HSBC รุกหาเศรษฐีเอเชีย เตรียมตั้งธุรกิจ Private Banking ในไทย เป็นแห่งที่ 2 ของอาเซียน

Photo : Shutterstock
เเม้เศรษฐกิจโลกจะตกต่ำ เเต่ ‘ลูกค้ามั่งคั่ง’ ยังเนื้อหอม ล่าสุดสถาบันการเงินรายใหญ่อย่าง HSBC เตรียมเข้ามาเปิดธุรกิจ Private Banking ในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นแห่งที่ 2 ของภูมิภาคต่อจากสิงคโปร์ เพื่อขยายฐานเศรษฐีในอาเซียน

Reuters รายงานว่า HSBC มองว่า ตลาดในไทยมีกลุ่มมั่งคั่งที่มีศักยภาพเติบโตสูง โดยตั้งเป้านำพาลูกค้าให้เข้าถึงตลาดการเงินทั่วโลก ผ่านการใช้เครื่องมือเเละประสบการณ์ให้คำปรึกษาด้านการลงทุนของ HSBC ในเอเชีย

HSBC สถาบันการเงินใหญ่จากอังกฤษ เริ่มรุกเข้าสู่ธุรกิจในเอเชียมากขึ้น ปีที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ โดยรวมธุรกิจ Private Banking และ Retail Wealth เข้าด้วยกัน เป็นหน่วยงานใหม่เพื่อบริหารทรัพย์สินของลูกค้าเศรษฐี ที่มีมูลค่ามากกว่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เเละเป็นที่น่าสนใจว่ากว่า 40% มาจากลูกค้าในภูมิภาคเอเชีย

ในช่วงที่ผ่านมา สถาบันการเงินระดับโลกหลายแห่ง เริ่มหันมาเปิดธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น Credit Suisse ที่เปิดตัวในปี 2016 ต่อมาในปี 2018 กลุ่มธุรกิจบริการ Private Banking รายใหญ่จากสวิตเซอร์แลนด์อย่าง Julius Baer ได้เปิดตัวธุรกิจกับพันธมิตรอย่างธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB ถือหุ้นใหญ่ 60% ส่วน Julius Baer ถือหุ้น 40%) เเละในปี 2019 สถาบันการเงินจากลิกเตนสไตน์อย่าง LGT ก็ได้มาเปิดสำนักงานในไทย 

ต้องรอดูว่าการเข้ามาของ HSBC จะทำให้ศึกธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในไทยกำลังระอุขึ้นไปอีกเเค่ไหน

Photo : Shutterstock

HSBC คาดว่า สินทรัพย์ที่นักลงทุนกลุ่ม High Net Worth (HNW) ในเอเชียถือครอง จะขึ้นไปสู่ 40 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้ภายในปี 2025 ถือว่าเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากปี 2017

ส่วนสินทรัพย์ของนักลงทุน HNW ของไทย คาดว่าจะเติบโตขึ้น 12.4% เป็น 5.48 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2025 เเละมีบุคคลใน HNW มากกว่า 100,000 คน ซึ่งเป็นการเติบโตสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ท่ามกลางสภาวะการลงทุนที่ยังมีความผันผวน เเต่ด้วยความหลากหลายที่มีอยู่ จึงถือเป็นโอกาสที่ดีเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะนักลงทุนที่มีความมั่งคั่งระดับ ‘สูงมาก’ ของเมืองไทย หรือที่เรียกว่ากลุ่ม Ultra High Net Worth Individuals – UHNWIs / High Net Worth Individuals – HNWIs

สำหรับผู้มีความมั่งคั่งตามนิยามของ SCB Julius Baer ที่จะมาเป็นลูกค้าได้นั้นจะต้องมีสินทรัพย์เพื่อการลงทุน (ไม่รวมบัญชีเงินฝากและที่อยู่อาศัยประจำเริ่มต้นที่ 100 ล้านบาท หรือราว 3 ล้านเหรียญสหรัฐขึ้นไป 

รายงานของ Wealth Report Thailand 2019 เปิดเผยภาพรวมตลาด HNWIs และ UHNWIs ในเมืองไทย มี 13,000 – 14,000 ครอบครัว ถือครองสินทรัพย์รวมกว่า 10 ล้านล้านบาท 

อ่านเพิ่มเติม : SCB Julius Baer เรื่องน่ารู้ธุรกิจดูแลพอร์ตลงทุน “เศรษฐีไทย” เข้าได้ต้องมี 100 ล้าน

 

ที่มา : Reuters , Businesstimes