เปิดใจ “น้ำตาลมิตรผล” ในยุค Low Sugar “น้ำตาลไม่ใช่ผู้ร้าย แต่ต้องกินให้ถูกสัดส่วน”

เมื่อเทรนด์การดูแลสุขภาพเริ่มตื่นตัวในไทย ทำให้คนไทยบริโภคน้ำตาลน้อยลง เกิดเป็นเทรนด์ Low Sugar งานนี้บริษัทน้ำตาลอย่าง “มิตรผล” ต้องปรับตัวอย่างหนัก สร้างทัศนคติใหม่ต่อน้ำตาล ต้องกินให้ถูกสัดส่วนก็ปลอดภัย

เทรนด์หวานน้อย กระทบมาก แต่ไม่ถึงกับลำบาก

การที่ผู้บริโภคคนไทยตื่นตัวกับการดูแลสุขภาพนับว่าเป็นเรื่องดีอย่างยิ่ง เทรนด์ใหญ่ที่มากับกระแสนี้ก็คือเทรนด์ “หวานน้อย” นั่นเอง หรือการบริโภคน้ำตาลน้อยลง เป็นที่ทราบกันดีว่าคนไทยมีการบริโภครสหวานจัด ไม่ว่าจะอาหาร หรือเครื่องดื่ม

ทำให้ผู้ประกอบการ แบรนด์ต่างๆ หันมาพัฒนาสูตรหวานน้อยบ้าง สูตรไม่มีน้ำตาลบ้าง หรือสูตรแคลอรีต่ำบ้าง เพื่อเอาใจสายเฮลท์ตี้

ทีนี้พอมีเทรนด์หวานน้อยเข้ามา ผนึกกับเรื่อง “ภาษีน้ำตาล” ทำเอาผู้ประกอบการถึงกับต้องกุมขมับ คำถามที่เกิดขึ้นคือผู้ประกอบการน้ำตาลจะต้องทำอย่างไร ได้รับผลกระทบมากแค่ไหน Positioning ขอพาไปพูดคุยกับ “วิภาดา อัตศรัณย์” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานกลยุทธ์การตลาดและขายในประเทศ บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด แบบ Exclusive ว่ามีการปรับตัวรับกับกระแสนี้อย่างไร

วิภาดาฉายภาพรวมว่าเทรนด์หวานน้อยได้รับความกระทบมาก แต่ยังไม่ได้ลำบากเท่าไหร่ มีการรับมือ และยังมีบางเซ็กเมนต์ที่เติบโต มีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ โดยเฉพาะเครื่องดื่มนอกบ้านยังมีการเติบโต รวมถึงเทรนด์ของ “ชาไข่มุก” ด้วย

“ตลาดน้ำตาลในภาคของรีเทลยังมีการเติบโต ผู้บริโภคยังใช้น้ำตาลในการปรุงอาหาร แต่ภาคอุตสาหกรรมเจอเรื่องภาษีความหวานเข้าไป ประกอบกับเรื่องเทรนด์การดูแลสุขภาพ ทำให้ลดการใช้น้ำตาลลงไปเยอะ มีผลกระทบประมาณหนึ่ง แต่ก็ต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงให้ได้ สามารถทำได้หลายรูปแบบ”

เมืองไทยเมืองร้อน เครื่องดื่มนอกบ้านยังโต

การปรับตัวของมิตรผลจึงมีหลายรูปแบบ ที่เห็นชัดที่สุดคือ การพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ให้กับลูกค้า ทั้งผู้บริโภค และภาคธุรกิจ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือโรงแรมบางแห่งย่อมอยากได้เมนูแปลกใหม่ ก็ต้องช่วยสรรหาสินค้าใหม่ๆ โดยที่วัตถุแทนความหวานยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีการแบ่งเซ็กเมนต์ชัดเจน

อีกทั้งยังมีตลาดร้านกาแฟ ร้านเครื่องดื่มต่างๆ ที่สร้างการเติบโตสูง เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคชอบทานกาแฟนอกบ้าน หรือแม้กระทั่งชานมไข่มุกที่เป็นที่นิยมกันในยุคนี้ ก็ยังส่งผลทำให้ยังมีการใช้น้ำตาลอยู่ เพราะฉะนั้นทำให้เทรนด์หวานน้อยไม่ได้สร้างความลำบากให้มิตรผลเท่าไหร่

“จะเห็นว่าลักษณะการบริโภคนอกบ้านยังเติบโตต่อเนื่อง เพราะไทยเป็นเมืองร้อน เครื่องดื่มสดชื่นยังขายได้ดี ไม่ว่าจะกาแฟ น้ำหวาน หรือชาไข่มุก แต่ในอนาคตเทรนด์นี้อาจจะเปลี่ยนเป็นโนชูการ์ก็ได้ มีวิธีการเตรียมตัวกัน ทำกับพาร์ตเนอร์หลายราย”

ในส่วนของภาคธุรกิจนั้น มิตรผลได้ปรับตัวเป็น Solution Provider ที่ไม่ได้ขายสินค้าแค่อย่างเดียว แต่มีการคิดโซลูชั่นให้ครอบคลุมการทำธุรกิจ ตั้งแต่เรื่องโลจิสติกส์ที่ต้องทำให้ต้นทุนการขนส่งน้ำตาลดีขึ้น หรือบางที่มีการติดตั้งเครื่องมือเพื่อให้ขนถ่ายน้ำตาลที่ดีขึ้น หรืออาจจะเป็นติดตั้งเครื่องมือแจ้งเตือนเมื่อน้ำตาลใกล้หมด โดยจะมีการทำเป็นโปรเจกต์ไปขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า

วิภาดาบอกว่า “เป็นการคิดที่ละเอียดขึ้น ต้องพัฒนาตัวเอง อย่าขายแต่สินค้า แต่ต้องขายลูกเล่น ท้ายที่สุดผู้ประกอบการต้องการได้ต้นทุนถูกที่สุด” 

น้ำตาลไม่ใช่ตัวร้าย แต่ต้องอยู่ในสัดส่วนที่เหมาะ

เมื่อดูพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคนี้ พบว่ามีการเลือกกินมากขึ้น เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ดูแลสุขภาพมากขึ้น น้ำตาลอาจจะยังอยู่ในเมนูอาหาร แต่ผู้บริโภคอาจจะลดการดื่มน้ำอัดลม ชาเขียว น้ำผลไม้ และหันมาออกกำลังกายมากขึ้น

แต่หลายคนยังมีความเชื่อที่ว่าต้องงดการกินน้ำตาล เพราะน้ำตาลทำให้อ้วน ที่จริงแล้วน้ำตาลยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย ยังต้องใช้พลังงานจากน้ำตาลอยู่ เพียงแต่ต้องกินในสัดส่วนที่เหมาะสมเท่านั้นเอง

“น้ำตาลไม่ใช่ของมีโทษแต่กำเนิด แต่อยู่ที่การกินให้เป็น กินในสัดส่วนที่ยังอร่อยกับรสชาติ แล้วรูปร่างยังดี และสุขภาพดีในระยะยาว เป็นการจัดการพื้นฐานของร่างกาย แต่บางคนชอบหาทางลัดในเลี่ยงกินน้ำตาล แล้วไปหาตัวช่วยอื่นๆ ซึ่งร่างกายยังต้องการพลังงานอยู่ ต้องสร้างสมดุลของน้ำตาล และไขมันให้ได้ เป็นไปได้อยากให้ทางภาครัฐออกมาตรการ ที่ทำให้การบริโภคน้อยลง แต่ให้คนไทยได้รับความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพ การจัดการตัวเอง ต้องทำให้บาล๊านซ์กันนั่นเอง”

กินอย่างไรให้ชีวิตแฮปปี้

วิภาดาเสริมว่า เทรนด์หวานน้อย ลดน้ำตาลก็เป็นที่ตื่นตัวที่ต่างประเทศเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่จะมีการนำผลวิจัย และข้อมูลมายืนยัน บางประเทศมีกฎหมายปรับคนอ้วนด้วย!

“ที่ต่างประเทศมีการหาข้อมูล งานวิจัย ดูทางเลือกต่างๆ ในการทานน้ำตาล หรือวัตถุแทนความหวาน บางประเทศตั้งกฎหมายปรับคนอ้วน กลายเป็นความท้าทายของสังคมไทยที่ต้องให้ความรู้ในเรื่องนี้ ต้องมีนักวิชาการเอาเรื่องยากมาย่อยเป็นเรื่องง่าย แต่ที่ไทยเป็นการเลี่ยง อดทนอดกลั้น ไม่ทานเลย เป็นเรื่องไม่ดี”

สรุปแล้ว ความท้าทายของมิตรผลจึงอยู่ที่การให้ความรู้ แก้กังวลเรื่องของน้ำตาลแก่ผู้บริโภค ต้องทำให้การกินน้ำตาลเป็นเรื่องไม่ฝืนไลฟ์สไตล์ แต่กินในสัดส่วนที่เหมาะสม ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายนั่นเอง ต้องกินน้ำตาลแล้วใช้ชีวิตได้อย่างแฮปปี้ ที่สำคัญน้ำตาลไม่ใช่ตัวร้ายด้วย