“Donki” เตรียมเขย่าค้าปลีกอเมริกัน ตั้งเป้าสยายปีก 100 สาขาชน e-commerce

บริษัทแม่ Don Quijote หรือ Donki แบรนด์ค้าปลีกสินค้าลดราคาสัญชาติญี่ปุ่นมั่นใจพร้อมบุกตลาดสหรัฐฯครั้งใหญ่ วางเป้าหมายเพิ่มจำนวนร้านเป็น 100 สาขาจากที่มีอยู่ 38 สาขาในระยะยาว ลุยพัฒนารูปแบบค้าปลีกแนวใหม่ดึงดูดลูกค้าในท้องถิ่นให้มากขึ้น ยกระดับสร้างจุดต่างจากธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปที่มีอยู่แล้วในตลาด 

ความมั่นใจใน Don Quijote มาจากบริษัทแม่ Pan Pacific International Holdings (PPIH) ที่ระบุว่ากำลังพัฒนารูปแบบค้าปลีกใหม่ให้โดนใจคนอเมริกัน เป้าหมายคือการดึงดูดผู้บริโภคคนพื้นที่ด้วยจุดยืนที่แตกต่างจากธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตซึ่งปัจจุบัน PPIH ให้บริการอยู่แล้วผ่าน Marukai ธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตที่ PPIH นำร่องให้สหรัฐอเมริกามาก่อนหน้านี้

Koji Ohara ซีอีโอ PPIH ยอมรับว่าความที่ Marukai มีภาพเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ต ทำให้ตลาดมีความจำกัดในการขยายตัว เพื่อทลายข้อจำกัดและเดินหน้าขยายตลาดในสหรัฐอเมริกาให้โดดเด่น PPIH จะพัฒนารูปแบบร้านค้าใหม่ที่จะมีธีมหลักเหมือนร้าน Don Quijote การโกยสินค้าหลากหลายมาโชว์จนเหมือนลูกค้าเดินอยู่ท่ามกลางป่าที่น่าค้นหานั้นจะเป็นอาวุธที่บริษัทเชื่อว่าสามารถต้านแรงกดดันจากอีคอมเมิร์ซในแดนลุงแซมได้

สินค้าแน่นสีสันจัดเต็ม

Ohara ผู้ที่จะขึ้นเป็นประธาน Pan Pacific Retail Management บริษัทลูกในสหรัฐอเมริกาของ PPIH อธิบายว่าที่ตัดสินใจเลือกธีมร้าน Donki มาเปิดตลาดอเมริกันเป็นเพราะชื่อเสียงเรื่องการแสดงสินค้าแนว jungle ซึ่งเน้นเครื่องแน่นบนความวุ่นวายหลากหลายอัดแน่นในพื้นที่ร้านขนาดเล็ก ทำให้การเดินช็อปปิ้งใน Donki ให้อารมณ์ที่ต่างจากร้านทั่วไปแถมยังมีโซนส่วนลด และการโฆษณา จุดขายที่มีสีสันจดจำได้ง่าย

การเปลี่ยนไปหาสไตล์ Donki นี้แสดงว่า PPIH ต้องการปรับกลยุทธ์ธุรกิจในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดที่มีการขยายธุรกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไป ผ่านการซื้อกิจการร้านค้าปลีกในพื้นที่ตั้งแต่ปี 2006 โดย Ohara จะพ้นตำแหน่ง CEO ในเดือนกันยายนนี้เพื่อหันมารับผิดชอบในตลาดสหรัฐอเมริกาเต็มตัว บนเป้าหมายเพิ่มร้านค้าจาก 38 สาขาในปัจจุบันเป็น 100 สาขาในอนาคต

ปัจจุบัน ร้านค้าในสหรัฐฯ ที่ PPIH มีอยู่ส่วนใหญ่เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ส่วนร้านค้า Don Quijote มีจำนวน 3 แห่งในฮาวาย ซึ่งขณะนี้ใช้วิธีขยายประเภทสินค้าให้หลากหลายขึ้นในแต่ละสาขา

เน้นเจาะตลาดคนเอเชียในสหรัฐฯ

แม้จะยืนยันว่าหวังเจาะตลาดคนพื้นที่ แต่นักวิเคราะห์มองว่า PPIH ดำเนินธุรกิจในสหรัฐฯ โดยพึ่งพาลูกค้าชาวญี่ปุ่นและเอเชียสัญชาติอื่นในท้องถิ่น ทำให้การเติบโตมีความจำกัดและไม่ดึงให้ PPIH เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ได้

ความน่าสนใจคือ Ohara ย้ำว่า Donki เป็นผู้ค้าปลีกรายเดียวในญี่ปุ่นที่สามารถรับมือกับยุคดิจิทัล โดยที่ผ่านมา ยังไม่มีผู้ค้าปลีกรายใดที่สามารถแข่งขันกับอีคอมเมิร์ซในสหรัฐฯ ได้ บริษัทจึงตั้งเป้าเปิด Donki สาขาใหม่โดยเน้นเติมในพื้นที่ว่างที่ร้านค้าปลีกอื่นปิดตัวลง

รายงานระบุว่า ธุรกิจของ PPIH ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะยังคงดำเนินต่อไปภายใต้การดูแลของผู้ก่อตั้ง PPIH และผู้อำนวยการ Takao Yasuda ซึ่งประจำอยู่ที่สิงคโปร์ ขณะที่ผู้สืบทอดตำแหน่ง CEO แทน Ohara คือ Naoki Yoshida โดยจะเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนปรับโครงสร้าง PPIH ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า.

Source