ตัวชี้วัดความสำเร็จของทีมฟุตบอลช้ำนำระดับยุโรป อย่างเช่น รีลมาดริด อาจเกิดขึ้นจากผลงานในสนาม ที่ความกดดันทำให้จำเป็นต้องคว้าแชมป์ให้ได้เป็นประจำทุกปี
แต่สำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลจากประเทศอังกฤษแล้ว ความสำเร็จของพวกเขาเกิดจากการทำงานควบคู่กันระหว่างสองฝ่าย คือ ทีมนักเตะ และทีมการตลาด ที่ประสานกันเป็นพลัง ผลักดันจนเป็นวัฒนธรรมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีแรงดึงดูดต่อผู้คนทั่วโลก
333 ล้านคนทั่วโลก คือจำนวนแฟนฟุตบอลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เป็นดัชนีชี้ให้เห็นถึงพลักแห่งแบรนด์ผีแดง ที่ไม่เคยมีทีมฟุตบอลใดทำได้ และด้วยจำนวนแฟนคลับที่มีอยู่ทั่วโลกนี้ ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นที่หมายปองของแบรนด์ที่พร้อมทั้งกำลังเงิน และโพรไฟล์ ทั่วโลก
ในแต่ละปี มีตัวแทนจากแบรนด์ต่างๆ เป็นจำนวนมาก เดินทางมายังออฟฟิศในกรุงลอนดอนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2008เพื่อเข้ามาสร้างโอกาสให้กับแบรนด์ตัวเองในการเป็นพาร์ตเนอร์กับทางทีม
ในทางกลับกัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มีหน่วยงานที่คอยเสาะหาแบรนด์ที่มีศักยภาพในภูมิภาค หรือประเทศที่พวกเขาต้องการเข้าไปเจาะตลาด และแผ่ขยายวัฒนธรรมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้ลงลึกมากขึ้น อย่างเช่น ประเทศไทย เป็นต้น ที่ได้ยื่นข้อเสนอเข้ามาทางสิงห์ ก่อนจะจบดีลกันได้ในสองปีต่อมา
ขณะที่ สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด เปรียบได้กับหัวใจของทีมนักเตะ ออฟฟิศในลอนดอน ที่ไร้ซึ่งการตกแต่งที่แสดงออกถึงทีมผีแดง เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับสนามแข่งขันของเชลซี ก็คงไม่ต่างจากเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงให้ทีมทั้งทีมดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น
แทนการเดินทางไปยังเมืองแมนเชสเตอร์ ทางทีมตัดสินใจโยกส่วนการตลาด และฝ่ายขายมาไว้ยังลอนดอน ซึ่งเป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางของการทำธุรกิจในประเทศอังกฤษ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับบรรดาแบรนด์สินค้า ที่ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมกับทีมในฐานะพาร์ตเนอร์ หรือผู้สนับสนุน
โดยปีล่าสุด ออฟฟิศแห่งนี้สามารถสร้างรายได้เข้าทีมแล้วเกือบ 150 ล้านปอนด์ จากการบรรลุข้อตกลงสปอนเซอร์บนหน้าอกเสื้อกับ AON บริษัทจัดการความเสี่ยงจากสหรัฐอเมริกาด้วยจำนวนเงิน 80 ล้านปอนด์ตลอด 4 ฤดูกาล ข้อตกลงระยะเวลา 3ปีครึ่งกับกับบริษัทให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ MTN South Africa ด้วยมูลค่า 5 ล้านปอนด์ ข้อตกลงกับทางสายการบิน Turkish Airlines เป็นระยะเวลา 3 ปีครึ่ง มูลค่า 7 ล้านปอนด์ เช่นเดียวกับสิงห์ ที่จ่ายในตัวเลขที่ใกล้เคียงกัน เพื่อสัญญากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นระยะเวลา 3 ปี และเซ็นสัญญากับ Telekom Malaysia เป็นระยะเวลานานถึง 5 ปี
หากสรุปโมเดลการเป็นผู้สนับสนุนของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากข้อตกลงที่ได้บรรลุกับแบรนด์สินค้าต่างๆ สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่ โฆษณาบนเสื้อ โฆษณาข้างสนามพร้อมกับโอกาสขายสินค้าในสนาม และป้ายข้างสนามเพียงอย่างเดียว แต่จะสามารถนำนักเตะ โลโก้ หรือสัญลักษณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปใช้ได้มากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับข้อตกลง ซึ่งแต่ละรายไม่เหมือนกัน
ในปีนี้ เห็นได้ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลือกพาร์ตเนอร์จากประเทศที่มีกลุ่มแฟนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอยู่แล้ว โดยเฉพาะแบรนด์จากประเทศในแอฟริกา หรือเอเชีย รวมทั้งแบรนด์จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเหล่านี้เป็น Emerging Market ของทางทีมฯ
ในมาเลเซีย มีกลุ่ม Core Fans ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประมาณ 25% ของประชากร ในแอฟริกาใต้ มีจำนวนแฟนของทีมผีแดงอยู่ 10.3 ล้านคน ขณะที่ในประเทศไทย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในทีมที่มีผู้ชมตามเชียร์สูงสุด ซึ่งการจับมือเป็นพาร์ตเนอร์กับแบรนด์จากตลาดเกิดใหม่เหล่านี้ ช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขยายฐานแฟนคลับไปได้อีกมากแผ่ขยายอาณาจักรของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้ครอบคลุมทั่วโลก เพื่อสร้างให้ทีมฟุตบอลอันดับหนึ่งอย่างแท้จริง
ฐานแฟนฟุตบอลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | |
ทวีป | จำนวน |
ยุโรป | 53 ล้านคน |
อเมริกาเหนือ | 9 ล้านคน |
อเมริกาใต้ | 22 ล้านคน |
แอฟริกา | 56 ล้านคน |
เอเชีย | 193 ล้านคน |
Global Partner ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | ||
แบรนด์ | ประเทศ | ประเภทสินค้า |
AON | สหรัฐอเมริกา | การเงิน |
สิงห์ | ไทย | เบียร์ |
Telekom Malaysia | มาเลเซีย | โทรคมนาคม |
MTN South Africa | แอฟริกาใต้ | โทรคมนาคม |
Turkish Airlines | ตุรกี | สายการบิน |
แมนฯ ยู มาร์เก็ตติ้ง
การยอมรับของทีมฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปัจจุบันมีมากกว่าทีมฟุตบอลอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้จะไม่ได้ดีที่สุดในทวีปยุโรป แต่ก็เป็นทีมฟุตบอลที่กวาดใจคนรุ่นใหม่ให้หันเข้ามาเชียร์ได้
จำนวนแฟนฟุตบอลที่สูงถึง 333 ล้านคนทั่วโลก เป็นเป้าหมายให้กับแบรนด์ที่ต้องการขยายตลาดไปยังภูมิภาคต่างๆ โดยใช้กลุ่มแฟนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นฐานลูกค้ากลุ่มแรกที่ต้องเข้าถึง
ผลงานในพรีเมียร์ลีกที่ดีอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งในถ้วยยุโรป ภายใต้การคุมทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทำให้แบรนด์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สะท้อนถึงความสำเร็จ
ทีมฟุตบอลที่มีแนวทางการสร้างแบรนด์ที่ชัดเจนที่สุดในตอนนี้ ซึ่งทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นมากกว่าสโมสรฟุตบอล แต่กลายเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง ที่ช่วยส่งเสริมแบรนด์ที่เข้ามาเป็นพาร์ตเนอร์ด้วยได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญ ความจงรักภักดีของกลุ่มแฟนยังส่งต่อไปยังสินค้าที่เข้ามาร่วมเป็นพาร์ตเนอร์อีกด้วย
ประเภทสปอนเซอร์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
1.โฆษณาบนเสื้อ
2.โฆษณาข้างสนามพร้อมกับโอกาสขายสินค้าในสนาม
3.ป้ายข้างสนามเพียงอย่างเดียว