จับตาอีกก้าวของ ‘More Meat’ ผู้บุกเบิกตลาด ‘Plant-based’ ไทย ที่ได้ ‘V Foods’ ลงทุน

หากพูดถึงตลาด ‘Plant-based Food’ หรือ ‘โปรตีนทดแทนจากพืช’ หลายคนคงนึกไม่ค่อยออก หรืออาจจะคิดถึงพวก ‘โปรตีนเกษตร’ ที่จะเห็นกันเยอะช่วงเทศกาลกินเจ หรือนึกถึงแบรนด์ต่างชาติอย่าง ‘Beyond Meat’ แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้วตลาด Plant-based นั้นกว้างกว่าที่คิด แถมปัจจุบันมีมูลค่าถึง 28,000 ล้านบาทเลยทีเดียว และแน่นอนว่าด้วยเทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรงเพราะ COVID-19 ทำให้แบรนด์ที่อยู่ในตลาดอย่าง ‘More Meat’ สตาร์ทอัพฟู้ดเทคไทยยิ่งน่าจับตามอง

ทำความรู้จัก ‘More Meat’ สตาร์ทอัพ FoodTech ที่ขอบุกเบิกตลาด ‘Plant-Based’ ในไทย

รู้จักตลาด ‘Plant-based Food’

ตลาด ‘Plant-based Food’ แบ่งออกได้ 3 แบบ 1. Plant-based Milk อาทิ น้ำนมข้าวโพด, นมอัลมอนด์ 2. Plant-based Meat หรือ เนื้อสังเคราะห์ และ 3. Plant-based Meal อาหารพร้อมทานหรือพร้อมปรุงสังเคราะห์ อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยนั้นส่วนใหญ่จะเป็นการ ‘นำเข้า’ เป็นหลัก แถมราคายัง ‘สูง’ นี่จึงเป็นช่องว่างสำคัญของ ‘More Meat’ ในการทำตลาดไทย รวมถึงการขยายตลาดอีกด้วย

“ตลาด Plant-based Meat ของไทยมีมูลค่าประมาณ 10-20 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตประมาณ 30-40% ต่อปี ดังนั้นปีหน้าคาดว่าจะมีมูลค่าแตะ 30-40% ล้านบาทได้ เพราะกระแสการดูแลสุขภาพกำลังมา” อภิรักษ์ โกษะโยธิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วี ฟู้ดส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

อภิรักษ์ โกษะโยธิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วี ฟู้ดส์ (ประเทศไทย) จำกัด

More Meat เตรียมโกอินเตอร์ปีหน้า

‘More Meat’ สตาร์ทอัพฟู้ดเทคไทยที่ทำ Plant-based Meat หรือเนื้อสังเคราะห์จาก ‘เห็ดแคลง’ คาดว่าปีหน้าจะสามารถทำรายได้แตะ 20 ล้านบาทได้ และในสิ้นปีจะสามารถขยายตลาดไปในประเทศสิงคโปร์, มาเลเซีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยใช้จุดแข็งที่สามารถ ‘ปรุงได้หลากหลายกว่า’ ไม่เหมือนกับผู้เล่นระดับโลกที่จะนำไปปรุงได้ยาก เพราะทำมาสำเร็จรูปกว่า นอกจากนี้ More Meat จะชูจุดเด่นด้าน ‘สุขภาพ’ ในการสื่อสารกับผู้บริโภค ในขณะที่แบรนด์อื่นจะชูเรื่องของการลดโลกร้อนเพราะไม่ทานเนื้อสัตว์

“อย่าง Plant-based Meat ของ Beyond Meat จะเป็นเนื้อเบอร์เกอร์ เวลาจะนำไปประกอบอาหารมันทำได้ยาก ทั้งต้องหั่น ต้องปรุงที่เข้าเนื้อยาก นอกจากนี้ยังคำนึงถึงโภชนาการเป็นหลักเพื่อให้ดีต่อสุขภาพ” วรกันต์ ธนโชติวรพงศ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่การตลาด More Meat กล่าว

วรกันต์ ธนโชติวรพงศ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่การตลาด More Meat

ได้ V Foods มาลงทุน

การจะเติบโตในมุม Startup นักลงทุนถือเป็นปัจจัยสำคัญ โดย More Meat ก็ได้ ‘V Foods’ ผู้ทำตลาด Plant-Based Food กลุ่ม Plant-based Milk ภายใต้สินค้าน้ำนมข้าวโพดเข้ามาร่วมลงทุน โดยล่าสุดได้ออกโปรดักต์ใหม่ในหมวด Plant-based Meal พร้อมทานก็คือ ‘ลาบทอด ผลิตจากพืช’

“เราเป็นสตาร์ทอัพ เราก็ยังต้องการเงินทุน เพราะเรื่องของการตลาดเป็นสิ่งที่สำคัญและต้องใช้เงินมาก แต่ก็ไม่ใช่ใครก็ได้ ซึ่งที่เราเลือก V Foods เพราะเขาก็ทำ Plant-based เหมือนกัน แล้วก็ให้อิสระเราในการทำงานเต็มที่”

COVID-19 โอกาสขยายตลาดแมส

ในช่วงแรกนั้น More Meat มีแต่แพ็กเกจสินค้า 1 กก. ทำให้ยังไม่สะดวกต่อการซื้อของผู้บริโภค และเน้นที่การทำตลาดแบบ B2B กับร้านอาหาร แต่พอมีช่วง COVID-19 ทำให้ร้านอาหารต้องปิดไป แต่ซูเปอร์มาร์เก็ตไม่ปิด และผู้บริโภคก็เริ่มหาซื้อผ่านออนไลน์ More Meat จึงได้ปรับขนาดเป็น 200 ก. และขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ จนปัจจุบัน รายได้ 80% มาจากผู้บริโภคทั่วไป อีก 20% มาจากร้านอาหาร ดังนั้น หากการระบาดรอบ 2 มีความรุนแรงมากขึ้นก็ไม่กังวลว่าจะส่งผลกระทบ

ปัจจุบัน โรงงานผลิต Plant-based ของ More Meat อยู่ที่จังหวัดสงขลา โดยสามารถผลิตได้ 3-4 ตัน/เดือน ซึ่งยังสามารถเพิ่มกำลังผลิตได้อีก 2 เท่า ซึ่งในปีหน้า More Meat มีแผนจะเพิ่มสินค้าใหม่ ๆ รวมถึงเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อให้เพียงพอต่อการส่งออกไปต่างประเทศ

ภาพจาก Instagram More meat

Plant-based มันไม่ใช่เทรนด์ แต่เป็น Solution ที่ช่วยแก้ปัญหา เพราะทั้งภาวะโลกร้อน การระบาดของโรคใหม่ ๆ มันเกิดจากการพฤติกรรมเดิม ๆ บริโภคแบบเดิม ดังนั้น Plant-based จึงตอบโจทย์เรื่องสิ่งแวดล้อม และช่วยเรื่องลดการแพร่ระบาดของไวรัสที่มาจากสัตว์ ดังนั้น มันไม่ใช่เทรนด์”