จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เกือบทั่วโลกต้องออกมาตรการที่หลีกเลี่ยงการพบปะหรือออกไปแหล่งชุมชน ซึ่งส่งผลต่อบริการขนส่งสาธารณะ ทำให้ผู้ขับขี่ต้องดิ้นรนหางานทำ Uber เองก็เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่รับผลกระทบดังกล่าว ดังนั้น Uber จึงเตรียมเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับไดรเวอร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้พวกเขาหางานทำในช่วงวิกฤตินี้ แม้ว่างานนั้นจะเป็นของ บริษัทอื่น ก็ตาม
ตั้งแต่เกิดวิกฤติไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ยอดใช้งานของ Uber แพลตฟอร์ม Ride-Hearing ชื่อดังหดลงอย่างมหาศาล อย่างในเมืองซีแอตเทิลซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักยอดการใช้งานลดลงกว่า 60-70% รวมไปถึงเมืองใหญ่อื่น ๆ เช่น ซานฟรานซิสโก, ลอสแองเจลิส และนิวยอร์ก โดยคาดว่าภาพรวมยอดใช้งานของ Uber ลงถึง 50%
ส่งผลให้ Uber ได้ประกาศฟีเจอร์ใหม่ในแอปของผู้ขับ (Driver) เรียกว่า Work Hub ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สร้างรายได้จากกิจการอื่น ๆ ทั้งรับการสั่งซื้อผ่าน Uber Eats รวมถึงบริการ Uber Freight บริการจับคู่ระหว่างคนขับรถบรรทุก และบริษัทที่ต้องการให้ไปส่งสินค้า (cargo) ที่กำลังมองหาคนขับที่มีใบขับขี่เชิงพาณิชย์เพื่อช่วยในการขนส่งสินค้า
“Work Hub ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ค้นหาโอกาสใหม่ ๆ อย่างการเพิ่มขึ้นของ Uber Eats โดยเฉพาะในเมืองต่าง ๆ เช่น Seattle และ San Francisco รวมถึงการส่งของต่าง ๆ ซึ่ง 2 บริการนี้จะช่วยให้ไดรฟ์เวอร์ส่งคน สามารถหารายได้เพิ่มเติมได้”
อย่างไรก็ตาม ไม่มีงานมากพอที่จะครอบคลุมทุกไดรฟ์เวอร์ที่ต้องการหารายได้ ดังนั้นบริษัทจึงร่วมมือกับบริษัท ภายนอกหลายสิบแห่ง เพื่อช่วยเติมเต็มช่องว่าง ผ่านโครงการ Uber Works โดยบริษัททำงานร่วมกับบริษัทจัดหาพนักงานในชิคาโก ดัลลัสและไมอามีเพื่อเชื่อมต่อไดรเวอร์กับงานชั่วคราวในร้านขายของชำ, การผลิตอาหารและธุรกิจซัพพลายเชนที่ต้องการพนักงานเพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงเป็นพาร์ตเนอร์กับชุดอาหารของ Kroger และ Home Chef บริษัทจัดส่งอาหารซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองชิคาโก
นอกจากนี้ Work Hub จะเปิดรับสมัครงาน โดยมีบริษัทเกือบ 15 แห่ง ที่กำลังสนใจจ้างงานในตอนนี้ อาทิ 7-Eleven, Albertsons, Dollar Tree, FedEx, Hertz, Land O’Lakes, McDonald’s, PepsiCo, UPS และ Walgreens และอื่น ๆ
#Uber #Ubereats #Fooddelivery #Covid19 #Positoiningmag