เเบรนด์ยีนส์ยักษ์ใหญ่อย่าง Levi’s ออกแคมเปญใหม่ เสนอให้ลูกค้านำ “ยีนส์ตัวเก่า” มาเเลกบัตรของขวัญมูลค่า 5-35 ดอลลาร์ ตามสาขาในสหรัฐฯ จากนั้นจะนำเสื้อผ้ามือสองไปทำความสะอาดเเละ “ขายต่อ” บนร้านค้าออนไลน์ที่เพิ่งเปิดใหม่อย่าง Levi’s SecondHand
โดยยีนส์เก่าที่ลูกค้านำมาเเลกบัตรของขวัญนั้น จะถูกประเมินราคาตามอายุ สภาพการใช้งานเเละราคาขายปลีกเดิมของสินค้านั้นๆ เบื้องต้นจะอยู่ในเรท 5-35 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 150-1,000 บาท)
Levi’s SecondHand เป็นโครงการล่าสุดของเเบรนด์เสื้อผ้าที่พยายามจะเจาะตลาด Circular Economy เศรษฐกิจเเบบหมุนเวียน ที่กำลังเป็นเทรนด์ในขณะนี้
ปัจจุบันทั่วโลกมีการผลิตเสื้อผ้า เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า ตั้งแต่ปี 2000 – 2014 โดยมีการผลิตสินค้ามากกว่า 1 แสนล้านตัวใน 1 ปี เเต่ทว่าเสื้อผ้าใหม่ที่ขายไปนั้น กลับถูกสวมใส่น้อยครั้งลงกว่าเดิม โดยเฉลี่ยแล้วเสื้อผ้าหนึ่งตัวมีการสวมใส่น้อยลงถึง 36% ทำให้ “เสื้อผ้าเก่ากลายเป็นขยะ” เเละถูกนำไปฝังกลบมากขึ้นเเละเป็นมลพิษต่อโลก
ตามรายงานปี 2018 ของ UNECE ระบุว่า อุตสาหกรรมแฟชั่น มีส่วนในการปล่อยคาร์บอนประมาณ 10% ของโลกและ 20% ของน้ำเสียทั่วโลก
Jennifer Sey หัวหน้าฝ่ายการตลาดของ Levi’s สหรัฐฯ บอกว่าการนำเสื้อผ้ามือสองมาทำความสะอาดเเละซ่อมเเซมจะใช้พลังงานเพียงเล็กน้อยเเละไม่มีการสีย้อมเพิ่มด้วย พร้อมจูงใจลูกค้าว่า หากซื้อกางเกงยีนส์มือสองผ่าน Levi’s SecondHand จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 80% เเละลดขยะไป 700 กรัม เมื่อเทียบกับการผลิตยีนส์ตัวใหม่
ปัจจุบันสินค้าบนเว็บไซต์ Levi’s SecondHand จะป้ายกำกับว่าเป็นสินค้ามือสองที่ผ่านการใช้แล้ว มีราคาตั้งแต่
30 -150 ดอลลาร์สหรัฐ
ไม่ใช่เเค่ Levi’s เท่านั้นที่เปิดโครงการ “ซื้อคืน” เเต่ยังมีเเบรนด์เสื้อผ้าต่างๆ อย่าง Patagonia ที่เปิดตัวโครงการซื้อคืนมาตั้งเเต่ปี 2017 เเละเเบรนด์ The North Face ก็ทำแคมเปญในเเบบเดียวกันตามมา
เทรนด์ของ Resale Market กำลังเติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ ไปเป็น 5.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2023 ตามการวิจัยของ ThredUp และ GlobalData Retail
ที่มา : hypebeast , business insider, fastcompany