โบกมือลา Quibi สตรีมมิ่งน้องใหม่ สู้เจ้าใหญ่ไม่ไหว ประกาศ “ปิดตัว” หลังให้บริการเเค่ 6 เดือน

โบกมือลากันไปเเล้วกับ “Quibi” เเพลตฟอร์มสตรีมมิ่งน้องใหม่ ประกาศยุติให้บริการ หลังเปิดตัวมาได้เพียง 6 เดือน ทุ่มเงินลงทุนไปเเล้วกว่า 1.8 พันล้านดอลลาร์

สมรภูมิธุรกิจสตรีมมิ่ง มีการต่อสู้กันอย่างดุเดือดในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เเละยิ่งรุนเเรงขึ้นไปอีกในวิกฤต COVID-19 ที่มียอดผู้ใช้เพิ่มขึ้นมาในช่วงล็อกดาวน์ ปัจจุบันตลาดนี้ถูกครอบครองด้วยเจ้าใหญ่อย่าง Netflix, Prime Video ของ Amazon, Disney + และ Apple TV + ส่วนรายเล็กต้องดิ้นรนหาช่องว่างที่เหลือของตลาด ซึ่งเเทบจะไม่มีโอกาสได้เเจ้งเกิด

Quibi ก่อตั้งโดย Jeffrey Katzenberg อดีตผู้บริหารของ Walt Disney ระดมทุนได้กว่า 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เริ่มให้บริการเมื่อวันที่ 6 เม.. ที่ผ่านมา ท่ามกลางการเเพร่ระบาดของ COVID-19 ผู้คนต้องหาความบันเทิงใหม่เมื่อต้องอยู่บ้าน

Quibi วางเกมโพสิชั่นในตลาดด้วยการชูจุดแข็งที่ไม่เหมือนใครอย่าง เนื้อหา ที่ไม่ว่าจะเป็นรายการ, ซีรีส์หรือภาพยนตร์ก็ตาม จะมีความยาวไม่เกิน 10 นาที และทุกคอนเทนต์สามารถดูได้ทั้ง แนวตั้ง แนวนอน โดยค่าสมัครสมาชิกของ Quibi จะอยู่ที่ 5 เหรียญ หรือราว 156 บาทต่อเดือน (เเบบมีโฆษณา) และ 8 เหรียญ หรือราว 250 บาทเดือน (เเบบไม่มีโฆษณา)

ก่อนหน้านี้ มีการเปิดเผยว่า ผู้นำในอุตสาหกรรมหนังและดาราดังอย่าง Steven Spielberg, Guillermo del Toro, Jennifer Lopez และ Reese Witherspoon ก็จะตบเท้ามาสร้างภาพยนตร์และรายการใน Quibi ด้วย

โลกได้เปลี่ยนไปมากตั้งแต่ก่อตั้งแพลตฟอร์ม และโมเดลทางธุรกิจของ Quibi ที่แยกออกมาผลิตรายการต่าง ๆ เองก็ไม่เวิร์คอีกต่อไป Katzenberg ระบุในเเถลงการณ์

จากรายงานของ Apptopia ระบุว่า นอกจากการขายโฆษณาแล้ว Quibi มีรายได้จากการสมัครสมาชิก 3.3 ล้านเหรียญสหรัฐ นับตั้งแต่เปิดตัว โดยรายได้เริ่มมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง มาตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม

ความล้มเหลวของเรา ไม่ใช่เพราะว่าขาดความพยายาม เราได้ใช้ทุกทางเลือกที่มีไปหมดแล้วซีอีโอ Quibi กล่าว

ไม่เพียงเเต่รายเล็กที่ต้องล้มหายตายจากในธุรกิจสตรีมมิ่ง เเต่ตอนนี้บรรดาเจ้าใหญ่ก็เจออุปสรรคที่ท้าทายเช่นกัน หลายคนมองว่า จำนวนสมาชิกของ Netflix โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกากำลังถึงจุดอิ่มตัว ซึ่งหมายความว่า หากอยากสร้างการเติบโตของรายได้ Netflix อาจจะมาจากการปรับขึ้นราคาค่าบริการ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าอาจส่งผลเสียกับ Netflix มากกว่า เพราะพวกเขาพร้อมจะ ‘ยกเลิก’ บริการ

เราคิดว่าในปี 2021 การเติบโตของสมาชิกจะยิ่งชะลอตัวลงอย่างมาก ดังนั้น แนวโน้มปีหน้าจะท้าทายมากขึ้นสำหรับ Netflix นอกจากนี้ เราได้ทำการสำรวจตลาดวิดีโอสตรีมมิ่งและผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนมากระบุว่า พวกเขาจะยกเลิก Netflix หรือลดจำนวนเดือนที่สมัคร Netflix หากขึ้นราคาเพิ่มขึ้นเพียง 1-2 ดอลลาร์สหรัฐ

อ่านเพิ่มเติม : เวลาอันแสนง่ายของ ‘Netflix’ จบแล้ว เมื่อไม่มี COVID-19 หนุน แถมมี Disney+ หายใจรดต้นคอ

ที่มา : Reuters