“นักท่องเที่ยวจีน” พร้อมกลับไทยใน 6 เดือน มองความปลอดภัยต้องมาก่อน พ่วงด้วยโปรฯ โดนใจ

  • VGI Digital Lab เปิดอินไซต์ “นักท่องเที่ยวจีน” พร้อมกลับมาท่องเที่ยวยุคหลัง COVID-19 ภายใน 6 เดือน โดยประเทศไทยคืออันดับ 1 ในใจนักท่องเที่ยวที่เลือกเดินทางต่างประเทศ
  • คาดการณ์เทศกาลวันชาติจีนเดือนตุลาคมนี้ น่าจะมีชาวจีนราว 55% จากปกติ 1 ล้านคน เดินทางเข้ามาเที่ยวในไทย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนโสดหรือคู่รัก กำลังซื้อระดับพรีเมียม
  • พฤติกรรมคนจีน 80-90% ต้องการให้แบรนด์สื่อสารเรื่องความสะอาดปลอดภัย และเคยชินกับโปรโมชัน ส่วนลด หลังจากประเทศจีนจัดเทศกาลลดราคามาราธอนมาแล้ว 2 เดือน

VGI Digital Lab ธุรกิจบริการการตลาดออนไลน์ในเครือ บมจ.วีจีไอ เปิดเผยข้อมูลรวบรวมจากบริษัทเอเจนซีท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA) คือ Ctrip และ Fliggy.com พบว่า หลังประเทศจีนเข้าสู่ยุคหลัง COVID-19 สามารถควบคุมการระบาดได้ และบริษัทห้างร้าน 80-90% กลับมาทำงานตามปกติ ทำให้ชาวจีนเริ่มวางแผนท่องเที่ยวอีกครั้ง

โดยชาวจีน 73% ตอบว่าตนเองสนใจท่องเที่ยวหลัง COVID-19 ครั้งแรกภายใน 6 เดือนนับจากนี้ และ 55% ตอบว่าต้องการจะสานต่อทริปเดิมที่เคยยกเลิกหรือเลื่อนไปก่อนหน้าการเกิดโรคระบาด

ส่วนจุดหมายปลายทางที่สนใจ แบ่งเป็น 52% ต้องการท่องเที่ยวภายในประเทศ 35% ท่องเที่ยวต่างประเทศ และ 13% ยังไม่ตัดสินใจ สำหรับกลุ่มที่ต้องการเที่ยวต่างประเทศ Top 3 ประเทศท่องเที่ยวที่คนจีนต้องการไปเยือนมากที่สุดคือ 1.ไทย 2.ญี่ปุ่น และ 3.สิงคโปร์

เชื่อคนจีนกลับมาเที่ยวช่วงเทศกาลวันชาติ

จากการสำรวจที่พบว่าคนจีนจะกลับมาเที่ยวภายใน 6 เดือน ทำให้ประเมินได้ว่า ช่วงเทศกาลวันชาติจีนเดือนตุลาคมน่าจะมีคนจีนหลั่งไหลเข้ามาในไทย โดยปกติเทศกาลนี้จะมีคนจีนเดินทางเข้าไทย 1 ล้านคน (เฉลี่ยปี 2561-62) เมื่อดูจากความต้องการของคนจีนที่จะกลับมาสานต่อทริปที่เคยวางแผนไว้ 55% จึงคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนกลับมาในเดือนตุลาคมประมาณกึ่งหนึ่งของจำนวนปกติหรือราว 5 แสนคน

นอกจากนี้ หากประเมินจากกระแสการท่องเที่ยวภายในประเทศจีนที่เริ่มฟื้นตัวแล้ว พบว่ากลุ่มนักท่องเที่ยว ‘คลื่นลูกแรก’ เป็นคนโสดหรือคู่รักที่ยังไม่มีบุตร และเป็นกลุ่มพรีเมียม เลือกจองห้องพักโรงแรมระดับ 5 ดาวเป็นหลัก

เราอาจได้เห็นนักท่องเที่ยวจีนกลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้งช่วงเดือนตุลาคมนี้

อย่างไรก็ตาม VGI Digital Lab ให้ข้อมูลด้วยว่า ขณะนี้รัฐบาลจีนยังไม่อนุญาตให้มีการเดินทางเข้าออกประเทศ ยกเว้นเพียง 2 ประเทศคือ สิงคโปร์และเกาหลีใต้ โดยอนุญาตเฉพาะการเดินทางเพื่อธุรกิจเท่านั้น ดังนั้นกระแสการท่องเที่ยวของคนจีนที่จะหลั่งไหลมาไทย ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาลด้วย

 

ดักกำลังซื้อจีนต้อง “สะอาดปลอดภัย” + “โปรโมชัน”

ด้านพฤติกรรมคนจีนเปลี่ยนไปอย่างไรหลังผ่านพ้นโรคระบาด บริษัทพบว่าคนจีน 80-90% ต้องการให้แบรนด์สื่อสารประเด็นที่เกี่ยวกับ COVID-19 ไม่ว่าจะเป็นมาตรการด้านความสะอาดปลอดภัย แนะนำการปฏิบัติตัว ไปจนถึงโปรโมชันที่เกี่ยวข้อง

โดยพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจากเดิมที่จะมีขั้นตอนคือ 1.ได้รับแรงบันดาลใจใฝ่ฝันที่จะไปท่องเที่ยว 2.วางแผนการท่องเที่ยว และ 3.จองตั๋ว ที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว ปัจจุบันนี้ต้องเพิ่มขั้นตอน “ศึกษาให้แน่ใจว่าสถานที่ที่จะไปมีความสะอาดปลอดภัย” ในช่วงที่กำลังวางแผนว่าจะเลือกไปที่ไหน

เชนโรงแรม AVANI ปรับการทักทายแขกเป็นแบบไร้สัมผัส เช่น การไหว้ โค้งคำนับ มือทาบอก เพื่อรักษาสุขอนามัย

อีกส่วนหนึ่งที่เปลี่ยนไปคือ หลังจากเผชิญวิกฤตโรคระบาดทำให้จีนต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ภาคธุรกิจจีนต่างโหมจัดโปรโมชันมาตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้คนจีนจะคุ้นชินกับการได้รับโปรโมชันมากในช่วงนี้

 

สื่อสารผ่าน KOL โฆษณาแพ็กเกจโปรโมชันดึงดูด

สรุปจากพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีน บริษัทแนะนำว่า แบรนด์ควรจะหยิบจุดนี้มาสื่อสารไปสู่นักท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ร้านนวด อาจจะจัดทำวิดีโอสาธิตมาตรการรักษาสุขอนามัยของธุรกิจ และให้ข้อมูลเชิงประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว ตัวอย่างเช่น การปฏิบัติตัวเพื่อรักษาสุขอนามัยเมื่อเข้ามาในประเทศไทย ระเบียบปฏิบัติของสถานที่ท่องเที่ยวไทย ซึ่งจะทำให้ชาวจีนรู้สึกว่าแบรนด์มีความใส่ใจต่อสถานการณ์นี้

นอกจากนี้ VGI Digital Lab ยังแนะนำการสื่อสารผ่าน KOL (Key Opinion Leader) บนโซเชียลมีเดียยอดฮิต เช่น Douyin (แอปพลิเคชัน TikTok เวอร์ชันภาษาจีน) หรือ RED (อีกชื่อหนึ่งคือ Xiaohongshu แพลตฟอร์มคล้าย Instagram แต่เน้นการขายสินค้ามากขึ้น) เพราะสามารถสาธิตเรื่องความปลอดภัยได้ชัดเจนและสร้างความเชื่อมั่นได้ดีกว่า

จากนั้นจึงใช้โฆษณาโปรโมชันเพื่อปิดการขายในขั้นสุดท้าย โดยอาจลงเป็นแบนเนอร์ในแพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ ที่คนจีนนิยมเช่นกัน เช่น Moments (ฟีเจอร์หนึ่งในแอปฯ WeChat ทำงานคล้ายกับหน้าไทม์ไลน์ของ Facebook)

กระแสการท่องเที่ยวคนจีนที่เริ่มฟื้นตัวและน่าจะเข้ามาในไทยช่วงเดือนตุลาคมนี้ หากแบรนด์ไหนจะจับเทรนด์ให้ทัน แนะนำว่าต้องเร่งมือเพื่อเริ่มแผนการตลาดในช่วงเดือนกันยายนนี้