ประเทศแคนาดากำลังเผชิญการระบาดของ COVID-19 รอบ 2 ที่มีอัตราการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากเนื่องจากกำลังเข้าใกล้ฤดูหนาว โดยทั่วประเทศมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยวันละเกือบ 5,000 คน ซึ่งสูงกว่าช่วงการระบาดระลอกแรก และยังไม่มีแนวโน้มว่าจะชะลอลง
นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ยอมรับว่าการระบาดรอบ 2 ของไวรัส COVID-19 ส่งผลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของแคนาดา และให้คำมั่นว่าจะอัดงบกว่า 7.7 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมกับเรียกร้องให้ประชาชนอยู่บ้านเพื่อหยุดการแพร่ระบาด พร้อมกับใช้มาตรการควบคุมโรคเข้มงวดขึ้นอีกครั้ง โดยได้ขยายมาตรการจำกัดการเดินทางของพลเมืองสหรัฐฯ ที่เดินทางเข้าแคนาดาไปจนถึงวันที่ 21 ธันวาคมปีนี้ ส่วนการใช้มาตรการจำกัดการเดินทางของพลเมืองประเทศอื่น ๆ จะขยายเวลาออกไปจนถึงวันที่ 21 มกราคมปีหน้า
“นี่จะเป็นการลงทุนครั้งสำคัญเพื่อให้เศรษฐกิจของเรากลับมาเดินหน้าได้ และเป็นการลงทุนที่จะทำให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และการอัดงบกระตุ้นครั้งประวัติศาสตร์นี้จะมากกว่า 3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ โดยจะเน้นความสำคัญไปที่ครอบครัว, เด็ก และชุมชนที่ได้รับผลกระทบ”
การตรวจพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นกว่า 7% โดยผู้เชี่ยวชาญเตือนด้วยว่า แคนาดาอาจมีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึงวันละ 20,000 คนได้ภายในสิ้นเดือนธันวาคม และหากประชาชนยังไม่ลดการพบปะกับผู้อื่นตัวเลขอาจสูงถึงวันละ 60,000 คนได้ ขณะที่ปัจจุบันทั่วประเทศมีผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 384,000 ราย และเสียชีวิต 12,203 ราย ตามข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์