“จังหวัดนิคม” ขายดี! “ศุภาลัย” บุกตลาด “อยุธยา” ถิ่นโรงงานยังมีกำลังซื้อ

ศุภาลัยเปิด 2 โครงการแรกในจังหวัดอยุธยา 2 เดือนสร้างยอดขาย 190 ล้านบาท แม้ตลาดอสังหาฯ อยุธยาในภาพรวมจะหดตัวลง-18% เพราะบริษัทลดการเปิดตัวใหม่ แต่ประเมินกำลังซื้อใน “จังหวัดนิคม” ยังดีอยู่ โดยปีนี้ชลบุรี-ระยองกลายเป็นตลาดขายดีที่สุด แทนที่ภูเก็ตซึ่งทรุดฮวบจากพิษ COVID-19

“ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเริ่มเปิดตัว 2 โครงการแรกในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 ได้แก่ โครงการศุภาลัย พรีโม่ อยุธยา มูลค่าโครงการ 417 ล้านบาท และ โครงการศุภาลัย วิลล์ อยุธยา มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท หลังเปิดตัว 2 เดือน บริษัททำยอดขาย 2 โครงการรวมกัน 190 ล้านบาท ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับค่อนข้างดีและเกินเป้าหมาย

ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์อยุธยาปี 2563 ไตรเตชะกล่าวว่า ประเมินจะมีมูลค่าตลาดราว 5,000 ล้านบาท ซึ่งลดลงที่ -18% จากปี 2562 ที่มีมูลค่าตลาด 6,100 ล้านบาท เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่ลดการเปิดตัวโครงการไป เป็นไปตามสภาวะตลาดเดียวกันทั้งประเทศที่ชะลอตัวจากเศรษฐกิจหลัง COVID-19

ศุภาลัย พรีโม่ อยุธยา

อย่างไรก็ตาม พื้นฐานของอยุธยาเป็นหนึ่งในกลุ่ม “จังหวัดนิคม” โดยมีนิคมอุตสาหกรรมรายล้อม 6 แห่ง มีประชากรในระบบประกันตนกว่า 4 แสนคน ซึ่งมากเป็นอันดับ 8 ของประเทศ และมีจีดีพีจังหวัดเป็นอันดับ 3 ของภาคกลาง รองจากกรุงเทพฯ และสมุทรปราการ มากยิ่งกว่าจังหวัดปริมณฑลอย่างนนทบุรีหรือปทุมธานี จะเห็นได้ว่าอยุธยาเป็นจังหวัดที่น่าสนใจและมีกำลังซื้อ ประชากรส่วนใหญ่มีศักยภาพพอที่จะซื้อบ้านในราคาเกิน 1 ล้านบาทได้

จากเหตุการณ์ช่วง COVID-19 ทำให้เห็นว่า หากเป็นนิคมที่ตั้งโรงงานในธุรกิจที่ไม่ได้รับผลกระทบหรือกระทบน้อยจากโรคระบาด ประชากรจะยังมีกำลังซื้อที่ดี โดยอยุธยาเป็นหนึ่งในจังหวัดกลุ่มดังกล่าว

บ้านเดี่ยวในโครงการศุภาลัย วิลล์ อยุธยา

“บังเอิญที่นี่เป็นนิคมที่ไม่ได้รับผลกระทบมาก เช่นเดียวกับชลบุรีและระยอง ปีนี้ทั้งสองจังหวัดเป็นเบอร์ 1-2 ในกลุ่มตลาดต่างจังหวัดของศุภาลัยที่ทำยอดขายได้ดีที่สุด แทนที่จังหวัดภูเก็ตซึ่งปกติจะขายดีที่สุด” ไตรเตชะกล่าว “อย่างที่ทราบว่าภูเก็ตกระทบเรื่องการท่องเที่ยว ทำให้ยอดขายตก มีการแคนเซิล และกู้ไม่ผ่าน โดยเฉพาะช่วงหลังเดือนสิงหาคมเป็นต้นมาจะเห็นได้ชัดมาก ทำให้ปีนี้เราเลื่อนโครงการเปิดใหม่ในภูเก็ตออกไปก่อน”

 

ฉีกทำเลมาอีกฝั่งเมือง ตุนที่ดินลุยตลาดเพิ่ม

“ธัญวรัตน์ ปัญญารัตน์” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาดและการขาย บมจ.ศุภาลัย กล่าวว่า โครงการของบริษัท แยกเป็นศุภาลัย พรีโม่ อยุธยา ซึ่งเป็นทาวน์เฮาส์และบ้านแฝด ราคาเริ่ม 2 ล้านต้น และศุภาลัย วิลล์ อยุธยา จะเป็นบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว ราคาเริ่ม 3 ล้านต้น

ทั้งสองโครงการอยู่บนถนนทางหลวง 3053 ซึ่งเชื่อมต่อกับถนนเอเชีย บริเวณตำบลบ้านเกาะ เป็นฝั่งทิศเหนือของเมือง เจาะกลุ่มคนทำงานในนิคมอย่างชัดเจน โดยสินค้าทาวน์เฮาส์จะเน้นคนวัย 25-30 ปี และสินค้าบ้านแฝด-บ้านเดี่ยวเกาะกลุ่มคนวัย 30-45 ปี การมีสินค้าหลากหลายทำให้เก็บลูกค้าได้ทุกความต้องการ

บ้านตัวอย่างโครงการศุภาลัย วิลล์ อยุธยา

Positioning รายงานว่า ก่อนหน้านี้บริษัทรายใหญ่จากกรุงเทพฯ เคยมาบุกพื้นที่อยุธยามาแล้ว 4 ราย ได้แก่ แลนด์แอนด์เฮาส์, แสนสิริ, โกลเด้นแลนด์ (เฟอร์เซอร์สฯ โฮม) และ พฤกษา ส่วนปีนี้เป็นปีแรกที่ ศุภาลัย เข้ามาทำตลาด โดยมี เอพี เป็นอีกรายที่กางแผนจะเข้ามาบุกอยุธยา แต่ได้เลื่อนการเปิดตัวออกไปก่อน

ไตรเตชะกล่าวว่า ศักยภาพของอยุธยาทำให้บริษัทซุ่มศึกษามานาน 4-5 ปี พบว่ายังมีช่องว่างให้เจาะตลาดได้ โดยเลือกฉีกทำเลมาในโซนเหนือ จากที่บริษัทใหญ่ส่วนใหญ่จะไปกระจุกตัวบริเวณตำบลเกาะเรียนที่อยู่โซนใต้ หลังจากนั้นเร่งหาที่ดินในราคาเหมาะสมเพื่อขึ้นโครงการด้วยราคาที่แข่งขันได้มากกว่า รวมถึงมีทาวน์เฮาส์เป็นตัวเลือก

ปีต่อๆ ไปบริษัทจะมีโครงการเปิดเพิ่มในอยุธยาอีก เพราะได้จัดหาที่ดินไว้เรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างออกแบบโครงการ โดยจะมีในทำเลอื่นๆ ของอยุธยาเพิ่มเติม