นายใหญ่ UNIQLO เปิดใจ : COVID-19 เร่งความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน 10 ปีอยู่ในปีเดียว

Photo : Getty Images
ทาดาชิ ยานาอิ ผู้ก่อตั้ง UNIQLO ร้านสินค้าแฟชั่นชั้นนำของญี่ปุ่นเปิดใจ COVID-19 สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบ 10 ปี ต้องปฏิรูปร้านในญี่ปุ่นถึง 1 ใน 3 พร้อมมั่นใจตลาดจีนยังแข็งแกร่ง

ยานาอิ เป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 1 ของญี่ปุ่น ระบุว่า มรสุมจากการระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้ร้านสินค้าแฟชั่นแบรนด์ดังของสหรัฐอย่าง RENOWN และ Brooks Brothers ยังต้องล้มละลาย เป็นความเปลี่ยนแปลงใน 10 ปีที่มาถึงในเวลาแค่ปีเดียว

แต่เราต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงนี้ ขณะนี้ UNIQLO ดำเนินการตั้งแต่วางแผนผลิตภัณฑ์ ผลิตสินค้า กระจายสินค้า บริหารร้านค้า จนถึงจำหน่ายสินค้าให้ลูกค้า บริษัทต้องขยายตัวอย่างไม่หยุดหย่อน ตั้งแต่โรงงานจนถึงการส่งมอบสินค้าให้ลูกค้า ทำให้กำไรในขั้นตอนต่างๆ ลดน้อยลงเรื่อยๆ แต่ว่าเมื่อ COVID-19 ระบาด ก็ทำให้ทางบริษัทสามารถชะลอการขยายตัวลงได้

เขาบอกว่า COVID-19 ทำให้วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนแปลงไป การความเร่งรีบเปลี่ยนเป็นความหยุดนิ่ง เสื้อผ้าที่เป็นทางการเริ่มถอยห่างจากชีวิตประจำวันของผู้คน เพราะต้องอยู่บ้านมากขึ้น ออกไปภายนอกน้อยลง ชุดทำงานขายได้น้อยลง เสื้อผ้าเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต แต่ต่อมากลับกลายเป็นเหมือนเครื่องประดับที่พิเศษ แต่ UNIQLO ได้ผลิตเสื้อผ้าที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสมกับชีวิตประจำวัน นี่ทำให้เราประสบความสำเร็จ

ยานาอิยังบอกพูดถึงสภาวะประชากรลดน้อยลงในญี่ปุ่น ซึ่งส่งผลต่อธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคว่า ในญี่ปุ่น UNIQLO มีร้านมากกว่า 800 ร้าน แต่ร้านจำนวนมากมีขนาดเล็กใหญ่ตามสถานที่ตั้ง และร้านจำนวน 1 ใน 3 หรือกว่า 250 ร้านในญี่ปุ่นจะใช้โอกาสนี้เพื่อปรับโฉมใหม่

เขายังบอกว่า จีนยังเป็นตลาดนอกประเทศที่สำคัญที่สุดและมีอนาคตมากที่สุดของ UNIQLO ตอนนี้มีร้านในจีน 750 ร้าน แต่เขาคิดว่าสามารถขยายได้มากถึง 3,000 ร้าน

ส่วนคู่แข่งที่สำคัญของ UNIQLO ยานาอิมองว่าคือ Amazon ซึ่งตอนนี้ได้ทำแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เข้าสู่ธุรกิจอย่างเต็มตัวเหมือนยูนิโคล่ นอกจากนี้ยังรวมถึง Nike และ Adidas ซึ่งเป็นสินค้าแฟชั่นอยู่แล้ว และจะขยายสู่การผลิตเสื้อผ้ามากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ในช่วงวิกฤต COVID-19 ทาง UNIQLO ได้ผลิตหน้ากากอนามัยผ้าออกจำหน่ายในราคา 3 ชิ้น 990 เยน ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม นอกจากนี้ยังปรับเปลี่ยนการบริหารงานร้านค้า โดยลดจำนวนพนักงานแคชเชียร์ มาใช้การชำระเงินแบบอัตโนมัติ หลายร้านไม่มีพนักงานแคชเชียร์แม้แต่คนเดียว

Source