Hermes ลุยธุรกิจ “เครื่องสำอาง” เป็นครั้งแรก ส่งลิปสติก 24 เฉดสีเปิดตลาดสู้ Chanel-Dior

เครื่องสำอาง Hermes
Hermes ขยายสู่ธุรกิจเครื่องสำอางเป็นครั้งแรกด้วยสินค้าลิปสติก 24 เฉดสี สนนราคาแท่งละ 67 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2,040 บาท) หลังจากคู่แข่งในวงการแฟชันระดับลักชัวรีอย่าง Dior และ Chanel นำหน้าไปนานหลายปี โดย Hermes หวังว่าธุรกิจนี้จะช่วยดันรายได้กลุ่มน้ำหอมให้มากขึ้นจากปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 5% ในรายได้รวมของบริษัท

Hermes International เปิดตัวผลิตภัณฑ์แรกจากแผนกความงาม เป็นคอลเลกชัน ลิปสติก ราคา 67 เหรียญสหรัฐ มีให้เลือกทั้งหมด 24 เฉดสี ตัวเคสทำจากโลหะพ่นสีที่สื่อถึงเครื่องประดับบนกระเป๋า Hermes ผลิตภัณฑ์สร้างชื่อให้กับแบรนด์ และจะวางจำหน่ายเฉพาะในช็อปของ Hermes เองเท่านั้น

โดย Hermes ประกาศว่าแบรนด์จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยทีมภายในบริษัทให้มากที่สุด เฉลี่ยแล้วคาดว่าจะออกเครื่องสำอางใหม่ทุกๆ 6 เดือน

“พวกเขากำลังทำงานอย่างระมัดระวังยิ่ง เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์” มาริโอ ออร์เทลลิ ที่ปรึกษาด้านลักชัวรีแบรนด์จากลอนดอนกล่าว

ลิปสติกคอลเลกชันแรกจาก Hermes มีให้เลือกทั้งหมด 24 สี (photo: Hermes)

การขยายเข้าสู่ธุรกิจเครื่องสำอาง ถือเป็นการชิมลางในธุรกิจนี้ของ Hermes และต้องต่อสู้กับคู่แข่งอย่าง Christian Dior แบรนด์ในเครือ LVMH และ Chanel ที่สร้างทั้งยอดขายและกำไรมานานในวงการ โดย LVMH ยังเป็นเจ้าของร้านเครื่องสำอางระดับโลกอย่าง Sephora ด้วย

ส่วน Chanel เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งในวงการเช่นกัน โดยสามารถสร้างยอดขายได้ถึงปีละ 4,000 ล้านยูโร (ประมาณ 1.37 แสนล้านบาท) เมื่อเทียบกับ Hermes ซึ่งก่อนหน้านี้สินค้าบิวตี้มีแค่น้ำหอมกับสบู่ ทำให้สร้างยอดขายได้เพียงปีละ 312 ล้านยูโร (ประมาณ 10,700 ล้านบาท) เห็นได้ว่า Hermes ยังเป็นผู้เล่นหน้าใหม่อย่างมากสำหรับตลาดนี้

การเปิดตัวลิปสติกครั้งนี้ Hermes หวังว่าในอนาคตสินค้าเครื่องสำอางและสกินแคร์จะช่วยเร่งรายได้ให้กับกลุ่มธุรกิจน้ำหอมได้ จากปัจจุบันที่น้ำหอมมีสัดส่วนเพียง 5% ในรายได้รวมของแบรนด์ที่ทำได้ปีละ 6,000 ล้านยูโร (ราว 2.05 แสนล้านบาท)

(photo : Hermes)

“เป็นเรื่องสำคัญมากที่กลุ่มธุรกิจน้ำหอมจะต้องขยายไปให้ครบ 3 มิติ” อักเซล ดูมา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Hermes เปิดเผยกับกลุ่มนักลงทุนเมื่อปีก่อนในวันประกาศโครงการขยายธุรกิจเครื่องสำอาง เขากล่าวว่า 3 มิติของกลุ่มสินค้านี้คือ น้ำหอม เครื่องสำอาง และ สกินแคร์ ที่จะช่วยเพิ่มยอดขายในแต่ละทวีปรอบโลก “คุณต้องมีให้ครบทั้ง 3 กลุ่ม”

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก Euromonitor พบว่าตลาดเครื่องสำอางทั่วโลกมีแนวโน้มจะเติบโตได้ถึง 6% ปีนี้ ทำให้มีมูลค่ารวมแตะ 77,500 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.42 ล้านล้านบาท)

Source