Burger King ท้าชน Starbucks พ่วงบริการสมาชิกรับกาแฟรายเดือนกับแอปเบอร์เกอร์

Burger King เปิดตัวบริการใหม่ในแอปพลิเคชั่น แต่แทนที่จะขายเบอร์เกอร์ Burger King หันมาเพิ่มบริการสมัครสมาชิกรับกาแฟรายเดือนจากร้านพันธมิตรในสหรัฐฯ ก้าวใหม่นี้ทำให้ Burger King ถูกมองว่าตั้งใจท้าชน Starbucks รวมถึงผู้เล่นในวงการกาแฟรายอื่นที่จะเป็นคู่แข่ง Burger King เหมือนที่ McDonald’s เป็นอยู่

แน่นอนว่า Burger King ไม่ได้หันไปชงกาแฟ แต่ใช้วิธีจับมือกับร้านค้าพันธมิตรแล้วขายพ่วงกาแฟไปบนแอปพลิเคชั่น Burger King เรียกชื่อบริการนี้ว่า BK Café Coffee ในสหรัฐฯ ซึ่งผูกค่าให้บริการแบบเหมาในราคายั่วใจ

ที่ว่ายั่วใจคือ Burger King คิดค่าบริการ BK Café Coffee เดือนละ 5 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 160 บาท ซึ่ง Burger King โฆษณาว่าเทียบเท่ากับราคาคาปูชิโน่ 1 แก้วใหญ่ของ Starbucks” แต่สมาชิก BK Café Coffee ในสหรัฐอเมริกาจะได้รับกาแฟทุกวันจากร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการ ผ่านบริการที่มีรูปโลโก้คล้ายนางเงือกนิดๆ

กาแฟร้อนแก้วเล็กเสิร์ฟทุกวัน

ด้วยราคาสบายกระเป๋า บริการ BK Café Coffee จะให้บริการกาแฟร้อนแก้วเล็กเมนูเดียวเท่านั้น โดยไม่รวมกาแฟเมนูพิเศษของ Burger King ที่เป็นเครื่องดื่มเย็นหรือเครื่องดื่มปั่นในรูป frappe ซึ่งมีหลากหลายให้ชาว Burger King เลือกดื่มตามความชอบ

ก้าวใหม่ของ Burger King ถูกมองว่าเป็นไปแนวทางเดียวกับกลยุทธ์สร้างแบรนด์ที่ Burger King พยายามหยอกกัดคู่แข่งโดยตรงเพื่อเป็นสีสันการตลาดมานานหลายปี แต่ความพยายามครั้งล่าสุดแสดงว่า Burger King เน้นเชื่อมโยงกลยุทธ์นี้เข้ากับแอปมือถือ เพื่อเพิ่มความสะดวกและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ประเด็นนี้ทำให้บริการ BK Café Coffee ไม่มีให้บริการกรณีที่ลูกค้าโทรสั่งซื้ออาหาร และไม่สามารถใช้ได้ในบางเมือง เช่น Alaska, Hawaii และ Puerto Rico 

เบื้องต้น Chris Finazzo ประธานฝ่ายปฏิบัติการภูมิภาคอเมริกาเหนือของ Burger King กล่าวในแถลงการณ์ว่า ความเคลื่อนไหวนี้ย้ำถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของ Burger King ในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า Burger King ต้องการแก้ทางเรื่องจุดด้อยด้านกาแฟที่คู่แข่งอย่าง McDonald’s ทำได้ดีกว่า ซึ่งที่ผ่านมา Burger King พยายามผลักดันธุรกิจกาแฟ จนเมื่อไม่นานมานี้มีการเปิดตัวโฆษณาเกี่ยวกับแหล่งกาแฟของ Burger King มากขึ้นในตลาดสหรัฐฯ ดังนั้นบริการ BK Café Coffee จึงจะเป็นอีกช่องทางที่จะเพิ่มความน่าสนใจให้เมนูของ Burger King ได้อีกทาง

เพิ่มยอดโหลดแอป

บริการสมัครสมาชิก BK Café Coffee ไม่เพียงเป็นช่องทางดึงดูดความสนใจไปยังเมนู Burger King แต่ยังสามารถเพิ่มยอดการดาวน์โหลดแอปได้ด้วย โดยเฉพาะจากกลุ่มผู้บริโภคที่คำนึงถึงความคุ้มค่าในการเลือกซื้อกาแฟของตัวเอง

จุดนี้เป็นผลชัดเจนจากค่าสมัครสมาชิกที่มีราคาไม่แพง แม้จะมีข้อจำกัดมากพอสมควรและอาจไม่ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มสัญจรที่เดินทางเข้าร้านด้วยตัวเอง แต่ความเคลื่อนไหวนี้ทำให้ Burger King มีภาพการลงทุนในทิศทางเดียวกับร้านอาหารอื่นหลายแห่ง ที่มักลงทุนอย่างหนักกับระบบสั่งซื้ออาหารและจัดส่งผ่านโทรศัพท์มือถือ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าคนรุ่นใหม่หรือมิลเลนเนียล ซึ่งไม่นิยมอาหารจานด่วนเท่าใดนัก

ที่ผ่านมา Burger King ในสหรัฐฯ จึงเป็นพันธมิตรกับบริษัทอย่าง Grubhub, DoorDash และ Postmates ทั้งหมดเป็นศูนย์ให้บริการจัดส่งอาหารจากร้าน 3,000 แห่งในสหรัฐอเมริกาและร้านอาหารประมาณ 7,000 แห่งทั่วโลก ขณะเดียวกัน Burger King ก็เปิดสิทธิ์ให้ผู้โหลดแอปสั่งซื้อแซนวิชราคาพิเศษเมื่ออยู่ในระยะ 600 ฟุตจากร้านคู่แข่งอย่าง McDonald’s จุดนี้ José Cil หัวหน้าผู้บริหารของ Burger King ย้ำว่าแคมเปญดังกล่าวกระตุ้นการดาวน์โหลดแอปเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านครั้งทีเดียว.

ที่มาhttps://www.businesswire.com/news/home/20190315005025/en