แม้ CPF ของเจ้าสัว “ธนินท์ เจียรวนนท์” จะทำธุรกิจครบตั้งแต่ต้นน้ำผลิตวัตถุดิบ ทั้งหมู ไก่ ปลา จนไปถึงปลายน้ำ ที่มีร้านต่างๆ อยู่ในมือ ไล่มาตั้งแต่ ธุรกิจห้าด้าว, ร้านอาหารเซสเตอร์, ร้านอาหารซีพี คิทเช่น และ ร้านค้าปลีกซีพี เฟรชมาร์ท เป็นต้น
แต่ดูเหมือนว่าบรรดา “ธุรกิจปลายน้ำ” ที่อยู่ในมือ CPF จะยังไม่เพียงพอ ก่อนหน้านี้จึงประกาศลุยธุรกิจอาหารไปถึง 2 แบรนด์ ได้แก่ “Crown Bubble” ชานมไข่มุกยอดฮิต เปิดสาขาแรกที่ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นจูรี่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปแล้ว
ถัดมาไม่กี่วัน ก็เปิดตัวร้าน ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติระดับพรีเมียมในชื่อ “Harbour” ณ ที่ศูนย์การค้าไอคอนสยาม โดยร่วมทุนกับ “ไห่หลายกรุ๊ป” กลุ่มธุรกิจอาหารของไต้หวัน วางแผนไว้ไม่มากไม่มาย แค่ภายใน 5 ปี จะขยายสาขาในไทยเพิ่มเป็น 5 แห่ง เพื่อทำยอดขายรวมกว่า 1,000 ล้านบาท เท่านั้นเอง
ล่าสุดสดๆ ร้อนๆ เช้านี้เอง (5 เมษายน 2019) CPF ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์เรื่อง การใช้เงิน 55 ล้านบาท เข้าซื้อหุ้น 60% บริษัท ดัคกาลบี้ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจร้านอาหารเกาหลีแบบผัดร้อน ภายใต้แบรนด์ “Dak Galbi ” มีสาขารวมกัน 10 แห่งทั่วประเทศ
โดยให้ บริษัท ซีพีเอฟ เรสเทอรองท์ แอนด์ ฟู้ดเชน จำกัด (CPF RF) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ CPF ถือหุ้นทางอ้อม 99.98% เป็นผู้เข้าไปซื้อ คาดกว่าจะใช้เวลาอีก 1 เดือน กระบวนการซื้อขายจะเสร็จสิ้น หลังจากนี้ “Dak Galbi ” จะมีสถานะกลายเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของ CPF
สำหรับ บริษัท ดัคกาลบี้ กรุ๊ป จำกัด แจ้งทุนจดทะเบียน 78 ล้านบาท มีผู้ถือหุ้นหลัก 4 ราย หลังจากขายให้กับ CPF แล้ว ทุนจดทะเบียนจะเพิ่มเป็น 133 ล้านบาท
ด้านรายได้ย้อนหลังของ Dak Galbi ระบุว่า ปี 2016 รายได้ 183 ล้านบาท กำไร 9 ล้านบาท, ปี 2017 รายได้ 171 ล้านบาท กำไร 3 ล้านบาท และ ปี 2018 รายได้ 142 ล้านบาท กำไร 1 ล้านบาท