มาอีกราย!! Wallace ไก่ทอด-เบอร์เกอร์ยักษ์ใหญ่จาก ‘จีน’ บุกไทยชิงตลาด 4.5 หมื่นล้านบาท

ขณะที่ร้านอาหารในไทยกำลังเผชิญความท้าทายมากมายและได้ยินข่าวปิดกิจการกันมากขึ้น แต่แบรนด์จีนก็ยังบุกตลาดในบ้านเราไม่หยุด โดย Wallace (วอเลส) แบรนด์ไก่ทอดและเบอร์เกอร์ยักษ์ใหญ่จากจีนเป็นรายล่าสุดที่เข้ามาชิงตลาดร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด หรือ QSR (Quick Service Restaurant) ในไทยที่มีมูลค่ารวมกว่า 45,000 ล้านบาท

 

Wallace เป็นร้านแฟรนไชส์ไก่ทอดและเบอร์เกอร์ที่มีสาขามากกว่า 20,000 แห่งในจีน แซงหน้าฟาสต์ฟู้ดดังอย่าง KFC, McDonald’s และ Burger King รวมถึงมีการขยายสาขาในหลายประเทศเช่น เวียดนาม มาเลเซีย และไท ฯลฯ

 

สำหรับจุดเริ่มต้นของแบรนด์ดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 2000 จากการก่อตั้งของสองพี่น้องได้แก่ Hua Huaiyu และ Hua Huaiqing ร่วมลงทุนกันเปิดร้านไก่ทอดและเบอร์เกอร์สไตล์เดียวกับ KFC และ McDonald’s โดยสาขาแรกอยู่ที่มหาวิทยาลัยครูฝูเจี้ยน เมืองฝูโจว แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้ทั้งคู่ต้องมาตั้งหลักปรับกลยุทธ์กันใหม่

 

ประเด็นแรก ทั้งสองตัดสินใจปรับราคาสินค้าให้ถูกลงกว่า KFC และ McDonald’s ประมาณ 30-60% เพื่อให้ราคาเข้าถึงง่ายและดึงดูดการตัดสินใจของลูกค้า ควบคู่ไปกับการจัดโปรโมชั่นเป็นเซ็ตที่มาในราคาถูกกว่าเดิม

ประเด็นที่ 2 พัฒนาเมนูที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เช่น ขายไก่ทอดและไก่ย่างแบบทั้งตัว ขณะที่คู่แข่งส่วนใหญ่จะขายเป็นชิ้น

ประเด็นที่ 3 เปลี่ยนโมเดลร้านจากขนาดใหญ่มาสู่ ‘ร้านขนาดเล็ก’ เพื่อประหยัดและลดค่าเช่าพื้นที่ ซึ่งถือเป็นต้นทุนสำคัญของร้านอาหาร

ประเด็นที่ 4 เน้นเลือกเปิดสาขาตามย่านที่อยู่อาศัย ตามชุมชน และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ แทนการขยายสาขาในห้างสรรพสินค้า หรือศูนย์การค้า เพราะต้องการให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายและสะดวกสบาย

ประเด็นที่ 5 สองผู้ก่อตั้ง พยายามขยายสาขาแบบกระจายให้ได้มากที่สุด เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้อย่างทั่วถึง รวมถึงเป็นเครื่องมือในการสร้างการรับรู้และโปรโมทแบรนด์ ลดค่าจ่ายทางการตลาด

 

หลังจากปรับกลยุทธ์แล้ว ทำให้ Wallace เติบโตและขยายกิจการได้อย่างรวดเร็ว โดย

ปี 2005 เริ่มทำการสร้างแบรนด์และขยายสาขาไปทั่วประเทศจีน

ปี 2009 ก่อตั้งบริษัท Fujian Wallace Food ในเมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน

ปี 2014 มีสาขากว่า 4,800 แห่ง แซงหน้าคู่แข่ง KFC ที่ตอนนั้นมีสาขาอยู่ที่ 4,600 แห่ง

ปี 2016 Wallace ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่ง ที่เรียกว่า National Equities Exchange and Quotations (NEEQ)

ปี 2019 ขยายสาขาเพิ่มมากกว่า 12,000 แห่งทั่วประเทศ มากกว่าสาขาในจีนของคู่แข่งอย่าง KFC และ McDonald’s

ปัจจุบัน Wallace เป็นแฟรนไชส์ไก่ทอดและเบอร์เกอร์มีสาขาในจีนมากกว่า 20,000 แห่ง และขยายสาขาไปในหลายประเทศ

 

สำหรับประเทศไทย Wallace ได้เข้ามาเมื่อปีที่ผ่านมา โดยผู้ได้รับสิทธิ์มาสเตอร์แฟรนไชส์เพียงผู้เดียว ก็คือ ‘บริษัท ซีเอฟจี แอนด์ เจอีทีไอ (ไทยแลนด์) จำกัด’ ซึ่งกลยุทธ์เพื่อชิงมาร์เก็ตแชร์ตลาด ฟาสต์ฟู้ดในไทยที่มีมูลค่ารวมกว่า 45,000 ล้านบาทก็ใช้แนวทางเดียวกันกับที่ประสบความสำเร็จในจีน

 

โดยเฉพาะกลยุทธ์ ‘ราคาถูก’ อย่าง เบอร์เกอร์มีราคาชิ้นละ 60 บาท, น่องไก่ทอด 1 ชิ้น 39 บาท, ไก่ทอดหรือไก่ย่างทั้งตัว ราคา 149 บาท, ข้าวไก่กรอบ 59 บาท, ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ 15 บาทต่อโคน และมีเครื่องดื่มอย่างกาแฟ ชานม น้ำมะนาว ราคา 29 บาท

 

ขณะที่อาหารแบบเซ็ตก็มีให้เลือกมากมายแถม ‘ราคาถูกกว่า’ แบรนด์เจ้าตลาดพอสมควร เช่น ชุดเบอร์เกอร์ พร้อมเฟรนฟรายส์ และเครื่องดื่ม ราคา 79 บาท บักเก็ตไก่ทอด 8 ชิ้น ราคา 69 บาท ชุดข้าวไก่ย่าง-ไก่ทอด พร้อมเครื่องดื่ม 79 บาท

 

ส่วนการเลือกโลเคชั่นก็ยังยึดแนวทางเดียวกัน คือ มุ่งไปตามแหล่งที่อยู่ ย่านชุมชน และมหาวิทยาลัย โดยปัจจุบันสาขา Wallace ในไทยมีด้วยกัน 6 สาขา ได้แก่ มหาวิทยาลัยหัวเฉียว, ท่าน้ำนนท์, มหาวิทยาลัยศรีประทุม, นัมเบอร์วัน พลาซ่า บางนา-ราม 2, ลาซาล และตลาดสำโรง

 

เมื่อลองวิเคราะห์ดู จะเห็นได้ว่า กลยุทธ์ของ Wallace จะคล้ายกับ MIXUE (มี่เสี่ยว) อีกแบรนด์ยักษ์ใหญ่จากจีน ซึ่งใช้ ‘ราคาถูก’ เป็นหมัดเด็ดในการสร้างแรงสั่นสะเทือนจนตีตลาดเครื่องดื่มและไอศกรีมได้ประสบความสำเร็จมาแล้วก่อนหน้านี้

 

ส่วน Wallace จะสามารถตีตลาดในไทยได้สำเร็จหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป เพราะบรรดาเจ้าตลาดเดิมทั้ง KFC, McDonald’s และ Burger King คงไม่ยอมอยู่เฉยเป็นแน่

 

อ้างอิง

 

https://www.huayuhua.com/en/index/Anli/show/catid/7/id/62.html

https://www.facebook.com/wallacethailand/

https://mp.weixin.qq.com/s/j7uY0tSQEv5VCTSWcJQ63A