เเบรนด์หรู Mulberry โดนบีบจากมาตรการล็อกดาวน์ เตรียมปลดพนักงานทั่วโลก 25%

Photo : Shutterstock

Mulberry เเบรนด์หรูจากเกาะอังกฤษ วางเเผนจะปลดพนักงานทั่วโลกกว่า 25% จากจำนวนทั้งหมด 1,400-1,500 คน เพื่อลดต้นทุน หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการปิดร้านชั่วคราว ตามมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัด COVID-19

จากความไม่เเน่นอนทั้งเรื่องผลกระทบเเละระยะเวลาในการเเพร่ระบาดของ COVID-19 ที่จะส่งผลต่อธุรกิจ ทำให้ Mulberry เเบรนด์หรูที่ขึ้นชื่อด้านกระเป๋าหนัง คาดว่ายอดขายจะฟื้นตัวเเบบค่อยเป็นค่อยไป เเต่ไม่ใช่ในเร็ววันนี้

เเม้ในบางสาขาในจีน เกาหลีใต้ ยุโรป และแคนาดา จะเริ่มกลับมาเปิดให้บริการได้เเล้ว เเละในอังกฤษก็มีเเผนที่จะกลับมาเปิดได้ในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ เเต่ทว่าร้านค้า 120 แห่ง ใน 25 ประเทศทั่วโลกซึ่งทางเเบรนด์เป็นผู้บริหารเอง ยังคงต้องปิดให้บริการต่อเนื่องไปอีกตามมาตรการล็อกดาวน์ที่ยังคงมีอยู่ในหลายประเทศ

“การปิดร้านค้าจะยังส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเราอย่างต่อเนื่อง” Mulberry ระบุในเเถลงการณ์

ในช่วง COVID-19 ที่ทำให้ร้านค้าของ Mulberry ส่วนใหญ่ต้องปิดให้บริการชั่วคราวมาตั้งเเต่ปลายเดือนมี.ค. ทางเเบรนด์พยายามหันมามุ่งขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งมีการเติบโตที่ดี เเต่ด้วยกำลังซื้อที่ลดลงทำให้รายได้จากการขายออนไลน์ ไม่สามารถชดเชยรายได้จากการขายหน้าร้านที่ต้องปิดได้ทั้งหมดอยู่ดี

ขณะเดียวกัน การกลับมาเปิดร้านได้อีกครั้งก็ไม่ได้ทำให้ยอดขายกลับมาสดใสนัก เมื่อต้องมีมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) การลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยว เเละผู้คนก็ออกมาเดินช้อปปิ้งน้อยลง เหล่านี้ล้วนกระทบต่อรายได้ทั้งสิ้น ดังนั้นการปลดพนักงานบางส่วน จึงเป็นทางเลือกของ Mulberry เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปในระยะยาวได้

ด้านความเคลื่อนไหวของเเบรนด์หรูชื่อดังอีกเจ้าอย่าง Chanel ปรับกลยุทธ์ด้วยการ “ขึ้นราคา” ราคากระเป๋าบางรุ่น 5-17% ในสกุลเงินยูโร เหตุต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้นจาก COVID-19 กระทบซัพพลายเชน โดยนักวิเคราะห์มองว่าสินค้าแบรนด์หรูวางเป้าจะขึ้นราคาเพื่อรอนักช้อปที่อัดอั้นจากช่วงการเเพร่ระบาด

อ่านเพิ่มเติม : Chanel ขึ้นราคากระเป๋าหรู 20% เตรียมโกยเงินนักช้อป ชดเชยรายได้ที่หายไปช่วง COVID-19

 

ที่มา : Business Insider , Reuters