Informa Telecoms & Media รายงานล่าสุดว่า IPTV หรือสมาชิกทีวีผ่านอินเทอร์เน็ต มีผู้ชมแล้วถึง 10 ล้านครัวเรือน และทีวีดิจิตอล มีถึง 150 ล้านครัวเรือน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศแถบเอเชียแปซิฟิก และจะโตอย่างรวดเร็วต่อเนื่องในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าในปี 2015 จะมีทีวีดิจิตอลถึง 400 ล้านครัวเรือน และ 40 ล้านครัวเรือนดู IPTV มีเม็ดเงินสะพัด 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้จำนวนอัตราผู้ชมทีวีดิจิตอลของประชากรทั้งหมดเพิ่มจาก 21% ในปี 2009 เป็น 54% ในปี 2015
ส่วนประเทศที่จะมีอัตราส่วน 100 % คือออสเตรเลีย ฮ่องกง นิวซีแลนด์ และสิงคโปร์ ส่วนอีก 4 ประเทศคือญี่ปุ่น มาเลเซีย เกาหลีใต้ และไต้หวันจะมี 70%
ปี 2009 มีครัวเรือนที่เปลี่ยนทีวีจากทีวีอะนาล็อกมาเป็นดิจิตอล 35 ล้านครัวเรือน และมี 26 ล้านครัวเรือนที่สมัครเป็นสมาชิกเครือข่ายทีวี (Pay TV) แบ่งเป็น 14 ล้านเป็นเคเบิลทีวี 9 ล้านเป็นทีวีดาวเทียม และ 3 ล้านเป็น IPTV
สำหรับประเทศไทยถ้าพูดถึง IPTV อยู่ในขั้นยังไม่มีใครเริ่มต้นธุรกิจนี้อย่างจริงจัง ส่วนทีวีที่เป็นดิจิตอลนั้นข้อมูลจาก “สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กล่าวไว้เมื่อต้นปีที่ผ่านมาระบุว่า คนไทยมีทีวีดิจิตอลไม่ถึง 1% ของจำนวนครัวเรือนทั้งหมดกว่า 12 ล้านครัวเรือน ถ้าเทียบกับญี่ปุ่นแล้วมีถึง 70% ไม่ต่างจากหลายประเทศในอาเซียนที่คาดว่าจะใช้เวลามากกว่า 10 ปีในการปรับระบบการส่งทีวีจากอะนาล็อกเป็นดิจิตอล
ดิจิตอลทีวีทำให้ผู้ส่งรายการสามารถบีบอัดสัญญาณส่งรายการได้หลายช่องและมีคุณภาพของภาพดีมีความละเอียดสูง ทำให้ผู้รับชมมีโอกาสเลือกช่อง และได้ภาพที่คมชัดเมื่อรับชมผ่านทีวีดิจิตอล