ชินโซ อาเบะ ซึ่งทำสถิติเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ยาวนานที่สุด ระบุว่าเขาไม่คิดจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปหลังหมดวาระในเดือนกันยายน 2564
นายอาเบะเปิดเผยก่อนเดินทางเยือนตะวันออกกลาง เมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่าเขาไม่มีความคิดที่จะอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และประธานพรรคเสรีประชาธิปไตยหลังจากหมดวาระสมัยที่ 3 ถึงแม้ว่าภายในพรรคจะมีเสียงเรียกร้องให้เขาเป็นผู้นำต่อไป จากการนำพาพรรคคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งถึง 6 ครั้ง
นายอาเบะยังบอกว่า ไม่มีแผนจะยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าในตอนนี้ แต่เขาจะไม่ลังเล ถ้าหากได้เวลาที่เหมาะสม
นายอาเบะกำลังจะดำรงตำแหน่งนายกฯ ญี่ปุ่นครบ 3,000 วัน ซึ่งถือว่ายาวนานที่สุดหลังสงครามโลก เขาเคยดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2549 แต่ได้ลงจากตำแหน่งหนึ่งปีให้หลังเนื่องจากปัญหาสุขภาพ นายอาเบะกลับมาดำรงตำแหน่งผู้นำญี่ปุ่นอีกครั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2555 และได้พยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจตามแผนที่ถูกเรียกว่า “อาเบะโนมิกส์”
คอร์รัปชั่นอื้อฉาวรัฐบาล “อาเบะ” ?
อย่างไรก็ตาม ภายในระยะเวลาการดำรงตำแหน่งที่ยาวนานนี้ นายอาเบะตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์ และเกิดข้อกล่าวหาหลายเรื่องเกี่ยวกับการเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง ซึ่งรวมไปถึงเหตุอื้อฉาวเกี่ยวกับการขายที่ดินของรัฐในราคาถูกให้พวกของตน
กระทรวงการคลังได้ขายที่ดินให้แก่ผู้ประกอบการสถานศึกษารายหนึ่งในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดหลายร้อยล้านเยน โดยนางอากิเอะ อาเบะ ภริยาของนายอาเบะ มีชื่อเป็นผู้อำนวยการกิตติมศักดิ์ของโรงเรียนที่จะสร้างขึ้นบนที่ดินแห่งนั้น ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมา นอกจากนี้ยังพบว่า เจ้าหน้าที่ของกระทรวงการคลังได้แก้ไขเอกสารราชการที่เกี่ยวข้องกับการขายที่ดินนี้
ล่าสุด ยังมีกรณีงานชมดอกซากุระของสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีโดยใช้งบประมาณของรัฐ นายอาเบะถูกกล่าวหาว่า เชิญบุคคลที่เป็นฐานเสียงของตัวเอง และนักธุรกิจที่มีข้อครหาเข้าร่วมงาน และได้เพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมงานเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ภรรยา และผู้สนับสนุนที่เป็นฐานเสียงของเขา
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐธรรมนูญ ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องให้ดำเนินคดีอาญากับนายอาเบะ ในข้อหา “ทุจริตต่อหน้าที่” โดยระบุว่า นายอาเบะได้บังคับให้รัฐบาลใช้งบประมาณในการจัดงานนี้เกินกว่าที่กำหนดในช่วง 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2558 และจำนวนของผู้เข้าร่วมงานได้เพิ่มขึ้นทุกปี โดยในปีที่แล้ว มีผู้ได้รับเชิญเข้าร่วมงานมากถึงราว 18,200 คน และใช้เงินไปกว่า 55 ล้านเยน หรือ 15 ล้านบาท ซึ่งมากกว่างบประมาณที่กำหนดไว้กว่า 3 เท่า
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นไม่มีการจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม วาระดำรงตำแหน่งของนายอาเบะในฐานะประธานพรรคเสรีประชาธิปไตย จะสิ้นสุดลงในเดือนกันยายน ปี 2564 เมื่อเขาพ้นจากตำแหน่งประธานพรรครัฐบาล ก็จะมีผลให้เขาต้องลงจากตำแหน่งผู้นำญี่ปุ่นไปด้วย โดยปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเป็นวาระที่ 3 และเป็นวาระสุดท้ายตามธรรมนูญของพรรค.