สีสันของ (ลูก)ฟุตบอลโลก 2010

นอกเหนือจากเกมการแข่งขันแล้ว “ลูกฟุตบอล” ที่ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ก็ได้รับความสนใจจากคอบอลเป็นอย่างมากเช่นเดียวกับทุกครั้งที่ผ่านมา ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 11 นับตั้งแต่ปี 1970 ที่เม็กซิโก ของอาดิดาสที่รังสรรค์ลูกฟุตบอลที่ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 อย่างเป็นทางการ ซึ่งในแต่ละปีจะมีสีสันและลวดลายที่แตกต่างกัน ดึงดูดใจคอบอลผู้คลั่งไคล้และอยากซื้อหามาสะสม

Jabulani เป็น Official Match Ball ในครั้งนี้เปิดตัวมาตั้งแต่ปลายปี 2009 คือ Jabulani เป็นภาษา IsiZulo หนึ่งในภาษาทางการของแอฟริกาใต้ มีความหมายว่า “เพื่อการเฉลิมฉลอง” ปีนี้พิเศษกว่าทุกปีเมื่อนำเสนอถึง 11 สีเพื่อแสดงถึงผู้เล่นจำนวน 11 คนในแต่ละทีม และยังมีความหมายรวมถึงภาษาทางการของประเทศแอฟริกาใต้จำนวน 11 ภาษา และชนเผ่าของแอฟริกาใต้อีก 11 เผ่าด้วย

ใช่เพียงสีสันแต่ Jabulani ซึ่งผลิตจากโรงงานในประเทศจีนนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่โดดเด่น คือ ลดส่วนประกอบของชิ้นส่วนจาก 32 ชิ้นเหลือเพียง 8 ชิ้นทำให้ลูกบอลมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และนักเตะสามารถควบคุมทิศทางได้ง่ายขึ้น โดยมีน้ำหนัก 440 กรัม ขณะที่ดีไซน์จัดจ้านสไตล์แอฟริกัน โดยอาดิดาบอกว่านี่คือลูกฟุตบอลที่กลมที่สุดในโลก เพราะอัดด้วยแรงดันความร้อน และแน่นอนว่าสอดรับกับสโลแกนของอาดิดาสที่ว่า “Impossible is Nothing”

งานนี้ Michael Ballack จากเยอรมัน ถึงกับเอ่ยปากชมว่า มหัศจรรย์มากและเขาชื่นชอบมัน ส่วน Kaka ของบราซิลบอกว่า การสัมผัสกับลูกบอลเป็นสิ่งสำคัญมาก และสำหรับเขาแล้วรู้สึกดีกับ Jabulani

อาดิดาสอนุญาตให้รายการบุนเดสลีกา ของเยอรมันได้ทดสอบ Jabulani ก่อนใคร ในแมทช์ของ SV Werder Bremen และ FC Koeln ทำให้ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะสมและไม่ยุติธรรมกับทีมอื่นๆ

ด้านเสียงตอบรับจากแฟนๆ ค่อนข้างเป็นไปในด้านบวก โดยที่ในเวบไซต์หลายแห่งก็มีมี Ja’bulani จำหน่ายอย่างคึกคักด้วยนอกเหนือจากเวบไซต์ของอาดิดาสเอง เช่น Soccerpro ขายในราคา 150 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว4,000 กว่าบาท

โดยในไทยได้เปิดตัวในเวลาใกล้เคียงกันและมี Jabulani ขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณพารากอน พาร์ค เพื่อโปรโมทในช่วงปลายปีที่ผ่านมา และมีจำหน่ายตามช้อปของอาดิดาสร่วมกับเสื้อผ้าและแอคเซสซอรี่รับฟุตบอลโลก 2010 อื่นๆ อีกด้วย

ขณะที่  JO’BULANI คือชื่อลูกฟุตบอลสีทองที่จะใช้ในรอบชิงชนะเลิศซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 11 กรกฎาคม 2553 นี้ ตั้งชื่อตามเมืองโจฮันเนสเบิร์ก หรือที่เรียกขานกันว่า โจเบิร์กนั่นเอง