สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คริสเทีย ฟรีแลนด์ รองนายกรัฐมนตรีแคนาดา เผยว่าแคนาดาจะเรียกเก็บภาษี 3.6 พันล้านดอลลาร์แคนาดา (ประมาณ 8.4 หมื่นล้านบาท) สำหรับสินค้าของสหรัฐฯ เป็นการตอบโต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บภาษีอะลูมิเนียมของแคนาดา 10% อีกครั้ง
ฟรีแลนด์กล่าวในการแถลงข่าวว่ามาตรการภาษีตอบโต้ดังกล่าวจะมีผลใน 30 วันหลังจากรัฐบาลแคนาดาขอความเห็นจากชาวแคนาดาอย่างละเอียดว่าจะกำหนดเป้าหมายที่ผลิตภัณฑ์ใดของสหรัฐฯ และเสริมว่า “แคนาดาจะตอบโต้อย่างรวดเร็ว และรุนแรง”
เมื่อบ่ายวันพฤหัสบดีที่ 6 ส.ค. ทรัมป์ประกาศว่าจะกำหนดอัตราภาษีใหม่สำหรับอะลูมิเนียมดิบนำเข้าของแคนาดาตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. เป็นต้นไป โดยอ้างถึงความกังวลด้านความมั่นคงของชาติ
ฟรีแลนด์กล่าวว่าข้อคิดเห็นที่ว่าอะลูมิเนียมของแคนาดาเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ นั้น “เป็นความคิดที่น่าหัวเราะ”
เธอกล่าวว่าสหรัฐฯ เลือกที่จะจุดประเด็นความขัดแย้งทางการค้าครั้งใหม่ด้วยการเรียกเก็บภาษีอะลูมิเนียมของแคนาดา “ซึ่งรังแต่จะทำร้ายการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่าย”
ฟรีแลนด์เสริมว่ารัฐบาลทรัมป์เป็น “ฝ่ายบริหารที่กีดกันการค้ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ”
ทั้งนี้ เมื่อเย็นวันพฤหัสบดีที่ 6 ส.ค. จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ให้คำมั่นว่าจะดำเนินมาตรการตอบโต้หลังจากทรัมป์ประกาศการตัดสินใจกำหนดอัตราภาษีนำเข้าอะลูมิเนียมของแคนาดาอีกครั้ง ”เราจะยืนหยัดเคียงข้างแรงงานอะลูมิเนียมของเราดังเช่นตอนปี 2018 เราจะต่อสู้เพื่อพวกเขาอีกครั้ง”
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้กำหนดอัตราภาษี 10% สำหรับอะลูมิเนียมของแคนาดาในเดือนมีนาคม 2018 และจากนั้นแคนาดาก็ตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีสินค้าของสหรัฐฯ จำนวนหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่อมาทางสหรัฐฯ ก็ยกเลิกกฎเกณฑ์ดังกล่าวตามข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือฉบับใหม่