“ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค” วางเป้า 5 ปีต่อไปชิงแชร์ “น้ำอัดลม” เพิ่มปีละ 1% บุกหนักกลุ่ม “No Sugar”

ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค น้ำอัดลม No Sugar
ครบรอบ 5 ปีการจับมือร่วมทุน “ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค” พร้อมไปต่ออีก 5 ปีข้างหน้า (2566-2570) วางเป้าชิงมาร์เก็ตแชร์ในตลาด “น้ำอัดลม” ปีละ 1% โดยจะบุกหนักในกลุ่ม “ไม่มีน้ำตาล” (No Sugar) ซึ่งเป็นเทรนด์แรงของตลาด พร้อมผลักดันเครื่องดื่มชูกำลัง “Rockstar” สร้างดีมานด์ใหม่เป็นเครื่องดื่มไลฟ์สไตล์

“อชิต โจชิ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด นำทีมผู้บริหารแถลงครบรอบ 5 ปีการเป็นพันธมิตรร่วมทุนของซันโทรี่ เป๊ปซี่โค และก้าวต่อไปอีก 5 ปีข้างหน้าของบริษัท

หลังจากมีการร่วมทุนกันของสองบริษัท ทำให้พอร์ตโฟลิโอของซันโทรี่ เป๊ปซี่โคครบเครื่องยิ่งขึ้นด้วยเครื่องดื่มรวม 9 แบรนด์ในมือ

ปัจจุบันพอร์ต 75% ของบริษัททำรายได้จากกลุ่มน้ำอัดลม ได้แก่ เป๊ปซี่, มิรินด้า, เซเว่นอัพ และ 25% มาจากกลุ่มที่ไม่ใช่น้ำอัดลม ได้แก่ ชาลิปตัน, ชา TEA+, กาแฟ BOSS, น้ำดื่มอะควาฟินา, เครื่องดื่มเกลือแร่เกเตอเรด และน้องใหม่ล่าสุด เครื่องดื่มชูกำลังระดับพรีเมียม Rockstar

ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค
เครื่องดื่มในพอร์ตของซันโทรี่ เป๊ปซี่โค

รวมถึงการผนึกกำลังทำให้ในรอบ 5 ปีบริษัทมีเครือข่ายร้านค้าจำหน่ายเพิ่มเป็น 2 เท่า และมีกำลังผลิตจากโรงงาน 2 แห่งรวม 600 ล้านลิตรต่อปี

อชิตกล่าวต่อว่า สำหรับระยะ 5 ปีต่อไป (2566-2570) ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค วางกลยุทธ์ใหญ่ไว้ 5 ข้อ ดังนี้

  1. เพิ่มส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจ “น้ำอัดลม” ปีละ 1% point
  2. เพิ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้านวัตกรรม value-added
  3. ส่งสินค้าที่เหมาะสมไปถึงลูกค้าด้วยประสบการณ์ที่เหมาะสม
  4. สานต่อเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยปีนี้จะเริ่มเปิดตัวขวดที่ทำจาก rPET (ขวดที่ทำจากพลาสติกที่ผ่านการรีไซเคิลมาแล้ว)
  5. พัฒนาองค์กรต่อเนื่อง โดยเน้นประเด็นความหลากหลายและความเท่าเทียมในองค์กร

เป้าหมายปลายทางคือ ต้องการทำให้รายได้ต่อปีเติบโต “ดับเบิ้ล” ค่าเฉลี่ยของตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เช่น ปี 2566 นี้บริษัทตั้งเป้าโต 4-6% จากคาดการณ์ตลาดน่าจะโต 2-3% ส่วนในอนาคตหวังว่าบริษัทจะสามารถโตได้ปีละ 8-10% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจในแต่ละปีด้วย

ทีมงาน บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด: (จากซ้าย) เพียงจิต ศรีประสาธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคลและบรรษัทสัมพันธ์, อชิต โจชิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ อนวัช สังขะทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด

 

ศึก “น้ำอัดลม” ปักเป้าชิงมาร์เก็ตแชร์เพิ่มปีละ 1%

ในรอบ 5 ปีก่อน ซันโทรี่ เป๊ปซี่โคสามารถขยับสัดส่วนมาร์เก็ตแชร์ในตลาดน้ำอัดลมขึ้นมาได้อีก 2.6% point ซึ่งทำให้เมื่อปี 2565 บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ 37% เป็นรองจากอันดับ 1 คือ โคคา-โคล่า ที่ยังยึดหัวหาดไว้ถึง 51%

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายจากนี้ของซันโทรี่ เป๊ปซี่โคต้องการจะเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ปีละ 1% point นั่นแปลว่าถ้าทำสำเร็จ ในปี 2570 เราอาจได้เห็นเป๊ปซี่ขึ้นไปมีส่วนแบ่งแตะ 42% ของตลาด และลดช่องว่างความห่างกับโคคา-โคล่าได้มากขึ้นอีก

น้ำอัดลม No Sugar ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค
น้ำอัดลม No Sugar ของซันโทรี่ เป๊ปซี่โค

หนทางเจาะตลาดที่ทางซันโทรี่ เป๊ปซี่โคเล็งอยู่นั้น คือการยึดฐานเดิมของน้ำอัดลมสูตรปกติไว้ให้มั่น พร้อมกับการบุกหนักกลุ่มน้ำอัดลม “No Sugar”

“อนวัช สังขะทรัพย์” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เทรนด์รักสุขภาพของชาวไทยที่เกิดขึ้นในช่วงโควิด-19 นั้นยังคงเป็นเทรนด์ต่อเนื่องแม้โรคระบาดจะคลายความรุนแรง ซึ่งเป็นผลดีต่อกลุ่มน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาลอย่างมาก

“ปัจจุบันสินค้ากลุ่มน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาลคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของตลาดน้ำอัดลมโดยรวม ปีนี้คาดว่าจะเติบโตอีกประมาณ 30% และหากเทรนด์การเติบโตยังเป็นเช่นนี้ต่อเนื่อง 5 ปี จะทำให้สัดส่วนกลุ่มน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาลขึ้นไปใกล้เคียงครึ่งหนึ่งของตลาดรวม” อนวัชกล่าว

น้ำอัดลม No Sugar จึงเป็นตลาดที่สำคัญมากในการต่อสู้ชิงส่วนแบ่งตลาด “ความท้าทายปัจจุบันนี้คือคนยังมองว่าน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาลไม่ค่อยอร่อย เราจึงต้องทลายความคิดเรื่องนี้ให้ได้” อนวัชกล่าว

 

“Rockstar” สร้างดีมานด์ใหม่ในกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลัง

อีกส่วนที่จะส่งให้รายได้โตคือการเจาะตลาด “เครื่องดื่มชูกำลัง” ซึ่งซันโทรี่ เป๊ปซี่โคเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่มาเมื่อปีที่แล้วในชื่อ “Rockstar” เป็นเครื่องดื่มชูกำลังแบบกระป๋อง ด้วยรูปลักษณ์ระดับพรีเมียม เน้นเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่

อนวัชกล่าวว่า บริษัทคาดการณ์ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมูลค่า 20,000 ล้านบาท จะเป็นหนึ่งในประเภทเครื่องดื่มที่เติบโตดีที่สุดในช่วง 5 ปีข้างหน้า ทั้งในกลุ่มผู้บริโภคแบบเดิมและกลุ่มใหม่ที่บริษัทกำลังสร้างดีมานด์ขึ้น

Rockstar เครื่องดื่มชูกำลังระดับพรีเมียม เริ่มออกจำหน่ายปี 2565

“เรากำลังพยายามส่ง Energy Drink ไปในทิศทางใหม่สำหรับคนรุ่นใหม่ นอกจากดื่มเพื่อชูกำลังแล้ว ยังเป็นไลฟ์สไตล์ได้ ถือแล้วดูดี ซึ่งปกติกลุ่มที่ดื่มในลักษณะนี้ยังมีเพียง 6-7% ของตลาด แต่เราคิดว่าสามารถสร้างเพิ่มได้” อนวัชกล่าว

ส่วนตลาดเครื่องดื่มประเภทอื่น เช่น ชาพร้อมดื่ม กาแฟพร้อมดื่ม บริษัทจะยึดตำแหน่งในตลาดไว้ให้ได้เช่นกัน พร้อมกับการสร้างสินค้าใหม่ๆ ในลักษณะที่เป็นฟังก์ชันนอลดริงก์เพิ่ม เพื่อตอบรับเทรนด์ผู้บริโภคที่นิยมสินค้าเติมฟังก์ชันเพื่อสุขภาพ

“ปีนี้งบประมาณการตลาดรวมทั้งบริษัทเราตั้งไว้ที่ 1,000 ล้านบาท มีแผนการตลาดแล้ว 22 แคมเปญซึ่งมากกว่าปีก่อน และจะเน้นเรื่องอีเวนต์ on-ground เตรียมแจกชิม 10 ล้านขวด พร้อมกลยุทธ์ราคาและโปรโมชันโดนๆ เพื่อดึงให้ผู้บริโภคที่ชิมแล้วชอบ เข้ามาซื้อสินค้าจริง” อนวัชกล่าวปิดท้าย