-
ทั่วโลกมีธุรกิจเปิดหน้าร้านบนแพลตฟอร์มในเครือ Facebook รวม 140 ล้านราย
-
Top 3 สินค้าที่คนเสิร์ชหามากที่สุดใน Instagram ประเทศไทยคือ ของใช้ส่วนตัว แฟชั่น และกลุ่มบิวตี้
-
IG Stories มีคนใช้วันละ 500 ล้านครั้ง เป็นช่องทางให้ร้านค้าสื่อสารกับลูกค้าได้ใกล้ชิดขึ้น
-
ไทยชิมลางจัด Instagram Academy เป็นประเทศที่สองในโลกต่อจากอินโดนีเซีย
“ชวดี วงศ์พยัต” หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจระดับประเทศ แผนกธุรกิจนานาชาติ ประจำ Facebook ประเทศไทย เปิดเผยตัวเลขบัญชีร้านค้าบนแอปพลิเคชันในเครือ Facebook ได้แก่ Facebook, Instagram, Whatsapp ว่า มีทั้งหมด 140 ล้านบัญชีทั่วโลก และยังคงเติบโตขึ้นเนื่องจากคนรุ่นใหม่สนใจการทำธุรกิจมากขึ้นและเร็วขึ้น ยกตัวอย่างในอินโดนีเซีย มีผู้ประกอบการวัยเพียง 15 ปี และเธอเริ่มทำธุรกิจด้วย Instagram
เฉพาะแพลตฟอร์ม Instagram มีผู้ใช้งานทั่วโลก 1 พันล้านบัญชี (เป็นบัญชีนอกประเทศสหรัฐอเมริกา 80%) และสินค้ายอดฮิตที่ผู้ใช้เสิร์ชหากันมากที่สุด ได้แก่ ของใช้ส่วนตัว แฟชั่น และกลุ่มบิวตี้ เฉพาะประเทศไทย สินค้าที่เสิร์ชหามากที่สุดคือ “แฟชั่น” โดยเห็นเทรนด์ได้จากแฮชแท็กภาษาไทย และหากดูจาก Top 10 แฮชแท็กเกี่ยวกับแฟชั่น เราจะเห็นเทรนด์ชัดเจนว่าปีนี้ผู้บริโภคชอบแฟชั่นกลุ่มไหนมากที่สุด
ชวดียังแนะนำไฮไลต์ฟีเจอร์สำคัญที่พ่อค้าแม่ค้าหันมาใช้มากขึ้นคือ IG Stories เพราะผู้บริโภคเองนิยม ปัจจุบันมีผู้ใช้โพสต์ IG Stories วันละ 500 ล้านครั้งทั่วโลก รองลงมาที่เป็นที่นิยมคือโพสต์วิดีโอ ซึ่งเติบโตขึ้น 60% ในรอบปีนี้
ฟีเจอร์ IG Stories ทำหน้าที่ที่ต่างจากหน้าฟีดส์ปกติของ Instagram แต่เดิมหน้าฟีดส์ของ Instagram เป็นที่ทราบกันดีว่าเน้นรูปภาพสวยงาม ถ่ายภาพและตกแต่งภาพอย่างตั้งใจ ดังนั้นก่อนจะโพสต์สิ่งใดมักผ่านกระบวนการคิดหลายขั้นตอน แต่ IG Stories นั้นจะหายไปใน 24 ชั่วโมง ทำให้มีวัฒนธรรมการโพสต์แบบสบายๆ เน้นความสนุกสนาน ตกแต่งด้วยสติกเกอร์ได้ และยังเป็นภาพแนวยาวเต็มหน้าจอที่ทำให้เห็นภาพกว้างขึ้น
เมื่อเป็นเช่นนี้ทำให้ธุรกิจปรับตัวมาใช้ IG Stories ด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่าง “ลลิตา คุณาดิเรกวงศ์” เจ้าของแบรนด์ Copper.BKK ร้านเสื้อผ้าออนไลน์ที่ก่อตั้งมา 2 ปี ให้ความเห็นว่าหน้าฟีดส์เป็นพื้นที่ลงภาพสินค้าแบบปกติ แต่ IG Stories ใช้ถ่ายพรีวิวสินค้าล็อตใหม่แบบเร็วๆ กระตุ้นความสนใจ และใช้ฟีเจอร์ถามตอบ (Q&A) ช่วยให้ลูกค้าพูดคุยเรื่องสินค้าง่ายขึ้น และกด forward ส่งต่อไปให้เพื่อนดูได้ง่ายด้วย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด Instagram มีการเปิดทดลองฟีเจอร์ “ซ่อนยอดไลค์” จุดมุ่งหมายให้ผู้ใช้รู้สึกกดดันน้อยลงเมื่อภาพของตนมียอดไลค์ไม่มาก และระบบจะสุ่มเปิดฟีเจอร์นี้ในบัญชีใดก็ได้ไม่เว้นบัญชีธุรกิจ ซึ่งจะมีผลกระทบกับพ่อค้าแม่ค้าหรือไม่นั้น Facebook ประเทศไทยตอบกลางๆ ว่าฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในช่วงทดลองและรอดูผลตอบรับของผู้ใช้ทุกกลุ่ม ที่แน่ๆ คือเจ้าของบัญชีจะยังเห็นยอดไลค์ของตนเองอยู่ ทำให้ดาต้าลูกค้าไม่ได้หายไป
Facebook ประเทศไทยให้ข้อมูลด้วยว่า พฤติกรรมการซื้อของของคนไทยเป็นเอกลักษณ์ต่างจากประเทศอื่น 2 เรื่องคือ เป็น Conversation Commerce นั่นคือลูกค้าต้องการพูดคุยกับร้านสูงเพราะต้องการความไว้วางใจ ทำให้การปิดการขายส่วนใหญ่เกิดขึ้นในระบบแชท อีกเรื่องคือ Live ขายสินค้า ซึ่งไทยเป็นผู้นำเทรนด์ในเรื่องนี้
ทั้งนี้ จากเทรนด์การค้าขายบนโซเชียลมีเดียของคนไทย ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่สองของโลกที่ Facebook จัด Instagram Academy ต่อจากอินโดนีเซีย เป็นหลักสูตรสั้นๆ ใน 1 วัน อบรมให้ฟรีเรื่องการใช้ IG เพื่อขายของ ตั้งแต่การเรียนรู้เครื่องมือ สร้างสรรค์ไอเดีย การซื้อโฆษณา และพูดคุยกับผู้มีประสบการณ์
Instagram Academy เริ่มจัดเป็นครั้งแรกวันที่ 18 ธันวาคม 2562 มีผู้เข้าร่วมอบรม 250 คน ซึ่งบริษัทคัดเลือกจากกลุ่มธุรกิจ SMEs ที่ขายของบน IG อยู่แล้ว กับกลุ่มนิสิตนักศึกษาหลายคณะจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและ ม.ธรรมศาสตร์ ส่วนจะจัดครั้งต่อไปเมื่อไหร่ บริษัทขอรอประเมินผลตอบรับในรอบนี้ก่อน