ใครที่อยากจะรู้ว่าทำไมบริการวิดีโอสตรีมมิงชื่อดัง Netflix (เน็ตฟลิกซ์) ถึงประสบความสำเร็จและมีผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจ “รีด ฮาสติงส์” ผู้ร่วมก่อตั้ง และซีอีโอร่วมของเน็ตฟลิกซ์ ได้ออกมาเปิดเผยเคล็ดลับความสำเร็จลงในหนังสือเล่มใหม่ของเขา “No Rules Rules : Netflix and the Culture of Reinvention” ที่มี เอริน เมย์เออร์ ช่วยเขียนให้
CEO ขาโหด
จะใช่ หรือไม่ใช่สาวกของเน็ตฟลิกซ์ก็ล้วนน่าสนใจว่า รีด และพรรคพวกมีกลเม็ดอะไรในการบริหารงานที่มัดใจเหล่าเจนเนอเรชัน-แซด และกลุ่มคนทำงานยุคมิลเลนเนียล ให้อยากเข้ามาทำงานสร้างสรรค์ในบริการสตรีมมิง “จ่ายก่อนดู” ที่หลายคนติดหนึบกันทุกวันนี้
โดยเฉพาะในความเป็นตัวตนของ รีด ฮาสต์ติงส์ ที่หลายๆ คนต่างได้ยินกิตติศัพท์ของซีอีโอมหาเศรษฐี เจ้าของฉายา “สิงสาราสัตว์” ซึ่งมาจากการบริหารงานสุดโหดของเขา แต่ทำไมเน็ตฟลิกซ์จึงดึงดูดผู้คนให้อยากเข้าไปทำงานอยู่ดี
ต้องมีบททดสอบอยู่เสมอ
ในหนังสือเล่มใหม่ของเขามีหัวข้อประมาณว่า “จงพร้อมที่จะไล่ใครออกก็ได้” บ่งบอกการบริหารงานของรีด ที่เขาเขียนเล่าไว้ว่า มักจะมี “การทดสอบ” แบบไม่ให้ลูกน้องตั้งตัวทันตลอดเวลา
“ถ้าคนหนึ่งในทีมของคุณ จู่ๆ ก็มาบอกว่าจะลาออก คุณจะทำอย่างไรให้เขาเปลี่ยนใจ ไม่มีทางหรอกใช่มั้ย คุณจะรีบเซ็นใบลาออกให้เขาเลยทันทีด้วยความโล่งใจ หรือเซ็นด้วยความเสียดาย เพราะฉะนั้น ถ้าคุณอยากรู้ว่าคนไหนโดดเด่น ควรจะเก็บเอาไว้พัฒนาองค์กร คุณก็ต้องมี “บททดสอบ” อยู่เรื่อยๆ คุณจะได้รู้ว่าคนไหนที่คุณควรจะหว่านล้อมให้เขาอยู่ต่อไป”
จ่ายเงินเดือนงามๆ
หลังจากบททดสอบที่ค้นพบดาวเด่นแล้ว รีดบอกว่า ต้องจ่ายเงินเดือนพวกเขาให้งามๆ เพื่อที่จะดึงดูดให้เขาอยู่กับองค์กร
“ผมไม่ได้พูดถึงโบนัสแบบได้ปีละครั้งนะครับ ต้องเป็นเงินเดือนที่ได้ทุกๆ เดือน ให้มากกว่าคนอื่นๆ ผมว่าระบบโบนัสไม่ได้ผลกับคนที่เราต้องการเก็บเอาไว้ มันยิ่งสร้างความเสี่ยงให้เขามองหาที่ที่ให้เงินเดือนมากกว่า นั่นแหละปัญหาสมองไหล”
ให้วันพักร้อนไม่จำกัด
อีกหัวข้อที่น่าสนใจคือ “ให้วันพักร้อนแบบไม่จำกัด” เป็นหนึ่งในกฎบริษัทที่ใครๆ ก็อยากมาเป็นพนักงานด้วย “นอกเหนือจากค่าตอบแทนสูงให้สำหรับคนเก่งๆ การให้วันหยุดแบบไม่จำกัดช่วยดึงดูดคนรุ่นใหม่ ให้อยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท เพราะธรรมชาติของพวกเขารักอิสระ และต้องการการยอมรับ ต้องการความไว้เนื้อเชื่อใจว่าคนรุ่นใหม่ๆ อย่างพวกเขาก็มีความรับผิดชอบทำงานให้สำเร็จ ก่อนจะขอหยุดพักผ่อนอย่างเพียงพอ”
รีด ฮาสติงส์ เสริมด้วยว่า การบริหารงานแบบที่เขาเล่ามานี้ มันได้ผลดีจริงๆ วัดได้จากผลประกอบการของเน็ตฟลิกซ์ 187,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กับสมาชิก 193 ล้านรายใน 190 ประเทศทั่วโลก นับเป็นบริษัทด้านการให้ความบันเทิงที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ซึ่งนอกจากความฮอตฮิตของซีรีส์ และภาพยนตร์แล้ว ปีที่ผ่านมาพวกเขายังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ถึง 10 สาขาอีกด้วย
ล่าสุดกับสัญญาที่ฮือฮาคือ รายการใหม่จาก เจ้าชายแฮร์รี และเมแกน มาร์เคิล โดยตอนนี้ รีดกำลังติดต่อขอเซ็นสัญญากับ บารัค และมิเชล โอบามา รวมทั้งได้เซ็นสัญญาถึง 200 ล้านดอลลาร์ กับผู้สร้างซีรีส์ดังของช่องเอชบีโอ อย่าง Game Of Thrones เดวิด เบนิออฟ และดีบี ไวซ์ ที่จะมาสร้างซีรีส์เรื่องใหม่ ยังไม่รวมงบลงทุนอีก 17,000 ล้านดอลลาร์ ในการซื้อหนังและซีรีส์เด็ดๆ มาให้ติดหนึบกันต่อไป