ธุรกิจจะเปลี่ยนแปลง หรือขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ต้องการ “ทีมงาน” ถือเป็นหัวใจสำคัญ นอกจากทีมงานเดิมแล้ว ทีมงานใหม่ต้องถูกเติมเข้ามา
หลังจาก “บี๋ อริยะ พนมยงค์” เข้ารับตำแหน่ง President ของบีอีซี เวิลด์ ของกลุ่มช่อง 3 ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา พร้อมกับประเดิมงานใหญ่งานแรกด้วยการคืน 2 ช่องทีวีดิจิทัลเพื่อคงไว้เพียงช่อง 3 HD เพียงช่องเดียว และประกาศมุ่งหน้าหารายได้เพิ่มจากธุรกิจออนไลน์ คอนเทนต์ และบันเทิง
อริยะเองก็บอกว่า ได้มีการนำทีมงานจากภายนอกเข้ามาเสริม เพื่อช่วยขับเคลื่อนให้ช่อง 3 เดินหน้าไปตามกลยุทธ์ที่วางไว้ แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นใครบ้าง
ล่าสุดอริยะได้ดึงตัว 2 ผู้บริหารจาก LINE และกลุ่ม TRUE คนแรกคือ สุชาติ ภวสิริพร Head of Human Resources and General Administration จาก LINE ประเทศไทย (https://positioningmag.com/1167056) เข้ามารับตำแหน่งผู้ช่วย กรรมการผู้จัดการ สำนักทรัพยากรบุคคล บริษัท บีอีซี เวิลด์
สุชาติ เป็นผู้บริหารที่ทำงานใกล้ชิดกับ “บี๋ อริยะ” ตั้งแต่ทำงานด้วยกันที่ LINE และเป็นหนึ่งในผู้บริหาร HR ที่ได้รับการยอมรับจากพนักงานไลน์ ในการพัฒนาองค์กร ให้เหมาะกับคนรุ่นใหม่ ที่ต้องทำงานท้าทายตลอดเวลา และยังบุกเบิกธุรกิจใหม่ LINE JOBS แอปหางานผ่านไลน์
งานใหญ่ของทีม HR จากนี้ไป คือการจัดโครงสร้างการบริหารของทั้งองค์กร และรวมถึงการลดพนักงานของกลุ่มช่อง 3 อยู่ระหว่างการจัดทำแผนการปรับลดพนักงานให้ค่าตอบแทนที่เหมาะสม
ส่วนอีกคนคือ วรุตม์ ลีเรืองสกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท Egg Digital ที่ดูแลด้านการตลาดธุรกิจออนไลน์ของกลุ่มทรู คอร์ปอเรชั่น เข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านปฏิบัติการ บริษัท บีอีซีไอ คอร์ปอเรชั่น แทนที่ มล.ฤดีชนก กฤดากร ที่ลาออกไป
วรุตม์ จะเข้ามาดูแล บีอีซีไอ ทำธุรกิจคอนเทนต์ออนไลน์ทั้งหมดของกลุ่มช่อง 3 ในชื่อบริการ Mello ซึ่งเป็นรูปแบบการชมทีวีออนไลน์ ที่มีทั้ง Original Content ที่ออกอากาศทางช่องทาง Mello และการนำละครที่ออกอากาศไปแล้วของช่อง 3 มาออกอากาศซ้ำ ซึ่ง Mello จะเป็นช่องทางทีวีออนไลน์ช่องทางแรกที่ได้รีรันละครของช่อง 3 ก่อนช่องทางออนไลน์อื่นๆ เช่น LINE และ Youtube
ที่ผ่านมาผลงานจากธุรกิจออนไลน์ของกลุ่มช่อง 3 ยังไม่เติบโตมากนัก โดยในไตรมาสแรกของปี 2562 มีรายได้ในส่วน Digital Content อยู่ที่ 68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.3% จากช่วงเดียวกันของปี 2561 ที่มีรายได้อยู่ที่ 65.7 ล้านบาท แต่ลดลง 8.4% จากไตรมาส 4 ของปี 2561 ที่มีรายได้อยู่ที่ 74.2 ล้านบาท ซึ่งรายได้รวมทั้งปี 2561 ในส่วนนี้มีรวมกันอยู่ที่ 384.1 ล้านบาท โดยมีรายได้สูงสุดในไตรมาสที่ 2 ของปี 2561 ที่มีรายได้อยู่ที่ 115.2 ล้านบาท จากความสำเร็จของละคร “บุพเพสันนิวาส” ที่มีเรตติ้งสูงสุดในยุคทีวีดิจิทัล และเป็นละครที่มีผู้ชมย้อนหลังในช่องทาง Mello สูงสุด
จากการให้สัมภาษณ์ของ “บี๋ อริยะ” เขาระบุว่า กลุ่มช่อง 3 จะมุ่งเดินหน้าทั้งธุรกิจคอนเทนต์ออนไลน์ และออฟไลน์ไปพร้อมๆ กัน โดยที่ Next Step ของกลุ่มช่อง 3 จะต้องเป็นมากกว่าทีวี
การเปลี่ยนแปลงในระดับผู้บริหารครั้งแรกนี้ จึงน่าจะเป็นหนึ่งในแผนการสร้าง Next Step ของกลุ่มช่อง 3 ที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง.