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ทราบโดยทันที
ขณะเดียวกันด้า ประเวช องอาจสิทธิกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK ได้ออกหนังสือชี้แจงต่อกรณีข่าวลือที่เกิดขึ้นว่า จากกรณีข่าวเกี่ยวกับ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จํากัด (มหาชน) สนใจจะเข้าซื้อหุ้น บริษัท สายการบินนกแอร์ จํากัด (มหาชน) จากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ นั้น บริษัทฯ ขอชี้แจงว่า บริษัทไม่ได้รับข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับการเข้าลงทุนดังกล่าว ตามที่เป็นข่าว แต่อย่างใด
สำหรับ สายการบินนกแอร์ นกอยู่ในภาวะวิกฤติ มีหนี้สินสะสม จนทำให้ผลประกอบการช่วง 9 เดือน ของปี 2561 ขาดทุนถึง 1,962 ล้านบาท นกแอร์ใช้วิธีแก้ปัญหาด้วยการ “เพิ่มทุน” โดยหวังจะนำเงินมาใช้จ่ายขยายเส้นทางและเครือข่ายการบิน
แต่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสอง ซึ่งถือหุ้น นกแอร์ ในสัดส่วน 21.80% ไม่ซื้อหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 198.15 ล้านหุ้น โดยการบินไทยชี้แจงเหตุผลของการไม่เพิ่มทุนให้นกแอร์ว่าแผนการดำเนินธุรกิจยังไม่มีความชัดเจนมากพอ อาจส่งผลต่อความเสี่ยงในการจะอนุมัติเพิ่มทุน ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นหลัง นกแอร์ เพิ่มทุนลดลงเหลือ 15.94% จนทำให้มีกระแสข่าวลือออกมาตลอดว่า กลุ่มจุฬางกูร ซึ่งถือหุ้นอันดับ 1 ถือหุ้นรวมกัน 55% ต้องการขายหุ้นออกไปให้กับสายการบินต่างชาติเพื่อลดภาระ แต่นกแอร์ได้ออกมาปฏิเสธ จนกระทั่งล่าสุดมีกระแสข่าวลือว่า กำลังเจรจาขายหุ้นให้กับแอร์เอเชีย ที่ต้องการ
สำหรับ ราคาหุ้น นกแอร์ ล่าสุด ณ เวลา 16.50 น. อยู่ที่ 3.10 บาท/หุ้น โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 3.14 บาท/หุ้น และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 2.96 บาท/หุ้น โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้แขวนเครื่องหมาย C (Caution) หุ้น NOK เพื่อแจ้งเตือนนักลงทุนพิจารณาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการตัดสินใจลงทุน.