เป็นที่น่าแปลกใจอยู่เหมือนกัน เมื่อ Mark Zuckerberg รวยขึ้นอีก 1,000 ล้านดอลล์ หรือ 30,000 ล้านบาท หลังหุ้นขึ้น 1% มูลค่าหุ้นขึ้นนี้สวนทางกับคณะกรรมการการค้ายุติธรรมหรือ Federal Trade Commission ที่อนุมัติปรับ Facebook ราว 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 1.5 แสนล้านบาท เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเพราะคดีอื้อฉาว “แคมบริดจ์ อะแนลไลติกา” (Cambridge Analytica)
ภาวะหุ้น Facebook เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 1% ในปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้หุ้น Facebook พุ่งสูงสุดในรอบปี ผู้ที่ได้รับอานิสงส์จากภาวะนี้คือ Mark Zuckerberg ซีอีโอที่ทำให้มีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นทันทีตามราคาหุ้นมูลค่า ซึ่งหากคำนวณตามสัดส่วนการถือครองหุ้น Facebook ถึง 88.1% พบว่าเจ้าพ่อ Facebook มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,000 ล้านเหรียญ
ตัวเลขนี้เพิ่มขึ่นในช่วง 30 นาทีหลังข่าวการประกาศปรับค่าเสียหาย Facebook ที่ Federal Trade Commission ต้องการลงโทษกรณีอื้อฉาว Cambridge Analytica เพราะ Facebook ปล่อยให้ข้อมูลผู้ใช้กว่า 50 ล้านคนถูกนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
มูลค่าหุ้น Facebook ที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นภาวะเซอร์ไพรส์ เพราะการสั่งปรับของ FTC มีวัตถุประสงค์เพื่อลงโทษ Facebook และเป็นคำสั่งที่ไม่เคยมีใครคาดคิดว่าจะไปเพิ่มความมั่งคั่งให้กับผู้ถือหุ้นหลักของ Facebook
ด้าน Facebook ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็น ว่าทำไมหุ้นของ Facebook ถึงเติบโตก้าวกระโดดแม้ว่าจะต้องเผชิญกับการลงโทษจาก FTC ที่สูงเป็นประวัติการณ์ 5 พันล้านเหรียญ โดยนักวิเคราะห์ได้แต่ประเมินในเบื้องต้นว่า นักลงทุนยังคงเชื่อมั่นใน Facebook ทำให้เกิดการตอบสนองเชิงบวกต่อแผนดำเนินงานที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันตัวเลขค่าปรับก็ไม่ได้สูงกว่าที่คาดกันไว้
สำหรับการสั่งปรับของ FTC เป็นการเคลื่อนไหวที่ตั้งใจจะเป็นแบบอย่างการลงโทษ เพื่อกระตุ้นให้ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีตื่นตัวและดูแลการจัดการข้อมูลของผู้ใช้อย่างเข้มข้น โดยตลอดปีที่แล้ว FTC ได้ทำการตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Facebook หลายครั้ง
รวมถึงสอบสวนว่าการใช้ข้อมูลของ Cambridge Analytica ขยายวงมากกว่าตัวเลขผู้ใช้ที่ได้รับผล กระทบ 87 ล้านคนหรือไม่ ผลการสอบสวนนำไปสู่ค่าปรับ 5 พันล้านเหรียญตามที่คาดการณ์ แสดงว่าการสอบสวนจบลงด้วยดีและไม่พบช่องทางขยายผลอีก