กสทช.สรุปรายได้ “ทีวีดิจิทัล” ปี 2561 มี 6 ช่องเกิน “พันล้าน”  ต่ำสุดทำได้ 36 ล้าน

สำนักงาน กสทช. สรุปรายได้จากการประกอบกิจการทีวีดิจิทัล 22 ช่อง ปี 2561 เพื่อนำมาประเมินจ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้กับ กสทช. โดยสรุปรายได้รวมทุกช่องอยู่ที่ 20,412 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากปี 2560 ที่มีรายได้รวมกันอยู่ที่ 17,314 ล้านบาท

อันดับ 1 ช่อง 7 เป็นช่องที่แจ้งรายได้สูงสุดไว้ที่ 4,594 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีรายได้รวม 3,591 ล้านบาท สาเหตุจากช่อง 7 เพิ่มสัดส่วนรายได้ของธุรกิจทีวีดิจิทัลมากขึ้น หลังจากยุติทีวีแอนะล็อกไปวันที่ 15 มิ.ย. 2561

อันดับ 2 เวิร์คพอยท์ทีวี มีรายได้รวม 2,626 ล้านบาท รายได้ “ลดลง” จากปี 2560 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,172 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากความนิยมของรายการหลักๆ ในช่องเวิร์คพอยท์ลดลง จึงมีผลต่อรายได้โฆษณา

อันดับ 3 Mono 29 มีรายได้ 1,818 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2560 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,566 ล้านบาท

อันดับ 4 ช่อง 3HD มีรายได้ 1,800 ล้านบาท เป็นการรายงานรายได้แบบคงที่ นับตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา (ช่อง 3 HD ออกอากาศคู่ขนานช่อง 3 แอนะล็อก รายได้อีกส่วนอยู่ที่ช่อง 3 แอนะล็อก)

อันดับ 5 One 31 มีรายได้รวม 1,622 ล้านบาท โดยเป็นช่องที่เติบโต 217.9% เมื่อเทียบกับปี 2560 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 510 ล้านบาท

อันดับ 6 ช่อง 8 มีรายได้รวม 1,397 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากปี 2560 รายได้อยู่ที่ 1,348 ล้านบาท

อันดับ 7 ไทยรัฐทีวี มีรายได้รวมอยู่ที่ 919 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 อยู่ที่ 666 ล้านบาท

อันดับ 8 อมรินทร์ทีวี มีรายได้ 892 ล้านบาท เติบโตชัดเจนจากปี 2560 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 519 ล้านบาท

อันดับ 9 True4U มีรายได้ 765 ล้านบาท “ลดลง” จากปี 2560 ที่มีรายได้ 780 ล้านบาท

อันดับ 10 GMM25 รายได้ 639 ล้านบาท  “ลดลง” จากปี 2560 ที่มีรายได้ 770 ล้านบาท

อันดับ 11 ช่อง 3 SD รายได้ 625 ล้านบาท “เพิ่มขึ้น” จากปี 2560 ที่มีรายได้ 496 ล้านบาท

อันดับ 12 MCOT HD รายได้ 486 ล้านบาท “เพิ่มขึ้น” จากปี 2560 ที่มีรายได้ 178 ล้านบาท

อันดับ 13  เนชั่นทีวี รายได้ 431 ล้านบาท เป็นช่องข่าวที่มีรายได้สูงสุด และเพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีรายได้ 347 ล้านบาท

อันดับ 14 TNN รายได้ 392 ล้านบาท  “เพิ่มขึ้น” จากปี 2560 ที่มีรายได้ 379 ล้านบาท

อันดับ 15 PPTV รายได้ 380 ล้านบาท เป็นช่องวาไรตี้ เอชดี ที่ทำรายได้ต่ำสุด แต่เพิ่มขึ้น จากปี 2560 ที่มีรายได้ 292 ล้านบาท

อันดับ 16 ไบรท์ทีวี รายได้ 247 ล้านบาท “เพิ่มขึ้น” จากปี 2560 ที่มีรายได้ 216 ล้านบาท

อันดับ 17 สปริงนิวส์ รายได้ 224 ล้านบาท “เพิ่มขึ้น” จากปี 2560 ที่มีรายได้ 190 ล้านบาท

อันดับ 18 สปริง 26 (Now 26) รายได้ 214 ล้านบาท “เพิ่มขึ้น” จากปี 2560 ที่มีรายได้ 163 ล้านบาท

อันดับ 19 ช่อง 3 Family รายได้ 146 ล้านบาท “เพิ่มขึ้น” จากปี 2560 ที่มีรายได้ 100 ล้านบาท

อันดับ 20 NEW 18  รายได้ 111 ล้านบาท “ลดลง” จากปี 2560 ที่มีรายได้ 115 ล้านบาท

อันดับ 21 MCOT Family รายได้ 48 ล้านบาท  “ลดลง” จากปี 2560 ที่มีรายได้ 50 ล้านบาท

อันดับ 22 วอยซ์ทีวี รายได้ 36 ล้านบาท  “ลดลง” จากปี 2560 ที่มีรายได้ 62 ล้านบาท

รายได้ทีวีดิจิทัล ปี 2561 มี “6 ช่อง” ทำรายได้เกินหลัก “พันล้านบาท” มี 15 ช่อง รายได้ “เพิ่มขึ้น” จำนวน 6 ช่อง รายได้ “ลดลง” และมี 1 ช่องรายได้ “คงที่”

โดยมีช่องทีวีดิจิทัลขอคืนใบอนุญาต 7 ช่อง ที่จะทยอยยุติออกอากาศ วันที่ 16 ส.ค.นี้  เวลา 0.01 น. รวม 3 ช่อง คือ สปริงนิวส์, สปริง 26 และ ไบรท์ทีวี ยุติออกอากาศ วันที่ 1 ก.ย. เวลา 0.01 น. คือ วอยซ์ทีวี ยุติออกอากาศวันที่ 16 ก.ย.เวลา 0.01 น. คือ ช่อง 14 Family และยุติออกอากาศ วันที่ 1 ต.ค. เวลา 0.01 น. รวม 2 ช่อง คือ ช่อง 3 SD และช่อง 13 Family

ดังนั้นจะเหลือ “ทีวีดิจิทัล” ประเภทธุรกิจทั้งหมด 15 ช่อง และทีวีดิจิทัลบริการสาธารณะ 4 ช่อง รวมมีช่องทีวีดิจิทัล 19 ช่องในประเทศไทย.