อเมริกันชนชุดแรกๆ อาจได้รับวัคซีค COVID-19 อย่างเร็วที่สุดคือ 24 ชั่วโมง หลังจากสำนักงานอาหารและยาให้การอนุมัติ ซึ่งนั่นเท่ากับว่า น่าจะเริ่มโครงการฉีดวัคซีนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ในช่วงกลางเดือนธันวาคม
“ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากได้รับอนุมัติ จะมีการเคลื่อนย้ายวัคซีนไปยังพื้นที่ต่างๆ ซึ่งแต่ละรัฐจะเป็นแจ้งให้เราทราบว่า พวกเขาต้องการฉีดวัคซีนที่ไหน” นายแพทย์มอนเซฟ สลาอุย หัวหน้าที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ในโครงการวัคซีน “Operation Warp Speed” ของรัฐบาลสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี
ความพยายามแจกจ่ายวัคซีนทั่วประเทศที่มีประชากร 330 ล้านคน มีขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ขัดขวางกระบวนการเปลี่ยนถ่ายรัฐบาลตามปกติ ก่อนที่ว่าที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม
สลาอุย แสดงความหวังว่า ต่อการเปลี่ยนถ่ายอำนาจอย่างราบรื่น และไม่คาดหมายว่าจะเกิดความล่าช้าใดๆ ในความพยายามฉีดวัคซีน
ที่ปรึกษาจากภายนอกของสำนักงานอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ จะพบปะกันในวันที่ 10 ธันวาคม เพื่อหารือว่าจะอนุมัติให้ใช้วัคซีน COVID-19 ที่พัฒนาโดยไฟเซอร์ อิงค์ และพันธมิตรอย่าง ไบโอเอ็นเทค จากเยอรมนี ในกรณีฉุกเฉินหรือไม่
ขณะเดียวกัน ก็คาดหมายว่า โมเดอร์นา อิงค์ จะขออนุมัติใช้วัคซีน COVID-19 ของพวกเขา หลังจากนั้นในเดือนธันวาคม
วัคซีนจะถูกแจกจ่ายบนพื้นฐานของจำนวนประชากรในแต่ละรัฐ สลาอุย ระบุ พร้อมบอกว่าแต่ละรัฐจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าใครควรได้รับวัคซีนกลุ่มแรกๆ ภายใต้คำแนะนำว่าควรให้ความสำคัญกับบรรดาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในลำดับต้นๆ เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ในแถวหน้าและคนชรา ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงเสียชีวิตจาก COVID-19 มากที่สุด
เขาบอกด้วยว่าเพื่อบรรลุเป้าหมายภูมิคุ้มกันหมู่ ประชากรของประเทศราวๆ 70% จำเป็นต้องมีภูมิคุ้มกัน ซึ่งคาดหมายว่าสหรัฐฯ จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวในช่วงเดือนพฤษภาคม
แม้เคสผู้ติดเชื้อ COVID-19 ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่อเมริกันชนหลายล้านคนเพิกเฉยต่อคำเตือนของรัฐบาลกลางและเจ้าหน้าที่ระดับรัฐ ที่ขอให้หยุดอยู่บ้านในช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะคนไข้ล้นโรงพยาบาล ในขณะที่สถานพยาบาลทั้งหลายแออัดยัดเยียดอยู่ก่อนแล้ว
หลายคนพยายามเข้ารับการตรวจเชื้อก่อนวันหยุดในวันพฤหัสบดีที่ 26 พ.ย. ทำให้เกิดการต่อแถวยาวเหยียดในนิวยอร์ก ซิตีและที่อื่นๆ
สหรัฐฯ ต้องแจกจ่ายวัคซีนหลาย 10 ล้านโดส ไปพร้อมๆ กับการต่อสู้กับการให้ข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับวัคซีนที่แพร่กระจายอยู่เต็มสื่อสังคมออนไลน์ โดยผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดย Gallup poll พบว่ามีอเมริกันชนเพียง 58% ที่บอกว่าจะเข้ารับวัคซีน เพิ่มขึ้นจากระดับ 50% ในเดือนกันยายน
รอน เคลน ว่าที่หัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาว ระบุว่า มันเป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่ต้องส่งต่อข้อมูลอย่างราบรื่นระหว่างคณะผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ของทรัมป์กับคณะทำงานโอนถ่ายอำนาจของไบเดน เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าในการแจกวัคซีน หลังจากไบเดนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม
ไบเดน เตือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว “ว่าจะมีคนตายมากไปกว่านี้ หากว่าเราไม่ร่วมมือกัน”
จำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในสหรัฐฯ พุ่งเกิน 12 ล้านคน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเป็นการเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ล้านเคส ภายในเวลาไม่ถึงสัปดาห์เป็นครั้งแรก ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตแตะระดับ 225,000 คน ท่ามกลางคำเตือนของบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่บอกว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจะเพิ่มเป็น 2,000 คนต่อวันในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า