“ไทยเบฟ” ลุยธุรกิจอาหารร่วมทุนฮ่องกงซื้อกิจการแฟรนไชส์ซูชิสายพาน Genki Sushi ในไทย

ร่วมทุน 2 บริษัท

ค่ายไทยเบฟเวอเรจ (ThaiBev) ยังคงเดินหน้าธุรกิจอาหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจ Non-Alcohol ที่ไทยเบฟให้ความสำคัญอย่างมากในช่วงหลายปีมานี้ นอกจากมีร้านอาหารญีปุ่นโออิชิแล้ว ไทยเบฟยังซื้อกิจการร้านอาหารไทยมาไว้ในมืออีกจำนวนหนึ่ง

ล่าสุด ไทยเบฟ ประกาศตั้งบริษัทร่วมทุน หรือ joint venture ใหม่จำนวน 2 แห่ง พร้อมกับซื้อแฟรนไชส์ ผู้ประกอบการธุรกิจร้านซูชิสายพานจากญี่ปุ่น Genki Sushi ในไทย

ไทยเบฟ ระบุในเอกสารที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ว่า ได้ใช้เงินลงทุนผ่านกองทุนภายใน ทำให้ไม่มีผลกระทบต่อกำไรและสินทรัพย์ของไทยเบฟสำหรับปีงบการเงินนี้

สำหรับรายละเอียดการรวมกิจการของบริษัทร่วมทุนใหม่ 2 แห่งว่าเป็นการร่วมมือระหว่างบริษัท F&N Retail Connection (FNRC) ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัทในเครือไทยเบฟ กับบริษัทอาหารญี่ปุ่นในฮ่องกงชื่อ Japanese Dining Concepts Asia (JDCA)

ทั้ง FNRC และ JDCA ตัดสินใจจัดตั้งบริษัท Japanese Dining Concepts (Thailand) หรือ JDCT ในบริษัทนี้ FNRC จะถือหุ้น 55% ขณะที่ JDCA ถือหุ้น 44.9% ทุนจดทะเบียนรวม 80 ล้านบาท โดยมีทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญ 3 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท

นอกจาก JDCT ที่เป็นบริษัทร่วมทุนแรก ยังมีบริษัทร่วมทุนที่ 2 คือ Genki Sushi (Thailand) หรือ GST โดย JDCT จะถือหุ้น GST จำนวน 51% ในขณะที่ Genki Sushi Singapore (GSS) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ JDCA ถือหุ้น 48.99% พร้อมกับที่ JDCA ถือหุ้น 0.00002% โดย GST มีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญ 5 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท เท่ากัน

สำหรับการซื้อหุ้น Sale Shares มีมูลค่า 9.53 ล้านบาท กำหนดจ่ายเป็นเงินสดโดย GST ให้แก่ผู้ขายเมื่อปิดการซื้อ สำหรับหุ้นขายหรือ Sale Share นี้จะคิดเป็นหุ้น 100% ของ Genki Sushi Bangkapi (GSB) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ Genki Sushi ในประเทศไทย

สำหรับ Genki Sushi Bangkapi ได้ซื้อแฟรนไชส์ร้านซูชิสายพาน Genki Sushi จากญี่ปุ่นมาเปิดดำเนินการในไทย โดยสาขาแรกตั้งอยู่ที่เดอะมอลล์ บางกะปิ แต่หลังจากดีลนี้ กิจการข Genki Sushi จะเปลี่ยนมือไปอยู่ในมือของ JDCA และ Genki Sushi Singapore (GSS) แทน

ไม่ใช่บริษัทย่อย

ประกาศของ ThaiBev ย้ำว่า FNRC จะถูกจัดประเภทเป็นบริษัทร่วมทุน ไม่ใช่บริษัทย่อย หรือ subsidiaries ของ ThaiBev

ทั้งหมดนี้บริษัทระบุว่ามั่นใจในศักยภาพการเติบโตของธุรกิจอาหารในประเทศไทย ถือเป็นอีกขั้นของความพยายามขยายอาณาจักร ThaiBev ในธุรกิจอาหารที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น.