เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร กำลังเผชิญกับ “ภาวะถดถอยทางเทคนิค” ครั้งเเรกในรอบ 11 ปี หลังตัวเลขจีดีพีในไตรมาส 2 หดตัวถึง 20.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีนี้
การที่รัฐบาลอังกฤษบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ ระหว่างช่วงเดือน เม.ย. – มิ.ย. ซึ่งถือว่า “ช้ากว่า” ประเทศอื่นๆ ในยุโรปที่ดำเนินการมาก่อนหน้า มีผลทำให้ในช่วงไตรมาส 2 อังกฤษกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจหนักที่สุดในยุโรป รุนแรงกว่าเยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี
การใช้จ่ายในภาคครัวเรือนลดลงต่อเนื่อง เพราะร้านค้าต่างๆ ต้องปิดทำการชั่วคราว ขณะที่ภาคการบริการ การก่อสร้าง และการผลิต ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่มีอัตราสูง
วันนี้ (12 ส.ค.) สำนักงานสถิติแห่งชาติของสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) หดตัว 20.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีนี้ โดยในเดือนเม.ย. จนถึงมิ.ย. เป็นช่วงที่มาตรการล็อกดาวน์ของสหราชอาณาจักรมีความเข้มงวดมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของอังกฤษ เริ่มกลับมาฟื้นตัวบ้างแล้ว ในช่วงเดือนมิ.ย. จากการคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยพบว่าตัวเลขจีดีพี ประจำเดือนมิ.ย. โต 8.7% เมื่อเทียบกับเมื่อเดือนก่อนหน้า
ขณะเดียวกัน จากตัวเลขจีดีพี ในไตรมาสแรกของปีนี้ที่หดตัว 2.2% ทำให้จีดีพีของสหราชอาณาจักรหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน นับว่าเป็นการเข้าสู่ภาวะ “ถดถอยทางเทคนิค” ซึ่งถือว่าเป็นการเผชิญกับภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2009 ทั้งนี้ เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก
ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ส่งผลกระทบตลาดแรงงาน ที่มีอัตราว่างงานเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงการเเพร่ระบาดของ COVID-19 เเละการชัตดาวน์ธุรกิจในเดือนมี.ค. ทำให้มีคนว่างงานในสหราชอาณาจักรไปแล้วกว่า 7.3 เเสนคน
Rishi Sunak รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า ชาวอังกฤษหลายเเสนคนต้องตกงาน เเละอาจมีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในอีกหลายเดือนข้างหน้า ถือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของสหราชอาณาจักร เเต่จะผ่านพ้นไปได้ โดยจะมีการสนับสนุนการสร้างงานในพื้นที่ใหม่ ๆ
ด้านภาคธุรกิจ เรียกร้องให้รัฐบาล “ทำมากขึ้น” เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดย Alpesh Paleja นักเศรษฐศาสตร์จากสมาคมอุตสาหกรรมอังกฤษ กล่าวว่า บริษัทหลายแห่งกำลังดิ้นรนเพื่อชำระค่าใช้จ่ายให้ตรงเวลา ส่วนการฟื้นตัวก็ยังไม่เเน่นอนนัก เนื่องจากความกังวลเรื่องการเเพร่ระบาดระลอก 2 รวมไปถึงความคืบหน้าในการเจรจาเรื่อง Brexit ที่ล่าช้าก็มีความเกี่ยวข้องกันด้วย
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอังกฤษได้เปิดตัวเเคมเปญ Eat Out to Help Out หวังกระตุ้นให้ผู้คนออกมาทานอาหารนอกบ้าน โดยมีเชนฟาสต์ฟู้ดหลายรายเข้าร่วมอย่าง Pizza Express, Costa Coffee เเละ McDonald’s
โดยรัฐบาลอังกฤษจะมอบส่วนลด 50% ให้กับเหล่านักชิมในทุกวันจันทร์ถึงพุธตลอดเดือนสิงหาคม สามารถใช้ได้ไม่จำกัดมื้อผ่านร้านอาหารกว่า 72,000 แห่ง โดยไม่มีขั้นต่ำ แต่มีข้อแม้ว่าส่วนลดจะจำกัดที่ไม่เกิน 10 ปอนด์ต่อคน หรือราว 410 บาท ไม่สามารถใช้ได้กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่สามารถใช้สำหรับซื้อกลับบ้านได้ โดยนักชิมสามารถใช้ส่วนลดได้บ่อยเท่าที่ต้องการในวันที่มีสิทธิ์ และสามารถใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้คูปองหรือโค้ดใด ๆ เพราะร้านจะหัก 50% จากบิลและเรียกเก็บส่วนลดจากรัฐบาลเอง
- อังกฤษออกแคมเปญ ‘Eat out to help out’ ให้ส่วนลดค่าอาหาร 50% ตลอดเดือนส.ค. หวังกระตุ้นทานอาหารนอกบ้าน
- Pizza Express เชนร้านอาหารดังในอังกฤษ สั่งปิด 67 สาขา ปลดพนักงาน 1,100 คน เพื่อพยุงธุรกิจ