พลังเครือข่าย ASTV

หลังจุดติดกระแสความนิยม จากการถ่ายทอดการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จนได้ชื่อว่าเป็นเรียลลิตี้การเมืองถ่ายทอดสด 24 ชั่วโมง เอเอสทีวีก็ขึ้นทำเนียบกลายเป็นผู้ประกอบธุรกิจทีวีดาวเทียมที่เป็นตัวเลือกรายแรกๆ ของคนดูที่ต้องการเสพข่าว โดยมีช่องข่าว NEWS1 เป็นหัวหอกหลัก พร้อมกับอีก 4 ช่องรายการ ซึ่งผลิตขึ้นเพื่อตอบสนองคนดูที่แตกต่างกันไป คือ Thai -Asean news network, e-san Discovery ช่องเถ้าแก่ ซุปเปอร์บันเทิง และช่องน้องใหม่ล่าสุด ASTV Shopping

ซุปเปอร์บันเทิง เป็นช่องรายการเกิดใหม่ที่เปิดขึ้นเมื่อปลายปี 52 แต่เรตติ้งกลับดีวันดีคืนจนทุกวันนี้เป็นช่องยอดนิยมเป็นอันดับ2รองจากช่องข่าว news1 ซึ่งแต่เดิมเป็นช่ องวาไรตี้ ชาแนล ที่นำมายกเครื่องใหม่ใส่บุคลิกความเป็น “ซ้อเจ็ด” คอลัมน์บันเทิงระดับตัวแม่ในเว็บแมเนเจอร์ออนไลน์ ได้สร้างจุดขายใหม่ที่แตกต่างไปจากรายการบันเทิงที่มีอยู่ในท้องตลาด

ความดังและแรงของซ้อเจ็ด ทั้งจากปากต่อปาก และการตอบรับของเคเบิลท้องถิ่น ซึ่งยังไม่มีข่าวบันเทิงสำนักไหนกล้าเจาะลึกหรือนำเสนอได้เหมือน บวกกับการใช้ประโยชน์จากสื่อออนไลน์ นอกจากดูผ่านเคเบิลท้องถิ่นและทีวีดาวเทียม ยังสามารถดูรายการศผ่าน เว็บ manager.co.th เพียงแค่ 2 เดือนที่ออกอากาศ ช่องซุปเปอร์บันเทิง ที่เคยต้องถูกเบียดออกจากผังรายการ กลับกลายเป็นช่องที่ได้รับความนิยมสูง จากการบอกปากต่อปาก กลายเป็นความดังระดับTalk of the town นอกจากต้องการของเคเบิลท้องถิ่น แม้แต่เคเบิลทีวีรายใหญ่ของประเทศยังเคยทาบทามให้ไปอยู่ในเครือข่าย

“เราเองก็ยังไม่ได้ตัดสินใจ แต่ถ้าประเมินกันจริงๆ จะเห็นได้เลยว่า ตลาดทีวีดาวเทียมมีแต่โตกับโตอยู่แล้ว เป็นเพราะราคาจานดาวเทียมก็ถูกมาก เสียเงินแค่ 2,290 บาท ก็ติดตั้งจานดาวเทียมได้แล้ว ยิ่งเวลานี้ กสทโทรคมนาคมร่วมกับกลุ่มสามารถทำจานดาวเทียมออกมาขายแค่ 400 บาท ก็ยิ่งทำให้ตลาดโต “ จิตตนาถ ลิ้มทองกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เครือเอเอสทีวี สะท้อนความเห็น

เมื่อทั้ง 5 ช่องรายการสามารถตอบโจทย์ความต้องการหลากหลายให้กับคนดูในตลาดแตกต่างกันไป บวกกับพลังของเครือข่ายแฟนคลับเอเอสทีวี พลังมวลชนที่คอยอุดหนุดสินค้าเอเอสเอทีวีอย่างเหนียวแน่นและกระจายอยู่ทั่วประเทศ กลายเป็นจุดขายใหม่ที่นำไปสู่ความเป็น “Network ASTV” โดยเอเอสทีวีได้ร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นผลิตจานดาวเทียม ขายชุดดาวเทียมให้กับกลุ่มคนดูที่ต้องการดูรายการของเอเอสทีวีอย่างเดียว (แต่ก็สามารถดูรายการอื่นๆได้) ออกวางขาย เป็นหมากเด็ดของค่ายเอเอสทีวีที่ไม่เหมือนใคร

สำหรับมุมมองการแข่งขันในธุรกิจทีวีดาวเทียมที่มีผู้เล่นหน้าใหม่เข้าสู่ธุรกิจนี้มากมาย จิตตนาถ บอกว่า เป็นเรื่องที่ดีของผู้บริโภคที่จะมีเนื้อหาหลากหลายให้เลือกชม แต่สำหรับผู้ผลิตรายการ ก็ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถในการผลิตรายการ และเงินทุน เป็นเสบียงกรังที่ใช้วัดว่าใครจะยืนหยัดอยู่ได้นานกว่ากัน

“ตลาดทีวีดาวเทียม เป็น Free Market ที่วัดกันด้วยความสามารถล้วนๆ ใครๆ ก็เข้ามาในตลาดนี้ได้ แต่อาจมีข้อจำกัดเรื่องของความสามารถของจานดาวเทียมในช่วงนี้ ซึ่งรองรับได้เต็มที่ 120 ช่อง เมื่อมีผู้ประกอบการ 200 ราย ช่องรายการไม่พอ และที่สำคัญผมว่าคนดูจริงๆ ไม่เกิน 20 ช่อง เมื่อคนผลิตเยอะแต่มีช่องรองรับน้อย แม้ว่าช่องที่มีเรตติ้งดีที่สุด ก็ไม่แน่ว่าจะไปรอดหรือไม่ จึงขึ้นอยู่กับสายป่าน ใครสายป่านยาวก็อยู่ได้ อย่างเอเอสทีวี แม้เราจะมีเรตติ้งดีอันดับหนึ่งเลย ตลอดกาล แต่ถ้าเกิดว่าเรามีปัญหาด้านเงินทุนมันไม่คุ้มกับรายได้ ต่อให้เรตติ้งเราดี ก็คงอยู่ลำบาก”

จากจำนวน 6 ช่องที่ทำอยู่ เหมาะสมกับกำลังคนและกำลังทุนที่เอเอสทีวีมีอยู่ คงไม่เพิ่มช่องรายการขึ้น แต่จะมุ่งเน้นสร้างบุคลิกของทั้ง 6 ช่องรายการให้เด่นชัดขึ้น เหมาะกับกลุ่มคนดูมากยิ่งขึ้น