‘Coca-Cola’ หรือ ‘โค้ก’ ที่คนไทยเรียกกันคุ้นหูมากกว่า ได้ประกาศว่าเตรียมจะลดจำนวนพนักงานลงประมาณ 2,200 ตำแหน่งทั่วโลก ซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้าง หลังจากบริษัทได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19
ในปี 2019 Coca-Cola มีพนักงานทั่วโลกทั้งสิ้น 86,200 คน โดยหลังจากที่บริษัทต้องเจอพิษ COVID-19 ทำให้รายได้ในไตรมาสที่ 3 ลดลงถึง 9% ส่งผลให้บริษัทวางแผนลดพนักงานทั่วโลกจำนวน 2,200 ตำแหน่ง โดยจำนวน 1,200 ตำแหน่งเป็นพนักงานในสหรัฐอเมริกา ซึ่งปัจจุบัน พนักงาน Coca-Cola ในสหรัฐอเมริกามีประมาณ 10,400 คน
“การระบาดของโรคได้ทำลายรายได้และเพิ่มต้นทุนให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเครื่องดื่ม โดยทั่วไปแล้วยอดขายประมาณครึ่งหนึ่งมาจากการที่ผู้บริโภคดื่มเครื่องดื่มนอกบ้าน ซึ่งตอนนี้แทบทำไม่ได้”
ที่ผ่านมา บริษัทได้ตอบสนองต่อวิกฤตดังกล่าวด้วยการเร่งรัดแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจและลดพอร์ตการลงทุน ได้หยุดผลิตเครื่องดื่ม เช่น Tab และแบรนด์ Odwalla ที่ขายไม่ดีและไม่มีโอกาสเติบโตมากนัก บริษัทวางแผนที่จะสร้างหน่วยปฏิบัติการใหม่ที่มุ่งเน้นในระดับภูมิภาคและระดับท้องถิ่นซึ่งจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมผู้นำด้านการตลาดระดับโลก 5 ทีมโดยแบ่งตามหมวดหมู่
ทั้งนี้ การลดจำนวนพนักงานในครั้งนี้มีทั้งแบบสมัครใจและไม่สมัครใจ โดยจะมีค่าชดเชยให้ คาดว่าบริษัทจะมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ระหว่าง 350-550 ล้านดอลลาร์ (ราว 1-1.6 หมื่นล้านบาท) ที่ผ่านมา หุ้นของ Coca-Cola ซึ่งมีมูลค่าตลาด 230 พันล้านดอลลาร์ เติบโตน้อยกว่า 1% ในการซื้อขายที่ผ่านมา โดยมูลค่าหุ้นในปี 2020 ลดลง 3%