เพราะสุขภาพฟันสำคัญ! “กัลฟ์” ร่วม “ทันตะ จุฬาฯ” ส่งหน่วยเคลื่อนที่ “รักษาฟันฟรี” ให้ชุมชน


มากกว่าครึ่งของประชากรโลกกำลังประสบปัญหาสุขภาพฟันและบั่นทอนคุณภาพชีวิต รวมถึงประเทศไทยก็มีกลุ่มประชากรที่ประสบปัญหาอย่างเดียวกัน ทำให้กลุ่มบริษัท “กัลฟ์” ประสาน “ทันตะ จุฬาฯ” ร่วมกันทำโครงการ “GULF Sparks Smiles มอบรอยยิ้มสดใสให้ชุมชน” หน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่เข้ารักษาฟรีให้กับชุมชนกลุ่มเปราะบางทางเศรษฐกิจ เพื่อตอบโจทย์สุขภาพฟันซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ ในขณะที่ค่ารักษาทางทันตกรรมนั้นสูงขึ้นทุกปี

โครงการหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ “GULF Sparks Smiles มอบรอยยิ้มสดใสให้ชุมชน” ออกเดินทางไปแล้ว 3 ครั้งใน 3 พื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ภายในระยะเวลา 3 เดือน มีผู้เข้ารับการรักษาแล้วกว่า 300 คน สร้างรอยยิ้มสวยและสุขภาพช่องปากที่ดีให้กับชุมชน

ที่มาของโครงการนี้ สิตมน รัตนาวะดี ในนามตัวแทน นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่แจกอาหารตามชุมชนในช่วงการระบาดโควิด-19 เดือนเม.ย.-พ.ค.ที่ผ่านมาทำให้บริษัทเห็นสภาพความเป็นอยู่ของชุมชนกลุ่มเปราะบาง ซึ่งได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้นในช่วงโควิด-19 จากจุดเริ่มต้นนี้ ทีมงานจึงหารือกันว่าหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงแล้ว กัลฟ์จะสามารถทำโครงการลักษณะใดได้อีกเพื่อช่วยเหลือสังคม โดยมุ่งเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน สอดคล้องกับพันธกิจของกัลฟ์ที่ต้องการ “Powering the Future, Empowering the People” มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคมอย่างยั่งยืน

ในที่สุด บริษัทพบสถิติจาก “สมาพันธ์ทันตแพทย์โลก” (FDI World Dental Federation) ในปี 2562 ว่ามีประชากรโลกประมาณ 3.6 พันล้านคนหรือกว่าครึ่งหนึ่งของโลก กำลังประสบปัญหาโรคในช่องปาก เช่น โรคฟันผุ โรคเหงือก และ ค่ารักษาที่ค่อนข้างสูงทำให้สถิติผู้เข้าไม่ถึงการรักษาทางทันตกรรมสูงขึ้นสะสม 38% นับตั้งแต่ปี 2533 รวมถึงประเทศไทยก็มีปัญหาในรูปแบบเดียวกัน เพราะกลุ่มเปราะบางทางเศรษฐกิจเข้าถึงการรักษาทางทันตกรรมน้อยกว่า ต้องเสียทั้งค่าใช้จ่ายการรักษา ค่าเดินทาง และเสียโอกาสทำงานในวันนั้นด้วย

เมื่อเล็งเห็นว่าสุขภาพฟันเป็นเรื่องสำคัญ กัลฟ์จึงร่วมมือกับ คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ริเริ่มโครงการ “GULF Sparks Smiles มอบรอยยิ้มสดใสให้ชุมชน” ดังกล่าวขึ้น

นับตั้งแต่ตุลาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน โครงการเข้าถึงชุมชนในกรุงเทพฯ แล้ว 3 แห่ง คือ ชุมชนบ้านแบนชะโด เขตคลองสามวา, ชุมชนทับช้างคลองบน เขตสะพานสูง และ ชุมชนเขตบางนา โดยเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ารับการรักษา ไม่ได้จำกัดแค่คนในพื้นที่ ครอบคลุมบริการรักษาฟัน เช่น ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน ถอนฟันคุด และมีกิจกรรมจัดอบรมด้านทันตสุขศึกษาให้กับคนในชุมชนรวมถึงอาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) ด้วย

นอกจากนี้ กัลฟ์ยังมอบ “เครื่องดูดน้ำลายความแรงสูง” (High Power Mobile Suction) จำนวน 10 เครื่อง ไว้ใช้ในหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ของทันตะ จุฬาฯ ซึ่งจัดขึ้นภายใต้มาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 อย่างเคร่งครัด มีการตรวจวัดอุณหภูมิ ซักประวัติเบื้องต้น เว้นระยะห่าง มีอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ เช่น หน้ากากเฟซชีลด์ แว่นป้องกัน หน้ากากอนามัย ถุงมือยาง ชุด PPE เป็นต้น และยังมีการจัดเครื่องดูดละอองฝอย (Extra Oral Suction) ลดการฟุ้งกระจาย รวมถึงมีพัดลมขนาดใหญ่ถ่ายเทอากาศ ตลอดจนใช้เครื่องพลาสมาฆ่าเชื้อในอากาศด้วย

สุขภาพฟันเป็นเรื่องสำคัญแค่ไหน? รศ. ทพ. ดร. พรชัย จันศิษย์ยานนท์ คณบดี คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ปัญหาสุขภาพฟันส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะโรคฟันผุและปริทันต์อักเสบ ถ้าไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงทีจะลุกลามได้ ดังนั้น การมีหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่จึงเป็นการช่วยเหลือคนในชุมชน และยังกระจายโอกาสและความเท่าเทียมกันด้านบริการทันตสุขภาพอีกด้วย

ผลของการกระจายโอกาสดังกล่าว สะท้อนจากเสียงของคนในชุมชนผู้เข้ารับการบริการ ยกตัวอย่างเช่น คุณประดิษฐ์ จันทร ตัวแทนจากชุมชนบ้านแบนชะโด เล่าถึงการเข้ามารับบริการว่า ปกติแล้วตนจะไปหาหมอฟันก็ต่อเมื่อฟันมีปัญหา ปวดฟัน ต้องถอนฟันเท่านั้น แต่เมื่อมีสถานการณ์โรคโควิด-19 ก็ไม่ได้ไปหาหมอฟัน ครั้งนี้จึงเป็นการมาพบหมอฟันครั้งแรกของปี รวมถึงพาลูกชายที่เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 1 มาพบหมอฟันเป็นครั้งแรกด้วย

“รู้สึกดีใจที่มีโครงการดี ๆ อย่างนี้ที่ทางกัลฟ์และทีมหมอฟันเข้ามาดูแลคนในชุมชน” คุณประดิษฐ์กล่าว

นอกจากคนในชุมชนจะได้ประโยชน์แล้ว เหล่านิสิตทันตแพทย์จากทันตะ จุฬาฯ ก็ได้ประโยชน์เช่นกัน โดย น้ำหวาน – นงนภัส ศุภภาววิสิฐ นิสิตชั้นปีที่ 5 คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงประสบการณ์ของตนที่เป็นอาสาสมัครไปกับหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ตั้งแต่เรียนชั้นปีที่ 1 ว่าทำให้ได้ความรู้จากการลงสนามปฏิบัติงานจริง และการลงชุมชนจะทำให้เข้าใจคนในชุมชนมากขึ้น ไม่เพียงสุขภาพช่องปากแต่รวมถึงปัญหาแวดล้อมอื่นๆ ด้วย

เสียงตอบรับเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าโครงการ “GULF Sparks Smiles มอบรอยยิ้มสดใสให้ชุมชน” ช่วยสร้างสิ่งที่ดีให้กับสังคมได้จริงและเป็นประโยชน์ที่ยั่งยืน

สำหรับข้อมูลข่าวสาร และภาพกิจกรรมเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ทางเฟสบุ๊คแฟนเพจ https://www.facebook.com/GulfSPARK.TH/