ทุกวันนี้เมื่อธุรกิจไทยจะเข้าสู่ Social Media ที่แรกที่ทุกแบรนด์นึกถึงก็คือ Facebook และสิ่งแรกๆ ที่ต้องทำก็คือการสร้างหน้า Fan Page แต่หลายแบรนด์ก็พบว่ากว่าจะมีผู้คนมารู้จักและ “Become a fan” นั้นช่างใช้เวลานาน บางรายต้องพิมพ์ลงไปในโบรชัวร์, แพ็กเกจสินค้า หรือติดประกาศไว้ในร้านซึ่งก็ไม่ช่วยให้ “เพิ่มแฟน” เท่าไรนัก
ที่จริงแล้วมีขั้นตอนบางอย่างที่นักการตลาดออนไลน์มืออาชีพทำกัน ช่วยย่นเวลา “แจ้งเกิด” แฟนเพจให้รวดเร็วขึ้นมาก
1. ใช้เพื่อนๆ หรือคนที่รู้จักในเครือข่ายเฟซบุ๊กส่วนตัว
ทำได้ทั้งตัวเจ้าของแฟนเพจเองและทีมงานที่จะมามาช่วยกันแนะนำแฟนเพจหนึ่งๆ ให้เพื่อนๆ และคนรู้จักส่วนตัวทั้งหลาย โดยล็อกอินเข้าไปส่วนตัว – เข้าไปที่หน้า Fan Page ที่ต้องการโปรโมต – แล้วกด “Suggest to friends”
จากนั้นเมื่อพวกเขาเห็นคำชวน อาจจะกดหรือไม่กด “Become a fan” ก็เป็นได้ แล้วแต่ว่าคนนั้นสนใจแบรนด์นั้นหรือเรื่องนั้นอยู่หรือเปล่า และขึ้นกับว่าใครเป็นผู้ Suggest มาด้วย หรือบางคนอาจจะไม่ได้สนใจดูว่ามีเพื่อน Suggest อะไรมาบ้าง ซึ่งหากนักการตลาดจะ Suggest ซ้ำโดยเว้นช่วง 1 – 2 สัปดาห์อีกสักสองครั้งก็สามารถทำได้
2. ใช้ Facebook Search หาคนที่ใช่
หลายคนคงไม่เคยรู้ว่า Facebook ก็เป็น Search Engine ชั้นดีตัวหนึ่ง เน้นหนักการเสิร์ชข้อความในโพสต์ต่างๆ ของคนทั้งโลกได้ ไม่จำกัดแค่แวดวงเพื่อนๆ เท่านั้น
ตัวอย่างหากคุณทำ Fan Page ให้บริษัทรถยนต์ หนทางเพิ่มกลุ่มเป้าหมายก็คือเสิร์ชคำว่า “ซื้อรถ” ในช่อง Search ด้านบนจอเฟซบุ๊ก ผลลัพธ์ขั้นแรกจะมาจากเพื่อนๆ ที่กำลังพูดคุยกันเรื่องซื้อรถให้เราเลือกเชิญเป็นพิเศษ
แต่ที่สำคัญกว่าคือคนใหม่ๆ ที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ซึ่งเราจะเห็นได้โดยการกด “Posts by everyone” ทางซ้าย ผลลัพธ์ที่ออกมาก็ช่วยให้นักการตลาดเลือกเชิญ “คนที่ใช่” มาร่วม Fan Page ได้ทันที
3. จูงใจให้แฟนเดิมช่วยหาแฟนใหม่
กระตุ้นให้เกิดการแนะนำต่อๆ กันแบบ Viral Marketing ทั้งแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจ เช่นให้แฟนเดิมหาแฟนใหม่ๆ มาสมัครให้ได้คนละ 10 ชื่อ แล้วเมลแจ้งชื่อมาบอกว่าได้แนะนำใครมาสมัครแฟนเพจบ้าง แลกกับของรางวัลหรือบัตรส่วนลด วิธีนี้อาจได้ผลเร็ว แต่จำนวนคนจะไม่ได้มาจากความสนใจที่แท้จริง ส่วนใหญ่มาเพราะหวังส่วนลดหรือของแถมมากกว่า
อีกวิธีคือแบบไม่ตั้งใจแต่ค่อนข้างได้ผล คือให้แฟนๆ เดิมโพสต์ข้อความหรือลงรูปตามกติกา แล้วแข่งกันว่าใครจะถูกกด Like มากที่สุดในช่วงเวลา 1 เดือน การกด Like แต่ละครั้งจะทำให้คนอื่นๆ วงนอกๆ ออกไปได้เห็นและเกิดความรับรู้ในวงกว้างว่ามีแฟนเพจเราอยู่
4. จัดงบซื้อ Facebook Ads ดึงคนเข้า Fan Page
โฆษณาที่เห็นกันจนชินตาที่แถบด้านซ้ายของหน้า Facebook นั้นใครๆ ก็ซื้อได้ผ่านทางออนไลน์และตัดเงินผ่านบัตรเครดิตอัตโนมัติเมื่อมีคนคลิกโดยไม่ต้องไปติดต่อคนของบริษัท Facebook แต่อย่างใด เริ่มทำได้โดย คลิก “Promote with an Ad” ในหน้า Fan Page ที่คุณบริหารอยู่
ระบบโฆษณาใน Facebook คล้ายของ Google Adwords คือถ้าไม่มีคนคลิกก็ไม่ต้องจ่ายเพราะที่นี่คิดค่าโฆษณาแบบ “Pay Per Click” นอกจากนี้ยังจำกัดงบต่อวันได้ด้วย
ที่สำคัญคือนักการตลาดสามารถเลือกจำกัดวงผู้เห็นโฆษณาได้ เช่นเฉพาะคนที่เล่นอินเทอร์เน็ตจากประเทศไทยเท่านั้น, พูดภาษาไทยเท่านั้น, เพศชายเท่านั้น หรือโสดเท่านั้น ฯลฯ จะเลือกน้อยข้อมากข้ออย่างไรก็ได้ แล้วระบบจะแจ้งจำนวนคร่าวๆ ของชาว Facebook ที่เข้าข่ายเงื่อนไขของเราให้รู้ทันที
ตัวอย่างเช่นหากเลือกแค่ว่าต้องเป็นคนไทยก็จะมี 2 ล้านคน ถ้าเลือกว่าต้องผู้หญิงเท่านั้นก็เหลือ 1.2 ล้านคน เลือกว่าโสดเท่านั้นอาจจะเหลือ 8 แสนคน เป็นต้น
5. โปรโมตใน Twitter หรือ Social Network อื่นๆ
ธุรกิจส่วนใหญ่ที่มีทั้ง Facebook และ Twitter มักพบว่าแฟนๆ ในสองที่นี้เป็นคนละกลุ่มกัน ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องดีที่จะชักชวนให้คนจาก Twitter ให้เข้าไปเป็น Facebook Fan และชักชวนข้ามไปมาให้ครบทุกเครือข่าย ช่วยขยายฐานสมาชิกโดยรวมได้เป็นอย่างดี
6. ทำ Widget
ใช้หน้าเว็บของบริษัทหรือของแบรนด์ให้เป็นประโยชน์ โดยแปะกล่อง “Facebook Widget” ลงไป โชว์ว่าเรามีฐานแฟนหน้าตาเป้นอย่างไรบ้างได้ด้วย และจะมีปุ่ม “Become a fan” บนหน้าเว็บให้กดสมัครได้โดยไม่ต้องเข้าเฟซบุ๊ก ยิงนัดเดียวได้ทั้งแฟนใหม่ๆ และสร้างภาพลักษณ์ความทันสมัยทันโลกไซเบอร์ไปได้พร้อมๆ กัน