เปิดอินไซต์ “Nongfu Spring” แบรนด์น้ำแร่ที่พา “จง สานส่าน” รวยกว่าวอร์เรน บัฟเฟตต์

‘จง สานส่าน’  เจ้าของน้ำดื่ม Nongfu Spring

ชื่อของจง สานส่าน (Zhong Shanshan) เพิ่งได้รับความสนใจสุดขีดช่วงปลายปีที่ผ่านมา เหตุผลเป็นเพราะเขาคือผู้ก่อตั้งบริษัท “หนงฟูสปริง” แบรนด์น้ำดื่มอันดับหนึ่งของจีนที่เพิ่งเปิดตัวในตลาดหุ้นฮ่องกงเมื่อกันยายน 2563

ทันทีที่เปิดตลาด มูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดของ จง สานส่าน พุ่งทะยานขึ้นเป็น 5.3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ มากกว่าคนดังอย่างแจ็ค หม่า และยังขยับขึ้นต่อเนื่องจนชนะมูเกช อัมบานี แชมป์เศรษฐีอันดับ 1 ของเอเชีย ไม่นาน จง สานส่านถูกจัดอันดับเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 6 ของโลกในช่วงต้นมกราคม 64 ซึ่งเป็นอันดับที่ดีกว่าวอร์เรน บัฟเฟตต์

ปรากฏการณ์ความร้อนแรงของหนงฟู สปริงนั้นไม่ธรรมดา เพราะตัวแบรนด์นั้นมีชื่อเสียงมาก แต่ผู้ก่อตั้งกลับไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก การเก็บตัวไม่ออกสื่อ ไม่ให้สัมภาษณ์ และไม่มีตำแหน่งทางการเมืองเหมือนนักธุรกิจใหญ่จีนรายอื่นอาจเป็นผลจากนิสัยและประสบการณ์การทำอาชีพนักข่าวมานานกว่า 5 ปีของจง สานส่าน แต่ไม่ได้มีผลใดๆ กับความนิยมของแบรนด์ที่แข็งแกร่งได้ด้วยตัวของแบรนด์เอง

ลงทุนวิจัย ไม่ลืมโฆษณา

เบื้องหลังความแข็งแกร่งของหนงฟู สปริงอาจมีหลายส่วน แต่หนึ่งในนั้นคือการให้ความสำคัญกับการทุ่มทุนด้านวิจัยและพัฒนาอย่างจริงจัง สื่อจีนเคยรายงานว่าหนงฟู สปริงจ้างนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยา รวมถึงแพทย์แผนจีนและนักโภชนาการจำนวนมาก แล้วตั้งขึ้นเป็นทีมงานด้านการวิจัยและพัฒนาที่แข็งแกร่งสุดๆ

ข้อมูลงบการเงินของหนงฟู สปริงระบุชัดว่า ยอดขายของบริษัทในแต่ละปีจะถูกแบ่งออกมา 5% เพื่อเป็นทุนวิจัยและพัฒนาสินค้ารวมถึงบริการใหม่ต่อเนื่อง ทำให้เกิดการพัฒนาสินค้าใหม่ และทุกบริษัทในเครือสามารถเข้าถึงผลงานวิจัยและแบ่งปันองค์ความรู้ได้อย่างเสรี

แต่อีกมุมหนึ่ง หนงฟู สปริงก็ถูกมองว่าเติบโตได้เพราะการโฆษณาล้วนๆ การเลือกคำโฆษณาที่โดนใจและแตกต่างมีส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคชาวจีนยอมรับในสินค้ามากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งแซงหน้าคู่แข่งได้อย่างขาดลอย

ไทม์ไลน์ของหนงฟู สปริงเริ่มจากการก่อตั้งเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2539 เวลานั้นบริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำดื่มบรรจุขวดครั้งแรกในปี 40 โดยใช้น้ำที่มาจากทะเลสาบเกาะพันปีในเจ้อเจียง (Zhejiang Thousand Island) ซึ่งเป็นเมืองบ้านเกิดของจง สานส่าน จุดขายหลักคือการชูความเป็นน้ำแร่ธรรมชาติผ่านสโลแกนติดหูที่ทำให้คนจำได้ว่าน้ำแร่นี้มีรส หวานนิดๆ แล้วจึงขยายไปยัง 10 แหล่งน้ำทั่วจีน จนล่าสุดมีข่าวว่ากำลังจะขยายไปตั้งโรงงานแห่งแรกนอกประเทศจีนที่ Otakiri Springs ในนิวซีแลนด์

หลังจากปรับโครงสร้างกลายเป็นบริษัทร่วมทุนในนามบริษัท หนงฟู สปริง จำกัด ช่วงปี 2544 การเติบโตและเข้าซื้อกิจการมากมาย ทำให้หนงฟู สปริงกลายเป็นผู้ผลิตน้ำดื่มบรรจุขวดที่ใหญ่ที่สุดของจีน และเป็นผู้ผลิต 3 อันดับแรกในตลาดชาและน้ำผลไม้บรรจุขวด

ข้อมูลของบริษัทวิจัยนีลเซน ระบุว่าน้ำแร่ธรรมชาติของหนงฟู สปริง กลายเป็นน้ำดื่มบรรจุขวดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของจีนในปี 2555 ก่อนหน้านี้ บริษัทเปิดตัวเครื่องดื่มหลากหลาย มีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายไปที่ตลาดวัยรุ่นด้วยเครื่องดื่มชื่อเท่อย่าง “Scream” คู่กับการขายน้ำแร่ให้หลากหลายคลุมความต้องการที่แตกต่าง เช่นในขวดแก้ว ในถังน้ำขนาด 12 ลิตร รวมถึงน้ำแร่ธรรมชาติสำหรับเด็กเล็ก และน้ำแร่ธรรมชาติสำหรับนักกีฬา นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าขยายฐานลูกค้ากลุ่มน้ำสี ด้วยการเปิดตัวเครื่องดื่มวิตามินซีที่ละลายน้ำได้ชาปราศจากน้ำตาลชานม รวมถึงการขยายไปที่น้ำอัดลมรสผลไม้ และล่าสุดคือผลิตภัณฑ์กาแฟ โยเกิร์ต และธัญพืชหลากหลายประเภท

หนงฟู สปริง เคยเป็นข่าวใหญ่เมื่อ 10 เมษายน 2556 สื่อใหญ่อยางปักกิ่งไทม์ส กล่าวหาว่าหนงฟู สปริง จงใจที่จะไม่ทำตามมาตรฐานน้ำดื่นแห่งชาติของจีน และใช้มาตรฐานของมณฑลเจ้อเจียงที่หลวมกว่าแทน ข่าวนี้ทำให้บริษัทตัดสินใจฟ้องหนังสือพิมพ์รายใหญ่ในข้อหาหมิ่นประมาท โดยเรียกร้องเงินค่าเสียหาย 60 ล้านหยวน กลายเป็นคดีที่ชัดเจนว่าหนงฟู สปริงไม่ยอมอ่อนข้อให้ใครเพื่อรักษาชื่อเสียงของแบรนด์

จนปี 59 ท่านประธานจง สานส่าน ขึ้นประกาศกลยุทธ์ใหม่เพื่อกระจายและขยายการดำเนินงานของบริษัทไปสู่ระดับสากล โดยหนงฟู สปริงจะยังเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท หยางเซงถัง (Yangshengtang) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัทยาอย่างปักกิ่งหวานไถ่ (Beijing Wantai) และไหหนานหยางเซงถังฟาร์มาซูติคอลส์ด้วย (Hainan Yangshengtang Pharmaceuticals)

ในมุมการตลาด หนงฟู สปริงเป็นสปอนเซอร์ให้การสนับสนุนการแข่งขันกีฬาหลายรายการ ล่าสุดเน้นที่กีฬาว่ายน้ำเพราะมีการลงนามในข้อตกลงกับสหพันธ์ fina international swimming federation ในฐานะพันธมิตรหลักสำหรับการแข่งขันในช่วงปี 63-64

โควิดพ่นพิษ

แน่นอนว่ารายการแข่งขันที่เป็นหมันช่วงโควิดสร้างผลกระทบให้บริษัท โดยหนงฟู สปริงประกาศรายได้และกำไรสุทธิลดลงในช่วง 3 เดือนสิ้นสุดเดือนมีนาคม 63 เมื่อเทียบกับช่วง 3 เดือนเดียวกันในปี 62 เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยขณะนี้โรงงานในแผ่นดินใหญ่สามารถกลับมาดำเนินการตามปกติได้แล้วทำให้ธุรกิจไม่ได้รับผลลบมากนัก ล่าสุดคือเมื่อวันที่ 24 กันยายน 63 หนงฟู สปริงเผยว่าในช่วงครึ่งแรกของปี บริษัทมีรายได้ 11,540 ล้านหยวน ลดลง 6.21% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ทำได้ 12,310 ล้านหยวน ขณะที่กำไรสุทธิ 2,860 ล้านหยวน ลดลง 0.43% เมื่อเทียบกับปี 62 ที่มีกำไร 2,88 ล้านหยวน

ปัจจุบัน หนงฟู สปริงขายเครื่องดื่ม 4 ชนิดเป็นหลัก โดยน้ำดื่มบรรจุขวดทำรายได้ 59.7% ของรายได้ในปี 2562 ขณะที่น้ำผลไม้มีสัดส่วน 9.6% เครื่องดื่มชา 13.1% และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ 15.7% สถิติชี้ว่าน้ำดื่มบรรจุขวดทำรายได้ให้หนงฟู สปริงเพิ่มขึ้นกว่า 26.2% เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามรายได้ของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชาลดลง 10.7% และรายรับจากเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพก็ลดลง 36.4% 

เหตุผลที่สินค้าบางชนิดไม่หวือหวาในปีที่ผ่านมาคือผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มน้ำผลไม้ได้ทำการกักตุนสินค้าไว้แล้วเมื่อปลายปี 62 คาดว่าการระบายสินค้าเก่าจะยังดำเนินต่อไปจนทำให้รายได้รวมบริษัทลดลงเล็กน้อย 9.7% อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มอื่น  เช่นกาแฟ เครื่องดื่มน้ำอัดลม และผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตมีรายได้เพิ่มขึ้น 210.3% ซึ่งหนงฟู สปริงเชื่อว่าเป็นเพราะผู้บริโภคจดจำแบรนด์ได้

กระทั่งกันยายน 63 หนงฟู สปริงระดมทุนได้เงินประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐโดยการเสนอขายหุ้น IPO ส่งให้ท่านประธานจง สานส่าน กลายเป็นมหาเศรษฐีระดับโลกในอายุ 66 ปี

แม้พื้นเพครอบครัวจะเป็นกลุ่มคนชั้นกลางที่มีการศึกษา แต่เด็กชายสานส่านต้องออกจากโรงเรียนประถมในช่วงของการปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งใหญ่ ชีวิตผกผันทำให้หนุ่มน้อยต้องทำงานเป็นช่างไม้และช่างกระเบื้อง และในที่สุดก็มีโอกาสสอบเข้ามหาวิทยาลัย พลิกชีวิตด้วยการเลือกเรียนด้านอิเล็กทรอนิกส์ แล้วเข้าทำงานด้านการข่าวที่วารสารเจียงหนานและนิตยสารเจ้อเจียงรายวันเป็นเวลา 5 ปี ก่อนตัดสินใจลาออกมาทำธุรกิจของตนเองโดยก่อตั้งบริษัท หยางเชงถัง เพื่อเน้นทำตลาดด้านการรักษาสุขภาพโดยเฉพาะ

นอกจากผลิตยาแผนจีน บริษัท หยางเชงถัง ยังมีรายการสุขภาพที่เชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งแผนปัจจุบันและแผนจีนมาให้ความรู้แก่ประชาชนด้านการรักษาสุขภาพ แน่นอนว่ารายการนี้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากชาวมังกร จนผลิตภัณฑ์ของหยางเชงถังได้รับการยอมรับติดตลาด ตรงนี้มีส่วนปูทางให้หยางเชงถังขยับขยายธุรกิจที่สู่อาหาร เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์อาหารเสริม จนเป็นแบรนด์ที่ได้รับการจัดตั้งจากกระทรวงพานิชย์จีนให้เป็นเครื่องหมายการค้าอันเป็นที่รู้จักอย่างดีหรือ “China Well-Known Trade Mark”

และเป็นแบรนด์ที่พา จง สานส่าน ไปร่ำรวยกว่าวอร์เรน บัฟเฟตต์ด้วย.


ที่มา :