วิเคราะห์ตลาดเครื่องฟอกอากาศ รับมือ PM 2.5 ที่ยังแก้ปัญหาไม่ตก

แม้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 รอบปลายกันยายนกำลังคลี่คลายลงแล้ว แต่ใช่ว่าจะนิ่งนอนใจได้ เพราะมันมีโอกาสกลับมาทำร้ายสุขภาพได้อีกเสมอ ดังนั้นควรจะหาตัวช่วยเช่นเครื่องฟอกอากาศมาใช้

หากใครจำได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ที่ปริมาณฝุ่นควันพิษพุ่งแตะระดับสูงสุด เครื่องใช้ไฟฟ้าดังกล่าวได้กลายเป็นสินค้าหายาก ขาดตลาดทุกรุ่น ทุกช่วงราคาตั้งแต่รุ่นต่ำกว่าพันไปจนถึงหลักแสนบาท และมีราคาดีดขึ้นไปเกือบ 2 เท่า

จากการสำรวจล่าสุดของ Priceza พบว่าในสถานการณ์ปัจจุบัน ยังไม่มีสัญญาณอะไรที่บ่งบอกว่ามันจะขาดตลาด หรือมีการปรับราคาเหมือนครั้งที่ผ่านมา โดยผู้เขียนมองว่าช่วงเวลานี้เหมาะสมที่สุดในซื้อ

เครื่องฟอกอากาศไม่ขาดตลาดแน่นอน

ตามที่ Priceza Insight เคยรายงานเกี่ยวกับจำนวนออเดอร์เครื่องฟอกอากาศของแบรนด์ต่างๆ อาทิ Sharp, Xiaomi, Hatari, Dyson, Toshiba ฯลฯ ในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ – มีนาคม ว่ามียอดขายรวมคิดเป็น 400% หรือราวๆ 30,000 เครื่องต่อเดือน เมื่อเทียบกับยอดขายช่วงก่อนจะเกิดวิกฤตฝุ่น

ข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เห็นว่ามีเครื่องฟอกอากาศจำนวนมากถูกขายออกไปสู่มือผู้บริโภคแล้ว และด้วยพื้นฐานของเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้ที่มีอายุการใช้งานนาน สามารถเปลี่ยนแผ่นกรอง (ไส้กรอง) ได้เรื่อยๆ ส่งผลให้ความที่ต้องการสินค้าในรอบนี้น่าจะมีจำนวนลดลง

ประกอบกับข้อมูลกราฟแสดงจำนวนคลิก ในกลุ่มสินค้าเครื่องฟอกอากาศ จำนวน 97,535 รายการ 59 ยี่ห้อ จาก 65 ร้านค้า ทั้งบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น Priceza รวม 3 ไตรมาส ของปี 2562 ได้ยืนยันถึงดีมานด์ที่ลดลงอย่างชัดเจน โดยเส้นกราฟสีแดงเป็นช่วงที่ปัญหากำลังเกิดขึ้น และเส้นกราฟสีเหลืองคือช่วงก่อน – ระหว่างเกิดปัญหาฝุ่นรอบใหม่

ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อสำรวจจำนวนสินค้าคงคลังล่าสุด จากร้านค้าออนไลน์หลายแห่ง ทั้ง Marketplace อาทิ Shopee, Lazada, JD Central หรือเว็บไซต์ร้านค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ พบว่ายังคงมีสินค้าพร้อมจำหน่ายจำนวนมาก

Sharp แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่น ที่มียอดออเดอร์เครื่องฟอกอากาศเป็นอันดับหนึ่งบนไพรซ์ซ่า กล่าวว่า แบรนด์มีการผลิตสินค้าป้อนตลาด และทยอยกระจายสินค้าให้ตัวแทนจำหน่ายอย่างสม่ำเสมอ

เมื่อนำข้อมูลสินค้าคงคลัง และกำลังการผลิตทั้งหมดนี้ ไปวิเคราะห์ร่วมกันกับขนาดดีมานด์ ทำให้ผู้เขียนมั่นใจว่า เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้จะจำนวนเพียงพอต่อความต้องการ และไม่ประสบปัญหาขาดตลาดเหมือนที่ผ่านมาอย่างแน่นอน

ราคาเครื่องฟอกอากาศยังไม่ขึ้น แนะนำซื้อช่วงนี้ดีที่สุด

จากการสำรวจราคาเครื่องฟอกอากาศล่าสุด เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2562 ยังไม่พบการปรับราคาขึ้นแต่อย่างใด ในทางกลับกันกลับพบว่ามีการปรับราคาลดลงเล็กน้อย ซึ่งการปรับราคาที่เกิดขึ้นทั้งหมดล้วนมาจากร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ไม่ได้มาจากแบรนด์ผู้ผลิตโดยตรง

เมื่อมองย้อนกลับไปดูสถิติราคาเครื่องฟอกอากาศ 2 รุ่นยอดนิยม ได้แก่ Sharp FP-J30TA และ Xiaomi Mi Air Purify 2S เทียบราคาต่ำสุด สูงสุด และราคากลางตอนเปิดตัว ในไตรมาสแรกของปีที่ปัญหาฝุ่นอยู่ในขั้นวิกฤต พบว่าราคาของ Xiaomi พุ่งสูงสุดไปแตะที่ 5,700 บาท มากกว่าราคาตอนเปิดถึง 66%

นอกจากนี้ ข้อมูลในไตรมาสที่ 2 ช่วงสถานการณ์ฝุ่นกลับมาเป็นปกติ ยังแสดงให้เห็นอีกว่าเครื่องฟอกอากาศเป็นสินค้าที่แทบไม่เคยลดราคาเลย ยกเว้นจะมีรุ่นใหม่ออกมา และการปรับราคาลงแต่ละครั้งสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท

ด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนจึงวิเคราะห์ว่า สำหรับใครที่ยังไม่มีเครื่องฟอกอากาศไว้ใช้ ช่วงเวลานี้เป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุดที่จะซื้อ

ซื้อเครื่องฟอกอากาศที่ไหนดี

หากใช้เกณฑ์ด้านราคาเป็นตัววัด การซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะเมื่อเปรียบเทียบราคากับร้านค้าที่มีหน้าร้าน พบว่าราคาออนไลน์สามารถซื้อได้ถูกกว่า รวมไปถึงยังมีการจัดแคมเปญโปรโมชั่นบ่อยครั้งกว่า อาทิ Flash Sale, 9.9, 10.10 สามารถใช้โค้ดส่วนลด หรือการนำแต้มที่สะสมมาใช้แทนส่วนลดเพิ่มเติมได้ เป็นต้น

ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับใครที่กังวลเรื่องความปลอดภัยในการซื้อของออนไลน์ ปัจจุบันมีหลายแบรนด์ที่เลือกเปิด Online Shop ของตัวเองหรือบนร้านมาร์เก็ตเพลส ทำให้ผู้บริโภคเราได้รับสินค้าจากผู้ผลิตโดยตรง มั่นใจเรื่องการรับประกันได้

ตัวอย่าง เมื่อซื้อเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier ออนไลน์จะได้ราคาดีที่สุดที่ 3,393 บาท จากราคาเดิมในศูนย์ 3,990 บาท เป็นต้น

สรุปแล้วเครื่องฟอกอากาศยังคงจำเป็นอยู่หรือไม่?

ถึง กรมควบคุมมลพิษ จะบอกว่าปัญหาฝุ่น PM 2.5 รอบนี้ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และภาคกลาง จะไม่หนักหนาเท่าครั้งที่ผ่านมา และได้คลี่คลายสถานการณ์ลงจนเกือบเป็นปกติแล้ว แต่ฝุ่นควันขนาดเล็กกว่าเส้นผม 30 เท่านี้ อาจจะกลับมาสร้างปัญหาต่อสุขภาพได้อีกเสมอ โดยเฉพาะช่วงเดือน ธันวาคม – มีนาคมของทุกปีที่มีอากาศนิ่งกว่าช่วงอื่นๆ ดังนั้นการมีเครื่องฟอกอากาศเอาไว้ในบ้าน จึงยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก

“หากคุณจำเป็นต้องออกไปในที่โล่งแจ้ง ก็ควรหาหน้ากาก N95 มาสวมใส่เพื่อป้องกันอันตราย ถ้าไม่มีก็สามารถใช้หน้ากากอนามัยซ้อนกระดาษทิชชู่สัก 2 – 3 ชั้น ก็พอช่วยได้เหมือนกัน” กรมอนามัยแนะนำ

สุดท้ายนี้หากคุณไม่มีปัญหาเรื่องรายจ่าย ผู้เขียนขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งว่า ควรหาซื้อ เครื่องฟอกอากาศ มาใช้ แม้ในระยะสั้นคุณอาจจะยังรู้สึกว่าตัวเองไม่เป็นอะไร แต่ในระยะยาวไม่มีใครรับประกันได้ว่าคุณ คนในครอบครัว หรือสัตว์เลี้ยงของคุณจะไม่ป่วยเพราะฝุ่นควัน PM 2.5 นี้ ซึ่งแน่นอน “การป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไข”