Hermes Birkin คือกระเป๋าแบรนด์เนมสุดหรูสนนราคาหลักแสนบาท ยิ่งรุ่นพิเศษอย่าง Himalaya ราคาพุ่งขึ้นไปถึง 15 ล้านบาท แต่ทำไมกระเป๋าแบรนด์นี้และรุ่นนี้จึงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคระดับไฮเอนด์ เรามาติดตามตำนานของ Hermes Birkin และกลยุทธ์การหล่อเลี้ยงดีมานด์-ซัพพลายจนทำให้กระเป๋าใบนี้กลายเป็นสินค้าเพื่อการลงทุน
กระเป๋า Hermes เป็นไฮเอนด์แบรนด์ที่สาวๆ ต่างหมายปอง โดยราคาต่ำสุดเริ่มต้นที่ 1,875 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 56,250 บาท และนั่นคือราคากระเป๋าสะพายข้างขนาดเล็กรุ่น Aline Mini Bag เท่านั้น แต่ถ้าเป็นรุ่นยอดฮิตอย่าง Birkin ราคาเริ่มต้นโดยประมาณคือ 9,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 2.7 แสนบาท ยิ่งถ้าหากเป็นรุ่น Himalaya Birkin ด้วยแล้ว ราคาจะพุ่งขึ้นไปถึง 5 แสนเหรียญ หรือ 15 ล้านบาท!!
อะไรทำให้กระเป๋าใบหนึ่งมีราคาสูงเทียบได้กับการซื้อบ้านทั้งหลัง และยังมีคนมากมายต้องการเป็นเจ้าของ เรามาติดตามตำนานของกระเป๋า Hermes Birkin กัน
เรื่องราวย้อนกลับไปถึงปี 1984 นักแสดงสาว Jane Birkin (นามสกุลของเธอจะกลายเป็นชื่อกระเป๋าในเวลาต่อมา) บังเอิญได้นั่งติดกับ Jean-Louis Dumas ซีอีโอของ Hermes บนเที่ยวบินหนึ่ง เป็นที่รู้กันดีว่า Jane Birkin มักจะหิ้วตะกร้าสานไปไหนมาไหนด้วยเวลาเดินทาง และครั้งนี้ก็เช่นกัน Birkin พยายามนำตะกร้าใส่บนที่เก็บของเหนือศีรษะของเครื่องบิน ทำให้ฝาตะกร้าเปิดและข้าวของตกหล่นกระจายบนพื้น
Birkin บ่นให้ Dumas ฟังว่าเธอไม่สามารถหากระเป๋าที่ถูกใจใช้ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ได้เลย Dumas จึงเริ่มสเก็ตช์ภาพกระเป๋าตามความต้องการของ Birkin บนเครื่องบินลำนั้นเลย และอีกหนึ่งปีต่อมา Dumas ก็นำกระเป๋า “The Birkin Bag” ใบแรกให้เธอชม
ตัวกระเป๋ามีขนาดใหญ่พอที่จะจุของมากมาย แต่ยังคงดูลักชัวรี พร้อมช่องเก็บของภายใน และมีที่ปิดกระเป๋าเพื่อไม่ให้ข้าวของหล่นออกมาโดย Hermes Paris ผลิตกระเป๋ารุ่นนี้จากหนังหลายแบบ มีตั้งแต่หนังลูกวัว หนังจระเข้ ไปจนถึงหนังนกกระจอกเทศ (ล่าสุดเพิ่งมีแบบทำจากผ้าใบเพิ่มเข้ามา) และทุกใบเป็นกระเป๋าแฮนด์เมดที่สร้างจากฝีมือช่างอย่างพิถีพิถัน
แม้ยุคนี้กระเป๋า Hermes Birkin จะโด่งดังมาก แต่เมื่อครั้งที่กระเป๋าออกวางตลาดใหม่ๆ มันไม่ได้เป็นกระเป๋ายอดนิยมทันที กว่าที่ Birkin จะดังจริงๆ และขึ้นสู่สถานะ “It Bag” (กระเป๋าบ่งบอกสถานะทางสังคม) ก็อีก 10 กว่าปีต่อมา และทำให้กระเป๋าที่เคยขายในราคา 12,000 เหรียญสหรัฐ ขยับราคาขึ้นไปที่ 50,000 เหรียญสหรัฐ
แน่นอนว่า Jane Birkin คือจุดเริ่มต้นของการประชาสัมพันธ์กระเป๋าใบนี้ เนื่องจากเธอหิ้วมันไปตามที่ต่างๆ อยู่เสมอ แต่กระเป๋าเริ่มเป็นเทรนด์โด่งดังจริงๆ เมื่อเป็นส่วนหนึ่งในฉากของซีรีส์ดังเรื่อง Sex and the City เมื่อปี 2001 พล็อตของตอนนี้ ตัวละคร Samantha Jones ใช้ชื่อลูกค้าเซเลบของเธอเพื่อซื้อกระเป๋า Birkin โดยไม่ต้องรอคิวยาวถึง 5 ปี หลังซีรีส์ตอนนี้ออกอากาศคิวรอซื้อกระเป๋า Hermes Birkin ก็ยาวขึ้นถึง 3 เท่า
ชื่อเสียงของเซเลบที่หิ้วกระเป๋าใบนี้ไปมายิ่งช่วยให้กระเป๋าโด่งดังยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Victoria Beckham, Kate Moss, Kim Kardashian หรือ Lady Gaga
นั่นคือการสร้างดีมานด์ในโลกแห่งการโฆษณาประชาสัมพันธ์ แต่กระเป๋าคงไม่ดันราคาขึ้นสูงขนาดนี้ได้หากไม่จำกัดซัพพลาย และเป็นการจำกัดซัพพลายที่มีเหตุผลรองรับ
Mason Howell ผู้เชี่ยวชาญด้านกระเป๋าถือจากบริษัทขายแบรนด์เนมมือสอง The Real Real อธิบายว่า Birkin แพงมากเพราะเรื่องราวการผลิต Birkin เป็นกระเป๋าแฮนด์เมดและเป็นงานศิลปะในตัวเอง ช่างของ Hermes ต้องมีประสบการณ์มากกว่า 10 ปีจึงจะได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ผลิตกระเป๋ารุ่นนี้ได้ ซัพพลายของกระเป๋าจึงมีน้อย
Hermes ใช้กลยุทธ์นี้เพื่อให้ซัพพลายในตลาดมีจำกัดและกลายเป็นสินค้าที่ทุกคนตามหา โดยจำนวนผลิตกระเป๋า Birkin ต่อปีเป็นความลับสุดยอดของบริษัท แต่มีการคาดการณ์กันว่าบริษัทจะเลี้ยงปริมาณในตลาดให้อยู่ที่ไม่เกิน 2 แสนใบ
ส่วนกระเป๋าที่แพงที่สุดของ Hermes คือรุ่น Himalaya Birkin เป็นกระเป๋าหนังจระเข้สีขาวประดับด้วยทองคำขาว 18K และเพชรมากกว่า 200 เม็ด กระเป๋ารุ่นนี้แบ่งออกเป็น 3 ไซส์ แต่ไซส์ที่หายากที่สุดคือขนาด 35 เซนติเมตร ซึ่งมีสถิติขายรีเซลด้วยราคาที่แพงที่สุดเมื่อปี 2019 ด้วยราคา 5 แสนเหรียญหรือ 15 ล้านบาท ผู้ซื้อต่อคือ David Oancea หรือชื่อในวงการคือ Vegas Dave ผู้เชี่ยวชาญด้านการพนันกีฬา
Oancea ให้ข้อมูลกับ Business Insider ว่ากระเป๋ารุ่นนี้และไซส์นี้เท่าที่เขาทราบมีแค่ 2 ใบในโลก นอกจากเขาที่เพิ่งซื้อมันมาแล้ว อีกคนหนึ่งที่มีในครอบครองคือ Marjorie Harvey ภรรยาของ Steve Harvey พิธีกรคนดังแห่งเวทีมิสยูนิเวิร์ส
ส่วนเหตุผลที่ Oancea ลงทุนซื้อกระเป๋าแพงระยับ เป็นเพราะเขารักการทำลายสถิติ และต้องการเป็นที่รู้จักจากการครอบครองกระเป๋าใบนี้เขายังยืนยันไม่ขายกระเป๋าที่เป็นตัวสร้าง “คอนเทนต์” สุดฮอตบนโซเชียลมีเดีย ยกเว้นจะมีคนยอมจ่ายให้ถึง 2 ล้านเหรียญสหรัฐ!! (60 ล้านบาท)
View this post on Instagram
ปัจจุบันกระเป๋า Hermes Birkin ไม่ใช่สินค้าที่วางขายทั่วไป คนที่จะได้สิทธิซื้อต้องเป็นลูกค้าที่ซื้อสินค้าของ Hermes มาแล้วจำนวนมาก หรือเป็นคนดังในสังคม จากนั้นทาง Hermes จะเสนอสิทธิซื้อกระเป๋า Birkin ให้เอง และถึงจะได้สิทธิซื้อแล้วก็ยังต้องต่อคิวรอการผลิต แถมยังไม่สามารถเลือกสีหรือไซส์ของกระเป๋าได้ รวมถึงยังถูกจำกัดจำนวนการซื้อต่อคนต่อปีด้วย
เมื่อซัพพลายของใหม่ในตลาดมีน้อยและเข้าถึงยาก ดังนั้นราคารีเซลมือสอง (หรือสาม สี่ ห้า) ย่อมพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย กระเป๋า Birkin จึงไม่ใช่แค่สินค้าแฟชั่นแต่กลายเป็นทรัพย์สินเพื่อการลงทุน ที่เศรษฐีบางคนจ่ายเงินซื้อเก็บแทนทองคำ โดยมีผลการศึกษาราคาจาก baghunter.com เมื่อปี 2017 พบว่าราคาของ Birkin เพิ่มขึ้น 500% ในช่วง 35 ปีที่ผ่านมา หรือเฉลี่ยปีละ 14% เป็นผลตอบแทนที่สูงยิ่งกว่าการลงทุนในหุ้น S&P 500 ที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 12% ต่อปี
Howell จาก The Real Real กล่าวด้วยว่าราคาจะเติบโตมากแค่ไหนขึ้นอยู่กับเป็น Birkin สีไหน ไซส์ไหน ใช้วัสดุใดในการตัดเย็บและตกแต่ง อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้วถ้าคุณซื้อ Birkin สักใบหนึ่งเมื่อปี 2004 มาในราคา 4,000 เหรียญ ผ่านไป 15 ปี คุณจะสามารถขายมันได้ในราคา 5,000-6,000 เหรียญ แม้ว่าจะผ่านการใช้งานมาหลายครั้ง ดังนั้นมันจึงไม่ใช่กระเป๋าที่ต้องเก็บไว้ในตู้ที่บ้านเท่านั้นจึงจะเก็งกำไรได้
- เปิดแล้ว! Komehyo “แบรนด์เนมมือสอง” จากญี่ปุ่น กวาดคนไทยกระเป๋าหนักช้อปคนละ 2-3 แสนบาท
- ยลโฉม ‘Le Café V’ คาเฟ่และร้านอาหารสุดหรูของ ‘Louis Vuitton’ ที่พร้อมเสิร์ฟแล้ว
อย่างที่ได้กล่าวไปว่าโดยรวมแล้วจำนวนกระเป๋ารุ่นนี้มีน้อย ยิ่งเมื่อมาแยกเป็นสี ไซส์ วัสดุหนังที่ใช้ และวัสดุเครื่องประดับ ยิ่งทำให้มีกระเป๋าที่เป็นแบบเดียวกันเป๊ะน้อยลงไปอีก กระเป๋า Birkin แต่ละใบจึงเหมือนเป็น Limited Edition ในตัวมันเอง Howell กล่าวว่า คุณสมบัติแบบนี้ทำให้ผู้บริโภคอาจจะยอมจ่ายเพิ่มอีก 10,000 เหรียญเพื่อให้ได้แบบกระเป๋าที่ตัวเองต้องการ
สำหรับในไทย ราคา Birkin มือสองที่ขายอยู่ในเว็บไซต์ Komehyo ร้านแบรนด์เนมมือสอง สนนราคาตั้งแต่ 2.3 แสนบาทจนถึง 5.3 แสนบาท
แล้วใครบ้างที่เป็นนักสะสม Birkin เซเลบคนหนึ่งที่ครอบครองกระเป๋า Birkin ไว้มากที่สุดคือ Victoria Beckham สื่อคาดการณ์กันว่าเธอมีกระเป๋ารุ่นนี้อยู่กว่า 100 ใบ มูลค่ารวมกันมากกว่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 60 ล้านบาท) แต่ยังมีคนที่สะสม Birkin ไว้มากกว่า Victoria คนๆ นั้นคือ Jamie Chua นักธุรกิจหญิงในสิงคโปร์ที่มีกระเป๋า Birkin ถึง 200 ใบ!!
ส่วนต้นกำเนิดของกระเป๋าอย่าง Jane Birkin กลับเป็นคนที่ใช้กระเป๋าใบนี้แบบที่คนรัก Birkin ต้องร้องกรี๊ดมากที่สุด เพราะเธอติดสารพัดสติกเกอร์ไว้บนตัวกระเป๋าเหมือนมันทำจากพลาสติกมิใช่หนังแท้ “การใช้กระเป๋าคงไม่สนุกเท่าไหร่ถ้าเราไม่เอามาใช้แบบสมบุกสมบันราวกับเคยมีแมวมานั่งทับ!” Birkin กล่าว
Source: Business Insider, BBC, Fashionista