“โยชิฮิเดะ สุงะ” จากลูกชาวไร่ สู่ผู้ครองเก้าอี้ “นายกฯ ญี่ปุ่น” คนที่ 99 กับภารกิจหนักที่ต้องฝ่าฟัน

ญี่ปุ่นได้ผู้นำคนใหม่อย่างเป็นทางการ หลังรัฐสภาโหวตเลือกโยชิฮิเดะ สุงะหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 99 แทนชินโซ อาเบะที่เพิ่งลาออกเพราะปัญหาสุขภาพ โดยสุงะได้คะแนนเสียงท่วมท้นถึง 314 เสียง จากจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 465 คน

โยชิฮิเดะ สุงะผู้เป็นมือขวาที่ใกล้ชิดกับอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะมายาวนาน ให้คำมั่นว่าจะสานต่อนโยบายของรัฐบาลชุดก่อนต่อไป เช่น นโยบายอาเบะโนมิกส์” ที่เน้นการปฏิรูปและกระตุ้นเศรษฐกิจ ไปพร้อมๆ กับการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายระยะยาว 

ผู้นำคนใหม่ของญี่ปุ่น ได้ให้คำมั่นอีกว่า จะปฏิรูปคณะรัฐมนตรี และจะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว หลังต้องเผชิญมรสุม COVID-19 ที่ฉุด GDP ญี่ปุ่นหดตัวเป็นประวัติการณ์ถึง 28.1% ในไตรมาส 2/2020

นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังต้องต่อสู้กับการเป็นสังคมสูงอายุเต็มขั้น ที่มีอัตราการเกิดต่ำ โดยปัจจุบันประชากรเกือบ 1 ใน 3 ของประเทศมีอายุเกิน 65 ปี ก่อให้เกิดภาวะขาดเเคลนเเรงงาน เเละปัญหาโครงสร้างงบประมาณประกันสังคม ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศโดยรวม

ในช่วงเช้าวันนี้ชินโซ อาเบะนายกรัฐมนตรีที่ครองตำแหน่งยาวนานที่สุดของญี่ปุ่น พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีทั้งคณะประกาศลาออกแล้ว โดยเเถลงต่อสื่อมวลชนว่า เขาภูมิใจในความสำเร็จที่ได้ทำงานเป็นนายกรัฐมนตรี เกือบ 8 ปีที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งต่อให้สุงะ มือขวาของเขาได้มารับช่วงต่อ ท่ามกลางภารกิจเร่งด่วนและความท้าทายในการกอบกู้เศรษฐกิจ

อาเบะ ยังบอกอีกว่า ตอนนี้สุขภาพของเขาดีขึ้นแล้ว โดยขอขอบคุณชาวญี่ปุ่นทุกคนที่ให้การสนับสนุนตลอดมา เเละขอให้ชาวญี่ปุ่นให้การสนับสนุนผู้ที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนเขาต่อไปด้วย

ทั้งนี้ หลังจากรัฐสภาโหวตเลือกแล้วโยชิฮิเดะ สุงะต้องจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ จากนั้นจะมีพระราชพิธีรับรองคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ โดยสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ ที่พระราชวังอิมพีเรียลต่อไป  

ลูกชาวไร่สตรอว์เบอร์รี สู่ผู้นำญี่ปุ่น 

กล่าวกันว่า สุงะคือตัวแทนรัฐบาลที่ประชาชนรู้จักมากที่สุดรองจากอาเบะ เพราะเขาทำหน้าที่หัวหน้าโฆษกรัฐบาลมานานกว่า 7 ปี และต้องเปิดแถลงกับผู้สื่อข่าววันละ 2 ครั้ง อีกทั้งเขายังเป็นที่รู้จักด้วยฉายานาม คุณลุงเรวะ เพราะเขานี่เองคือคนเปิดชื่อรัชสมัยใหม่ของญี่ปุ่นเมื่อปีก่อน โดยสุงะ มักได้รับคำชมว่าสามารถจัดการรับมือกับระบบราชการอันซับซ้อนของญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี

เมื่อวันที่ 14 .. ที่ผ่านมาเขาได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นหัวหน้าพรรคเเอลดีพีคนเเรก ที่ไม่ได้มาจากขั้วการเมืองหรือตระกูลนักการเมือง ก่อนที่จะได้รับการโหวตสนับสนุนจากรัฐสภา ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 99 ของญี่ปุ่นในวันนี้

โยชิฮิเดะ สุงะ เลขาธิการของคณะรัฐมนตรี (ณ ขณะนั้น) เป็นผู้ทำหน้าที่เปิดชื่อรัชสมัยใหม่ “เรวะ” เมื่อปีก่อน (Photo : Kiyoshi Ota – Pool/Getty Images)

โยชิฮิเดะ สุงะเกิดเมื่อปี 1948 ในครอบครัวเกษตรกรที่ทำไร่ปลูกสตรอว์เบอร์รี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยโฮเซในปี 1973 เขาเริ่มทำงานในแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งทันที และเข้าเป็นสมาชิกพรรคแอลดีพี ต่อมารับตำแหน่งเป็นเลขานุการพรรคในที่สุด 

ในปี 1987 เขาได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาเมืองโยโกฮามา ก่อนจะได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในปี 1996 จากนั้นในปี 2005 สมัยของนายกรัฐมนตรีจุนอิชิโร โคอิซูมิ เขาได้รับการเเต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยและการสื่อสาร จากนั้นชินโซ อาเบะ ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนถัดมา ก็แต่งตั้งให้เขาเป็นรัฐมนตรีถึง 3 กระทรวงในสมัยเเรก เเละเมื่อชนะเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2  อาเบะก็ได้เเต่งตั้งสุงะให้เป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการทำงานของรัฐบาล

โดยตำแหน่งของสุงะไม่ใช่แค่เลขาฯ ธรรมดา แต่ถือเป็นหน้าที่ “มือขวา ของนายกฯ และเป็นคนสนิทที่สุดของชินโซ อาเบะมาตลอดเกือบ 8 ปี ทำให้ผลงานของเขาพิสูจน์ได้เพราะเป็นหนึ่งในผู้กำหนดทิศทางนโยบายต่างๆ มาตลอด

จากนี้ โยชิฮิเดะ สุงะ” ในฐานะผู้นำญี่ปุ่น จะต้องเเบกงานหนัก เพราะต้องเร่งจัดการกับปัญหา COVID-19 ที่ส่งผลกระทบทั้งเศรษฐกิจเเละสังคม โดยเขาวางเเผนจะกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ปฏิรูปเกษตรกรรม และส่งเสริมการท่องเที่ยว อีกทั้งจะขยายระบบการตรวจเชื้อไวรัสเเละพัฒนาวัคซีนให้ได้ภายในครึ่งปีเเรกของปี 2021 พร้อมรักษาความสัมพันธ์กับพันธมิตรอย่างสหรัฐ เเละวางตัวคงที่กับจีน ท่ามกลางสงครามการค้าที่ยืดเยื้อ รวมถึงต้องการจะเคลียร์ปัญหาการลักพาตัวพลเมืองญี่ปุ่นกับเกาหลีเหนือ เเละต้องการพบกับคิม จองอึนด้วย

ทั้งนี้ มีการคาดหมายว่า สุงะจะดำรงตำแหน่งไปจนครบวาระที่เหลือของอาเบะ จากนั้นจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนก..ปี 2021 อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่ญี่ปุ่นอาจจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดในเร็ว ๆ นี้

 

ที่มา : BBC (1)(2) , Japantimes, CNN