“ลิโพ” เป็นเเบรนด์ที่คนไทยรู้จักกันดี ด้วยการเจ้าเเรกที่เข้ามาบุกเบิกเครื่องดื่มชูกำลังในไทยจนถึงวันนี้ก็เข้าสู่ปีที่ 55
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2505 “ไทโช ฟาร์มาซูติคอล” ได้เปิดตัวลิโพที่ประเทศญี่ปุ่น จากนั้นในปี 2508 ได้ขยายตลาดมายังประเทศไทย ด้วยความร่วมมือกับ “โอสถสภา”
เเม้เเบรนด์ที่อยู่มานานจะเเข็งเเกร่ง เเต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเเข่งขันในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังที่ดุเดือด เเละมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 23,000 ล้าน ลิโพจึงต้องขยับก้าวใหม่ ชูจุดเด่น “ความพรีเมียม” เพื่อขยายไปยังกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นพนักงานออฟฟิศ นักศึกษาเเละนักกีฬามากขึ้น
ลิโพจึงหนีตลาดเเมสเครื่องดื่มชูกำลังที่ขายกันที่ 10 บาทต่อขวด ปรับภาพลักษณ์เเล้วขายที่ราคา 12 บาทต่อขวด มาเป็นเวลานานกว่า 20 ปีแล้ว เเสดงว่าการยืนหยัดเจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่มนั้น “ได้ผล” ด้วยยอดขายราว 300 ล้านขวดต่อปี
“ไทยเป็นตลาดที่ประสบความสำเร็จของลิโพ” ยูคิโอะ ซาวาดะ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท โอสถสภา ไทโช ฟาร์มาซูติคอล จำกัด กล่าว
เล็งโอกาสเครื่องดื่มชูกำลังสำหรับ “ผู้หญิง” ในไทย
ซาวาดะมองว่า เทรนด์ผู้บริโภคที่กำลังให้ความสำคัญกับสุขภาพเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก เเละผู้บริโภคเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศไทยก็ให้ความใส่ใจเครื่องดื่มชูกำลังที่มีประโยชน์
“ตอนนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นเครื่องดื่มบำรุงกำลังสำหรับผู้หญิง เนื่องจากสัดส่วนประชากรในไทยส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงเเละมีกำลังซื้อสูง จึงเป็นโอกาสที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ผู้หญิง จากเดิมที่ลูกค้าจะเป็นผู้ชายเป็นหลัก”
ทั้งนี้ ปัจจัยการตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องดื่มชูกำลังของผู้บริโภคในไทย มี 3 ด้านได้แก่ 1) แบรนด์ 2) ความสะดวก เเละ 3) รสชาติ โดยในญี่ปุ่น ลิโพมีชนิดสินค้าอยู่ราว 20 SKU ส่วนไทยมี 2 SKU มาเลเซียที่ 2-3 SKU เวียดนาม 1 SKU และสหรัฐอเมริกามี 5 SKU
เเม้ลิโพจะเป็นเเบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังรายเเรกของไทย เเต่ปัจจุบันที่มีเเบรนด์เล็กแบรนด์ใหญ่เข้ามาทำตลาด ทำให้ลิโพมีส่วนเเบ่งการตลาดอยู่ในลำดับที่ 4-5 นั้น ผู้บริหารไทโชบอกว่า “ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ” เพราะลิโพยังต้องการขยายตลาดในประเทศไทยต่อเนื่อง โดยจะเน้นไปที่การให้ความรีเมียมกับผู้บริโภค ไม่ลงไปแข่งขันในตลาดเเมสเเละมีเป้าหมายหลักคือกลุ่มคนเมือง
“ยึดมั่นในการใช้วัตถุดิบคุณภาพจากญี่ปุ่น เจาะตลาดนีชมาร์เก็ต นี่คือเป้าหมายของเเบรนด์ลิโพ” ซาวาดะกล่าว
ยึดตลาดพรีเมียม คนเมือง พนักงานออฟฟิศ
ด้าน วรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) เผยว่า ในปี 2563 ภาพลักษณ์ของเครื่องดื่มบำรุงกำลังในไทยมีความพรีเมียมมากขึ้นต่างจากในอดีต การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลถึงการวางแบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคอย่าง กลุ่มนักศึกษา พนักงานออฟฟิศ และนักกีฬา โดยบริษัทจะใช้ความได้เปรียบด้วยความที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบหลักพรีเมียมที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น
ประวาล โรจนพฤกษ์ ผู้อำนวยการการตลาดผลิตภัณฑ์ลิโพ กล่าวว่า การที่เเบรนด์ต่างๆ เปิดตัวเครื่องดื่มชูกำลังเข้าสู่ตลาดอย่างหลากหลาย ทำให้ผู้บริโภคมากขึ้นเป็นเเนวโน้มที่ดีของตลาดภาพรวม เเม้ว่าช่วงนี้ตลาดจะทรงตัว เเต่สำหรับโอสถสภาเเล้วถือว่าเป็นตัวหลักที่ต้องทำตลาดต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพัฒนาสินค้าใหม่ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ รักษาฐานลูกค้าเดิมเเละเพิ่มลูกค้าใหม่ ซึ่งการมีทั้งเเบรนด์ M150 ฉลาม ลิโพ เเละโสมอินซัม ทำให้โอสถสภายังคงเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มชูกำลังต่อไป
“ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังเเบ่งเป็นตลาดเเมส 80% เเละตลาดพรีเมียม 20% สำหรับกลุ่มลูกค้าใหญ่ของลิโพจะเป็นพนักงานที่อยู่ในเมือง เเต่ก็มีการกระจายสินค้าไปทั่วประเทศ ขายดีที่สุดในภาคกลาง โดยมีช่องทางการขายเป็นเเบบร้านดั้งเดิม 75% เเละโมเดิร์นเทรด 25%”
รีเเพ็กเกจจิ้งใหม่ ชูจุดเด่นความเป็นญี่ปุ่น
ในโอกาสครบรอบ 55 ปี ของแบรนด์ ลิโพ ในประเทศไทย ได้เปิดตัวแคมเปญ “ลิโพ 55 ปีแห่งการส่งต่อ” พร้อมการปรับโฉมแพ็กเกจจิ้งใหม่ด้วยการเพิ่มฉลากภาษาญี่ปุ่นและเน้นไอคอน “ทอรีน 1,000 มก.” รวมถึงได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ซึ่งจะออกกาศในวันที่ 16 ก.พ. เป็นครั้งแรก
โดยโฆษณาชุดใหม่นี้ เน้นสื่อถึงความเป็นเครื่องดื่มพรีเมียมที่มาจากวัฒนธรรมญี่ปุ่นของลิโพให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ด้วย 3 คาแร็กเตอร์ญี่ปุ่น ได้แก่ ‘ซูโม่’ สื่อถึงความแข็งแรง ‘นินจา’ สื่อถึงความกระฉับกระเฉงว่องไว และ ‘ซามูไร’ สื่อถึงดวงตาที่เฉียบคม จากการช่วยบำรุงสายตา