Tag: เครื่องดื่มชูกำลัง

“เครื่องดื่มชูกำลัง” ในประเทศไทยถูกแต่งหน้าทาปากใหม่เพื่อแปลงโฉมเป็น “Energy Drink” ส่งเข้าไปนำเสนอในหมู่คนรุ่นใหม่ ความพยายามล้างภาพจำความเป็นเครื่องดื่มเฉพาะของผู้ใช้แรงงานเกิดขึ้นมานานหลายปีแล้ว เพราะผู้ผลิตต่างหวังเพิ่มน่านน้ำใหม่ ทำให้ตลาดเติบโตและเพิ่มกำไร แต่ตลาดที่เรียกว่าเป็นกลุ่ม “พรีเมียม” นี้อาจจะเพิ่งเริ่มผลิบานในช่วงนี้นี่เอง

ยอดขายของ Red Bull มีรายได้แตะระดับ 10,000 ล้านยูโรครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทเป็นต้นมา หลังความต้องการเครื่องดื่มชูกำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลก และมียอดขายไปแล้วมากถึง 12,000 ล้านกระป๋องทั่วโลก

TCP เปิดแผนปี 2566 รุกตลาดต่างประเทศต่อเนื่อง โฟกัสตลาด “มาเลเซีย” เซ็นสัญญาร่วมทุนท้องถิ่น “Yee Lee Group” เพื่อให้ “กระทิงแดง” ขยายตลาดได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้านตลาด “จีน” โรงงานในเสฉวนจะเริ่มเดินเครื่องปลายปีนี้ เพิ่มกำลังผลิตได้เป็นเท่าตัว วางเป้ารายได้ทั้งองค์กรปี'66 เติบโต 10-15% จากปีก่อน แม้ไตรมาสแรกไม่ค่อยสดใสนัก

ครบรอบ 5 ปีการจับมือร่วมทุน “ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค” พร้อมไปต่ออีก 5 ปีข้างหน้า (2566-2570) วางเป้าชิงมาร์เก็ตแชร์ในตลาด “น้ำอัดลม” ปีละ 1% โดยจะบุกหนักในกลุ่ม “ไม่มีน้ำตาล” (No Sugar) ซึ่งเป็นเทรนด์แรงของตลาด พร้อมผลักดันเครื่องดื่มชูกำลัง “Rockstar” สร้างดีมานด์ใหม่เป็นเครื่องดื่มไลฟ์สไตล์

หากพูดถึงตลาด เครื่องดื่มชูกำลัง หรือ เอนเนอร์จีดริ้งก์ (Energy Drink) ภาพจำของผู้บริโภคก็คงมีอยู่ไม่กี่รายโดยเฉพาะในตลาด ขวดแก้ว หรือตลาดแมส แต่ก็ใช่ว่าตลาดจะถึงทางตัน เพราะในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาตลาดยังเติบโตได้ 3% และกลุ่มที่ขับเคลื่อนตลาดก็คือ พรีเมียม ซึ่งมีการเติบโตถึง 5% ทำให้เครือ TCP เลือกที่จะโฟกัสในกลุ่มพรีเมียมเพื่อทำตลาด

หากพูดถึงแบรนด์คอมพิวเตอร์-โน้ตบุ๊ก เชื่อว่าชื่อของ ‘เอเซอร์’ (Acer) เชื่อว่าน้อยคนที่จะไม่รู้จัก เพราะถือว่าเป็นเบอร์ 1 ในตลาดไทยมาอย่างยาวนาน แต่ถ้าบอกว่าเอเซอร์กำลังขาย Energy Drink หรือ เครื่องดื่มชูกำลัง หลายคนคงคิดว่าอ่านผิดแน่ ๆ แต่ใช่ครับ เอเซอร์กำลังขายเครื่องดื่มชูกำลังภายใต้แบรนด์ Predator Shot อะไรทำให้เอเซอร์ฉีกแนวจากสินค้าไอที ไปหาคำตอบกัน

"ลิโพ" เป็นเเบรนด์ที่คนไทยรู้จักกันดี ด้วยการเจ้าเเรกที่เข้ามาบุกเบิกเครื่องดื่มชูกำลังในไทยจนถึงวันนี้ก็เข้าสู่ปีที่ 55

เมื่อเครื่องดื่มชูกำลังอย่างเดียวไม่ตอบโจทย์ลูกค้ายุคนี้ ส่งผลให้ตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง มูลค่า 23,000 ล้านบาท อยู่ในภาวะ “ซึม” ไม่เติบต่อเนื่องมา 2-3 ปีติดกัน

เมื่อตลาด“ตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง” ในเมืองไทยไม่เหมือนเดิม จากที่เคยเติบโต 5-6% แต่ช่วง 2-3 ปีมานี้กลับ “หยุดนิ่ง” หรือติดลบ 2-3% เพราะราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำลง ดึงกำลังซื้อของ “เกษตรกร” ซึ่งเป็นฐานลูกค้ารายใหญ่หดหายตามไปด้วย

เมื่อตลาดเครื่องดื่มชูอยู่ในภาวะหดตัว การหันไปขยายฐานคนรุ่นใหม่ และการขยายไปสู่ต่างประเทศ จึงต้องเดินหน้าอย่างเข้มข้น