ติดตามแคมเปญ CSR ล่าสุดจาก “คอลเกต” ร่วมมือกับ WHO ช่วยผลักดัน #SaveHands Challenge ส่งเสริมให้ทุกคนหมั่นล้างมือลดการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา โดยเป็นครั้งแรกที่คอลเกตผลิต “สบู่” เพื่อนำไปบริจาคแก่ชุมชนที่ขาดแคลน 25 ล้านก้อนทั่วโลก และ 1 ล้านก้อนในจำนวนดังกล่าวจะบริจาคภายในประเทศไทย
จากแนวทางขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่รณรงค์ให้ทุกคนล้างมือเพื่อลดโอกาสรับเชื้อไวรัส ผ่านแฮชแท็กไวรัล #SafeHands Challenge ร่วมกับเซเลปอย่าง เซเลน่า โกเมซ ศิลปินชื่อดัง หรือ กอร์ดอน แรมซีย์ เซเลบริตี้เชฟ หรือ ลิเดีย ศรัณย์รัชต์ ก็มาร่วมกันโพสต์คลิปล้างมือด้วยสบู่ตามขั้นตอนที่ถูกต้อง จัดทำคลิปล้างมือความยาว 40 วินาที กระตุ้นให้ผู้คนรอบโลกหมั่นล้างมือ เนื่องจากการล้างมือถือเป็นวิธีที่ง่าย สะดวก และประหยัดที่สุดในการต่อต้านไวรัส COVID-19 เพียงล้างมืออย่างถูกต้องก็สามารถลดความเสี่ยงติดเชื้อไวรัส COVID-19
ด้วยเหตุนี้ “คอลเกต” ซึ่งเป็นแบรนด์ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดช่องปาก จึงปรับเปลี่ยนสายการผลิตมาผลิตสบู่ช่วยต่อสู้โรคระบาด COVID-19 ซึ่งเป็นสถานการณ์ระดับโลก โดยร่วมกับ WHO ในการผลักดันแคมเปญ #SafeHands Challenge
คอลเกตมีการผลิต “สบู่” เป็นครั้งแรก มาในแพ็กเกจสีแดงและมีภาพบอกวิธีการล้างมือที่ถูกต้องด้านหลัง ช่วยกระตุ้นให้ผู้รับปฏิบัติตามวิธีที่เหมาะสมได้ โดยคอลเกตมีการผลิตสบู่จำนวน 25 ล้านก้อนสำหรับบริจาคแจกจ่ายไปทั่วโลก และสบู่ 1 ล้านก้อนในจำนวนนี้ก็บริจาคให้กับประเทศไทยด้วย โดยทางคอลเกตได้ส่งมอบสบู่ 1 ล้านก้อนให้กับ มูลนิธิรักษ์ไทย เป็นผู้แจกจ่ายสบู่ล้างมือไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเน้นพื้นที่ที่จำเป็นหรือขาดแคลน เช่น ศูนย์บริการสาธารณสุข ชุมชนแออัด ศูนย์เด็กเล็ก ชุมชนแรงงานต่างด้าว ชุมชนชาวไทยภูเขา เป็นต้น
นอกจากการผลิตสบู่ คอลเกตยังให้ความร่วมมือกับ WHO เป็นกระบอกเสียงประชาสัมพันธ์ #SafeHands Challenge ในหลากหลายแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย โดยคอลเกตได้แปลคลิปวิดีโอ “พลังของการล้างมือ” เพื่อเผยแพร่หลากหลายภาษา สำหรับคลิปนี้ในเวอร์ชันภาษาไทยมีผู้ชมผ่านแพลตฟอร์ม YouTube ไปแล้วมากกว่า 17 ล้านครั้งในเวลา 1 เดือน แสดงถึงความตั้งใจส่งต่อข้อมูลเพื่อป้องกันโรคของแบรนด์ไปสู่ผู้บริโภคในเวลาวิกฤตเช่นนี้
กิจกรรมเหล่านี้สะท้อนให้เห็นความใส่ใจถึง “สุขอนามัย” สัมพันธ์กับแนวคิดของแบรนด์คอลเกตที่เป็นผู้ผลิตและเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดช่องปากที่ครอบคลุมถึง 200 ประเทศทั่วโลก และให้ความสำคัญกับสุขภาพของผู้บริโภค ร่วมฝ่าฟันไปกับทุกชุมชนที่กำลังต่อสู้กับวิกฤตโรคระบาด COVID-19 ครั้งนี้