จากสถานการณ์ COVID-19 ที่แพร่ระบาด ส่งผลให้การขนส่งโดยเฉพาะสินค้าระหว่างประเทศต้องหยุดชะงักลง ลูกค้าเองก็ย่อมมีความกังวลต่อการจัดส่งสินค้า และหากนักช้อปออนไลน์มีความกังวลก็มักจะชะลอการสั่งซื้อหรือเปลี่ยนไปอุดหนุนร้านค้าอื่นแทน ดังนั้นร้านค้าออนไลน์ต้องทำให้ลูกค้ามั่นใจว่า ท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทายนี้ ธุรกิจและการให้บริการของคุณยังคงดำเนินการอย่างเป็นปกติ ดังนั้นนี่คือ 8 แนวทางเพื่อช่วยให้ร้านค้าออนไลน์ดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องในช่วงสถานการณ์นี้
1.แจ้งรายละเอียดที่สำคัญบนหน้าโฮมเพจ
หน้าโฮมเพจหรือปักหมุดบนเฟซบุ๊กเพจของร้านควรมีรายละเอียดครบทุกขั้นตอนการสั่งซื้อสินค้า ตั้งแต่กดยืนยัน ดำเนินการ บริการส่งสินค้าช่วงสถานการณ์ COVID-19 หลายร้านมีแท็บข้อมูลในการแจ้งโปรโมชั่นการตลาดต่าง ๆ เช่น ส่งสินค้าฟรีเมื่อซื้อสินค้าครบ 2,000 บาทขึ้นไป, เวลาให้บริการลูกค้าตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 1 ทุ่ม, ยินดีรับคืนสินค้าภายใน 90 วัน ฯลฯ
ควรมีแท็บสำหรับติดต่อสื่อสารกับลูกค้า เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณใส่ใจลูกค้าในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ และอาจเลือกใช้คำที่เหมาะสม อาทิ “เราอยู่เคียงข้างคุณเสมอ” “สินค้าทุกชิ้นปลอดภัยด้วยกระบวนการส่งที่ปลอดภัย”
2.บอกข้อมูลที่ครบถ้วน
บ่อยครั้งที่ผู้เยี่ยมชมเพจพุ่งสายตาไปที่แท็บประเภทของสินค้า หรือเพจที่ให้รายละเอียดข้อมูลผลิตภัณฑ์ ดังนั้น คุณสามารถนำรูปภาพผลิตภัณฑ์หรือใส่ข้อความเพิ่มใกล้ปุ่มสั่งซื้อ หรือแจ้งกำหนดการส่งของแก่ลูกค้าพร้อมข้อความสั้น ๆ และได้ใจความ เช่น “ส่งสินค้าตามปกติในช่วง COVID-19” เพื่อย้ำว่ากระบวนการสั่งซื้อยังเป็นไปตามปกติ
3.แจ้งข้อมูลการส่งสินค้าผ่าน Shopping Cart
ใช้โอกาสนี้ในการ สื่อสารกับลูกค้าผ่าน Shopping Cart ว่าร้านมีบริษัทขนส่งเพื่อจัดส่งสินค้าช่วง COVID-19 ได้ทันทีในพื้นที่ที่อยู่ในเขตให้บริการ และถ้าสินค้าจัดส่งช้ากว่ากำหนด คุณควรแจ้งให้ลูกค้าทราบอย่างตรงไปตรงมาเช่นกัน เพราะปกติบริษัทขนส่งจะแจ้งเวลาจัดส่งสินค้า พื้นที่ที่จัดส่งสินค้าบนหน้าโฮมเพจหรือทาง eDM ซึ่งร้านควรให้ความสำคัญและติดตามข้อมูลอัพเดตจากบริษัทขนส่งอย่างใกล้ชิด และอัพเดตข้อมูลเหล่านั้นในร้านออนไลน์ของคุณเพื่อให้ลูกค้าคุณได้รับข้อมูลที่ตรงกัน
4.สร้าง Meta tag ข้อความบนเสิร์ชเอนจิ้น Google
กูเกิลเสิร์ชเป็นอีกช่องทางที่ดึงผู้สนใจให้เข้ามาเยี่ยมชมร้านค้าออนไลน์ ดังนั้น ถ้าเพิ่มข้อความใน Meta Tag ที่โชว์ในหน้าค้นหาของกูเกิล เช่น “พร้อมส่งช่วง COVID-19” วิธีนี้จะช่วยเพิ่มทราฟฟิกให้กับร้านออนไลน์ได้ เพราะผลลัพธ์การค้นหาสามารถตอบคำถามที่ลูกค้าส่วนใหญ่อยากรู้ในช่วงสถานการณ์ไม่ปกติ
5.สร้าง FAQ หรือคำถามที่พบบ่อย
ในสถานการณ์แบบนี้ย่อมมีคำถามมากมายจากลูกค้า ดังนั้นควรรวบรวมข้อมูลทั้งหมดไว้ที่หน้า FAQ
6.แจ้งข้อมูลการติดต่อ
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกค้าสามารถติดต่อร้านได้จากทุกช่องทาง ไม่ว่าจะทางโทรศัพท์หรือโซเชียลมีเดีย หลีกเลี่ยงการสื่อสารที่ทำให้ลูกค้าสับสนในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ เพราะจะเป็นการทำลายความไว้วางใจของลูกค้า
7.สื่อสารลูกค้าผ่าน eDM หรือ E-Newsletter
เมื่ออัพเดตข้อมูลในร้านค้าออนไลน์และช่องทางการติดต่อต่าง ๆ แล้ว ควรทำการตลาดผ่าน eDM หรือ E-Newsletter เพราะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยอัพเดตข้อมูลอื่น ๆ ให้ลูกค้าปัจจุบันทราบว่าแบรนด์มีความเคลื่อนไหวอะไรบ้าง เช่น คุณสามารถอ้างอิงคำถามที่ทางร้านได้รับบ่อย ๆ ในช่วงโควิด-19 แสดงรูปภาพพนักงานที่กำลังทำงานในคลังสินค้า ข้อความรีวิวจากลูกค้าที่มีความรู้สึกดีกับการให้บริการของคุณ แชร์ข้อมูลการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็วและตรงเวลา ฯลฯ
8.ใช้โซเชียลมีเดียสร้างภาพจำให้แบรนด์หรือร้านค้า
ไม่ว่าร้านจะโพสต์รูปคลังสินค้าบนอินสตาแกรม ลงคลิปทีมงานที่กำลังตอบคำถามลูกค้าในเฟซบุ๊ก สิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าที่มีต่อร้านของคุณ และความน่าเชื่อถือก็เป็นสิ่งที่ลูกค้าของคุณกำลังมองหาในช่วงเวลาแบบนี้ด้วย
ทั้งนี้ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ได้รวบรวม 6 สินค้าที่นิยมส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ได้แก่ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลร่างกาย ยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อาหารแห้ง ผลไม้แปรรูป และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีความจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตของผู้คน รวมถึงเอกสารที่สำคัญที่จำเป็นต้องส่งถึงมือผู้รับในต่างประเทศ