เชนฟาสต์ฟู้ดดัง Burger King รีแบรนด์ใหม่เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี โดยดึงเอา “โลโก้” เก่าจากยุค 60s มาปรับเปลี่ยนใหม่ให้เข้ากับโลกดิจิทัล ปรับสีและฟอนต์ใหม่ให้ยังดูร่วมสมัย พร้อมคงคาแร็กเตอร์ “กวนๆ” แบบฉบับของร้านอาหารเจ้านี้
ทีมครีเอทีฟภายในบริษัทร่วมกับทีมออกแบบจาก JKR New York เปิดเผยการรีแบรนด์ครั้งล่าสุดของ Burger King ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมานาน 20 ปี ถึงจะบอกว่าเป็นโลโก้ใหม่ แต่ต้นแบบของโลโก้นี้เป็นการดึงเอาโลโก้เก่าที่เริ่มใช้ในยุคทศวรรษ 1960s กลับมาใช้ แต่มีการปรับเปลี่ยนฟอนต์ รูปร่าง และสีสันให้ทันสมัยขึ้น
โดยรูปร่างโลโก้ใหม่จะล้อตามลักษณะของเบอร์เกอร์ของร้าน มีขนมปังประกบด้านบนและด้านล่าง ตรงกลางเป็นฟอนต์ใหม่ชื่อ Flame ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในส่วนอื่นๆ ของร้านด้วย นอกจากปรับโลโก้แล้ว ยูนิฟอร์มพนักงานและแพ็กเกจก็จะเปลี่ยนการออกแบบใหม่ทั้งหมดเช่นกัน
โลโก้เก่าที่เป็นตัวต้นแบบนั้นถูกนำมาใช้ครั้งแรกเมื่อปี 1969 และใช้ยาวจนถึงปี 1999 ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นโลโก้แบบที่เราคุ้นตากันในปัจจุบัน
เมื่อกลับไปใช้โลโก้แบบเรโทร ทำให้สีน้ำเงินถูกดึงหายไปจากโลโก้ที่เราคุ้นเคย และให้ความรู้สึก “มินิมอล” มากขึ้น เป็นการระลึกถึงมรดกของแบรนด์นี้ที่ส่งต่อกันมา ไม่ว่าจะเป็นความเป็นเอกลักษณ์ มั่นใจ เรียบง่าย สนุกสนาน และเป็นมิตร
ตัวฟอนต์ ‘Flame’ นั้นออกแบบโดย Colophon Foundry ปรับให้มีความมนกลม หนา และอร่อย เหมือนกับเบอร์เกอร์ของ Burger King โดย “ราฟาเอล เอบรือ” หัวหน้าฝ่ายออกแบบสากลของ Restaurant Brands International บริษัทแม่ของร้าน กล่าวกับเว็บไซต์ It’s Nice That ว่า ฟ้อนต์นี้ต้องการสร้างความรู้สึกให้คนอยากจะลองกัดดูสักคำ
ด้านสีที่ใช้นั้น เอบรือบอกว่าแบรนด์ได้ทำพาเลตต์สีใหม่มาใช้ได้แก่ สีแดงเพลิง สีส้มเปลวไฟ และสีน้ำตาลบาร์บีคิว ซึ่งจะเป็นกลุ่มสีหลัก และจะมีสีรองลงมาที่ใช้งาน คือ สีขาวไข่มายองเนส สีเหลืองเยิ้ม และสีเขียวกรุบกรอบ
โลโก้และดีไซน์ในร้านที่เปลี่ยนไป ตามด้วย “ยูนิฟอร์มพนักงาน” ที่จะมีผสมผสานสไตล์ “สตรีทแวร์ร่วมสมัย” มากขึ้นด้วย
“การออกแบบคือหนึ่งในเครื่องมือการสื่อสารที่สำคัญที่สุด เพื่อแสดงออกว่าเราคือใครและเราให้คุณค่ากับอะไร รวมถึงมีบทบาทสำคัญยิ่งในการสร้างความอยากอาหาร และสร้างประสบการณ์สูงสุดให้กับลูกค้าของเรา” เอบรือกล่าว
“ตั้งแต่ปี 1999 ที่โลโก้อันก่อนของเราออกสู่ตลาด จนถึงวันนี้โลกของแบรนดิ้งได้เปลี่ยนไปมาก ทุกวันนี้แบรนด์ต่างใช้พื้นที่บนโลกดิจิทัลเป็นสนามแข่งขัน ตัวตนที่เป็นมิตรกับยุคดิจิทัลและความขึ้นกล้องของแบรนด์กลายเป็นสิ่งจำเป็นยิ่งกว่าที่เคย ในปี 1999 นั้นการดีไซน์ยังไม่เป็นประเด็น ก็วันนั้นเรายังใช้มือถือ Nokia ของเราเล่นเกมงูอยู่เลย!”
เขากล่าวด้วยว่า Burger King กำลังปรับโฉมแบรนด์ใหม่ตั้งแต่รากฐาน ลดการใช้สารกันบูดและสีสังเคราะห์ในอาหารทุกชนิด และยังลงทุนอย่างหนักในด้านเทคโนโลยีเพื่อเปลี่ยนประสบการณ์ในร้าน รวมถึงบนมือถือด้วย ดังนั้น ความเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่เกิดขึ้นทำให้โลโก้และการดีไซน์ร้านแบบเดิมๆ ไม่ได้สะท้อนตัวตนของแบรนด์อีกต่อไป และเราจำเป็นต้องสร้างการรับรู้ทางสายตาใหม่หมดให้สอดคล้องกัน
ตัวตนแบรนด์แบบใหม่ของ Burger King เริ่มมีให้เห็นแล้วบนเว็บไซต์ทางการ และจะเริ่มทยอยเปลี่ยนบนโซเชียลมีเดีย เมนูอาหาร และการตกแต่งภายในร้าน ครบทั้ง 18,800 สาขาทั่วโลก ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า