“ญี่ปุ่น” ให้เวลาวัดใจ 3 อาทิตย์ หากคุม COVID-19 ไม่ได้ อาจต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน

(Photo by Nicolas Datiche/LightRocket via Getty Images)
รัฐบาลญี่ปุ่นจะใช้เวลา 3 สัปดาห์เพื่อยกระดับมาตรการควบคุมการระบาดของโรค COVID-19 หากยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงก่อนสิ้นปี ก็จะพิจารณาประกาศภาวะฉุกเฉิน

นิชิมูระ ยาซูโตชิ รัฐมนตรีที่ดูแลการรับมือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ได้หารือกับคณะผู้เชี่ยวชาญ และระบุว่าช่วงเวลา 3 สัปดาห์นี้คือช่วงที่สำคัญอย่างยิ่งยวดในการควบคุมการระบาดของไวรัสนี้ และหากยังไม่สัญญาณว่าสามารถควบคุมได้ก็จะพิจารณาประกาศภาวะฉุกเฉิน

คณะผู้เชี่ยวชาญของรัฐบาลญี่ปุ่นเรียกร้องให้ดำเนินการอย่างเข้มงวดในช่วง 3 สัปดาห์นับจากนี้ ขอให้ประชาชนงดเว้นจากการเดินทางไปมาจากพื้นที่ที่ไวรัสกำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว โดยรัฐบาลญี่ปุ่นจะศึกษามาตรการที่เป็นไปได้ร่วมกับผู้ว่าการจังหวัดต่างๆ เพื่อควบคุมติดเชื้อกำลังเพิ่มมากขึ้น

เมื่อต้นสัปดาห์นี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดเมืองโอซากา และเมืองซับโปโรบนเกาะฮอกไกโด ออกจากโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว Go To Travel และงดจำหน่ายคูปองส่วนลดสำหรับกินอาการนอกบ้านในโครงการ Go To Eat ชั่วคราว

นิชิมูระ ยาซูโตชิ รัฐมนตรีที่ดูแลการรับมือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ญี่ปุ่นได้ปรับปรุงกฎหมายควบคุมโรคระบาดเมื่อเดือนเมษายน อนุญาตให้นายกรัฐมนตรีสามารถประกาศภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขได้ในทันที แต่อำนาจตามกฎหมายทำได้เพียงขอร้องให้ประชาชนไม่ออกนอกบ้าน เว้นระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัย รวมถึงขอให้ร้านค้าลดเวลาทำการโดยให้เงินชดเชย แต่ไม่สามารถใช้มาตรการลงโทษ ปรับเงิน สั่งหยุดกิจการ หรือล็อกดาวน์เมืองได้เหมือนในหลายประเทศ

พื้นที่ซึ่งมีอัตราการะบาดเป็นวงกว้างในขณะนี้ คือ จังหวัดโอซากา, เฮียวโกะ (เมืองโกเบ) และเกียวโต ขณะที่ฮอกไกโดมีความเสี่ยงที่ผู้ติดเชื้อจะล้นโรงพยาบาล เนื่องจากฮอกไกโดมีระบบสาธารณสุขที่ด้อยกว่าในเมืองใหญ่ ส่วนกรุงโตเกียวก็มีผู้ติดเชื้อใหม่เกือบ 500 คนต่อวัน และจำนวนของผู้ป่วยอาการร้ายแรงกำลังเพิ่มขึ้น

ยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียว ประกาศว่าจะดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้น เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสในกรุงโตเกียว โดยขอให้ร้านอาหาร บาร์ และร้านคาราโอเกะที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ลดเวลาเปิดทำการลงเป็นเวลา 20 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน

มาตรการดังกล่าวจะใช้กับสถานประกอบการใน 23 เขตของกรุงโตเกียวและพื้นที่ของเขตทามะ ทางตะวันตกของกรุงโตเกียว ผู้ประกอบการที่ปฏิบัติตามมาตรการนี้ จะได้รับเงินช่วยเหลือ 400,000 เยน หรือราว 120,000 บาท

Source