กัมพูชาเริ่มสอนประเด็น LGBT+ ตั้งแต่มัธยม หวังลดปัญหากลั่นแกล้ง-เลือกปฏิบัติ

เด็กๆ ในกัมพูชาจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประเด็น LGBT+ ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป ในความพยายามของทางการที่จะแก้ไขปัญหาการกลั่นแกล้ง และการเลือกปฏิบัติในประเทศอนุรักษนิยมทางสังคม

หลักสูตรใหม่จะครอบคลุมเรื่องวิถีทางเพศและอัตลักษณ์ทางเพศ ที่เป็นส่วนหนึ่งของวิชาเพศศึกษาในโรงเรียนตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ยุง กุนเธียริธ รองผู้อำนวยการฝ่ายสุขศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ระบุ

“มันเป็นเรื่องของความเท่าเทียม เราต้องการให้เด็กๆ ของเราตระหนักถึงประเด็นปัญหาเหล่านี้และรู้ว่าไม่ควรมีใครถูกเลือกปฏิบัติในโรงเรียนหรือในส่วนหนึ่งส่วนใดของชีวิต” ยุง กุนเธียริธ กล่าว

กัมพูชาไม่มีข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกับกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ แต่การแต่งงานของคนเพศเดียวกันแม้ไม่เป็นสิ่งผิดกฎหมายแต่ก็ยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากรัฐ

ในขณะที่การยอมรับผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศในกัมพูชาค่อยๆ เพิ่มขึ้น แต่ยังคงมีรายงานเกี่ยวกับการล่วงละเมิดในที่ทำงาน ตามงานวิจัยที่เผยแพร่โดยศูนย์สิทธิมนุษยชนกัมพูชา บางคนยังคงถูกพ่อแม่บังคับให้แต่งงานโดยไม่เต็มใจ หรือเข้ารับการบำบัดที่เรียกว่า ‘แก้วิถีทางเพศบำบัด’ ที่มีจุดประสงค์ที่จะทำให้พวกเขากลับใจหรือไม่เป็นคนข้ามเพศ นักรณรงค์ระบุ

หลักสูตรการเรียนใหม่นี้จะช่วย “ปลูกฝังความคิดพื้นฐานด้านสิทธิ เพื่อให้เด็กๆ สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดเรื่องการเลือกปฏิบัติ” ผู้ประสานงานระดับภูมิภาคของ ASEAN SOGIE Caucus ที่เป็นกลุ่มรณรงค์สิทธิ LGBT กล่าว

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้กัมพูชาเป็นแถวหน้าของการศึกษา LGBT+ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจนถึงขณะนี้ มีครูชาวเขมร 3,100 คน ได้รับการฝึกอบรมเพื่อส่งต่อเนื้อหาใหม่ ตามการระบุของสะรัน สะรอน นักเคลื่อนไหว LGBT+ ที่พัฒนาหลักสูตรกับกระทรวงศึกษาธิการกัมพูชา

สะรอน ระบุว่า แม้จะมีการต่อต้านในหมู่ครูอาจารย์บางส่วนที่รู้สึกเกลียดชังหรือเลือกปฏิบัติต่อคนรักร่วมเพศ แต่โครงการก็ได้รับความสนใจอยู่ไม่น้อยและมีครูอย่างน้อย 5 คน เปิดเผยว่า ตนเองเป็นคนรักร่วมเพศระหว่างการอบรม

“นี่เป็นชัยชนะสำหรับเราแล้ว” สะรอน กล่าว และเสริมว่า การกลั่นแกล้งและการเลือกปฏิบัติมีอยู่ในหมู่นักเรียนและครูอาจารย์

“เราต้องเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ ในช่วงเวลา 10 หรือ 20 ปีข้างหน้า นักเรียนในวันนี้จะกลายเป็นเจ้าของธุรกิจ เป็นผู้ว่าราชการ แล้วเมื่อนั้นเราจะเปลี่ยนแปลง” สะรอน กล่าวย้ำ

Source