แอลจี ไม่ตกขบวน

ถึงแม้ค่ายผู้ผลิตเลือดเกาหลีอย่าง “แอลจี” ประเมินแล้วว่าตลาดทีวี 3D เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ยังถูกจำกัดด้วยเนื้อหารายการที่ไม่มาก และราคาที่ยังสูง แต่ไม่ได้หมายความว่าแอลจีจะยอมตกรถด่วน “ขบวน 3D”

แม้ว่ายังคาดการณ์ได้ยากกว่า ทีวี 3D จะเป็นกระแสที่แรงมากแค่ไหน แต่แอลจีก็ไม่ยอมพลาด “โอกาส” ของการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีใหม่ในครั้งนี้

เพื่อไม่ให้ตกเทรนด์ 3D ที่กำลังมา และคู่แข่งที่ถาโถมเข้าสู่ตลาด ท่ามกลางคำถามถึงความพร้อมของตลาด แอลจีได้เลือกตอบโจทย์การตลาดทีวี 3D โดยกำหนดให้ 3D เป็นออปชั่นเสริมในทีวีรุ่น INFINIA LX 9500 ซึ่งเป็นรุ่นแฟลกชิปเปิดตัวไปไม่นานนี้ โดยที่ยังคงหยิบขีดความสามารถในเรื่องของทีวีทั้งเรื่องความคมชัด และความบางมาเป็นจุดขาย วิธีนี้แอลจีเชื่อว่า จะสร้างความลงตัวทั้งในเรื่องเทคโนโลยีของเครื่อง และการตอบรับให้กับกลุ่มลูกค้าที่ถามหาเทคโนโลยี 3D

“เราเชื่อว่า 99% ลูกค้าซื้อทีวี 3D ไป ยังต้องดูรายการ 2D เป็นหลัก จะดูรายการ 3D บางช่วงเวลาเท่านั้นความคมชัดและความบางของตัวทีวียังต้องเป็นจุดขายสำคัญ ส่วน 3D เป็นแค่ฟังก์ชันเสริมเท่านั้น” ฉันท์ชาย พันธุฟัก ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกถึงแนวทางการทำตลาด

การเลือกให้ 3D เป็นเพียงแค่คุณสมบัติรอง นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องเทคโนโลยี 3D ซึ่งต้องการขีดความสามารถเรื่องของแสง และความคมชัดที่สูงมากแล้ว ยังช่วยสร้างความแตกต่างในทีวี 3D ที่แอลจีมองว่า ตัวเทคโนโลยี 3D ของทุกค่ายพัฒนามาไม่ต่างกัน สิ่งที่จะต่างกันได้ ยังคงเป็นเรื่องของคุณสมบัติของตัวทีวี

นอกจากนี้งบการตลาด 100 ล้านบาท ที่ถูกทุ่มให้กับรุ่นที่เป็นแฟลกชิปอยู่ ย่อมส่งผลให้เทคโนโลยี 3D
ที่เป็น 1 ออปชั่นสำคัญที่จะได้รับการโปรโมตตามไปด้วย

การเริ่มต้นของแอลจีนี้จึงเป็นเพียงการ “สร้างการรับรู้แบรนด์ซัมซุง” เพื่อไม่ตกเทรนด์ 3D เท่านั้น เพราะผลการสำรวจของ 3D พบว่ามีลูกค้าประมาณ 10% ที่ต้องการซื้อทันที กว่าที่ตลาดจะขยายตัวเต็มที่ต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2-3 ปี นั่นหมายความว่า ยังมีอีกจำนวนไม่น้อยที่ต้องการรอให้รายการ 3D มีความพร้อมและมีราคาที่ถูกลงกว่านี้ แม้แอลจีจะมีเทคโนโลยี 3D ไม่น้อยหน้าคู่แข่งในตลาด แต่ด้วยข้อจำกัดของตลาดไม่จำเป็นที่แอลจีต้องรีบร้อน

การวางตลาดของทีวี 3D รุ่นต่อไป จึงไปในช่วงปลายปี และอาจจะเลยไปถึงปีหน้า โดยจะอาศัยแรงซื้อ
มาจากเทศกาล ซึ่งถือว่าเป็นช่วงไทม์ของทีวี ที่ผู้บริโภคจะซื้อหาเพื่อเป็นของขวัญในช่วงเทศกาล และเมื่อถึงช่วง
นั้นปัญหาเรื่องการขาดแคลนซอฟต์แวร์รายการ 3D ก็น่าจะดีขึ้น

สิ่งที่แอลจีต้องทำต่อไป คือ การสร้างประสบการณ์การรับรู้ให้กับลูกค้า ด้วยการจับมือกับร้านบูมเมอ
แรง ร้านขายแผ่นภาพยนตร์ ซึ่งรู้จักดีในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์ โดยการสร้างโซน “หนัง3D” เพื่อให้ลูกค้าได้ทด
ลองใช้ แอลจีเชื่อว่า การสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าได้ทดลองใช้สินค้า จะเป็นกลยุทธสำคัญของแอลจี ที่จะกระ
ตุ้นดีมานด์ได้ในระยะยาวได้

“เรื่องเทคโนโลยีเราทันคนอื่นอยู่แล้ว แต่ยังมีลูกค้าอีกมายที่ยังไม่เคยใช้แอลจี ประสบการณ์ที่ให้ลูกค้าทด
ลองใช้สำคัญสำหรับเรา ถึงวันนี้เขาไม่ซื้อ แต่เมื่อไหร่ที่เขามีกำลังซื้อ เขาจะเลือกเรา ขอให้เรามีช่องทางการจำ
หน่ายให้ถูก และเหมาะสม”