Dual Idol, Double Impact ดูดเด็ก ม. มาดื่มแบรนด์

ฮือฮาตั้งแต่เดือนก่อน เมื่อซุปไก่สกัดตราแบรนด์ ดึงเอาขวัญใจเด็กมัธยม อย่าง นิชคุณ หรเวชกุล มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ใหม่ แล้วต่อด้วย TVC ชุดที่ 2 ประกบคู่กับพรีเซ็นเตอร์เดิมอย่าง โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร ความน่ารัก หล่อใส ทำให้แบรนด์ กลับมามีชีวิตชีวารับปิดเทอมได้ด้วยพลังพรีเซ็นเตอร์

โต๋นั้นมีเรื่องราวที่โดดเด่นของการเป็นนักดนตรีและนักร้อง ด้วยคอนเซ็ปต์ของคนที่มีทั้งพรสวรรค์ หมั่นฝึกฝน และได้กำลังเสริมที่ดีจากการสนับสนุนของพ่อแม่ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ของเด็กสามารถที่มาจากครอบครัวที่มีสื่อแห่งรักที่อบอุ่น

เมื่อมาถ่ายทอดเรื่องราวของแบรนด์ ที่วางโพสิชั่นของสินค้าที่สื่อคุณค่าในด้านเดียวกัน จึงเป็นพรีเซ็นเตอร์ที่ลงตัวจนผูกปิ่นโตกันมาหลายปี

จากเดิมที่เพอร์เซ็ปต์ชั่นของซุปไก่สกัดตราแบรนด์เป็นสินค้าที่ที่คนกินไม่ได้ซื้อ คนซื้อไม่ได้กิน เพราะส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ซื้อเป็นของขวัญ ซื้อไปเยี่ยมไข้ ให้คนแก่ ก็สามารถลดอายุและขยายฐานลูกค้าใหม่สู่กลุ่มคนที่เด็กลง ตั้งแต่ได้โต๋มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งเริ่มเป็นไล่หลังกิจกรรมติวเข้มเข้ามหาวิทยาลัยกับแบรนด์ ซึ่งยังคงจัดต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันเช่นกัน

เด็กส่วนใหญ่รับรู้ว่าติวกับแบรนด์ แต่ก็อาจจะไม่ได้กินแบรนด์ เพราะยังไม่ตระหนักหรือเข้าใจคุณประโยชน์ของสินค้า จนได้น้องโต๋ พี่โต๋ นี่แหละ มาทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์เข้าหาลูกค้าเด็กวัยรุ่นได้แบบลดอายุลูกค้าเก่าที่มีอยู่เดิมครึ่งต่อครึ่ง แต่เป็นการขยายตลาดที่กว้างขึ้น

ผลงานนี้การันตีความสำเร็จได้จากการที่ ดร.ลักขณา ลีละยุทธโยธิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับการโปรโมตขึ้นไปดูตลาดแบรนด์ในอเมริกาเพิ่มขึ้น จากผลสำเร็จของการขยายตลาดได้อย่างประสบความสำเร็จในเมืองไทย

เหตุผลง่ายๆ ของแบรนด์ในการใช้ Dual Idol อย่างโต๋ และนิชคุณ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์พร้อมกัน ก็เพราะคาดหวังผลตอบรับที่จะเพิ่มแรงดึงดูดเป็นสองเท่า ซึ่งน่าจะส่งผลให้แบรนด์เติบโตได้เป็นตัวเลข 2 หลัก หรือ Double Digit ภายในสิ้นปีนี้

โต๋ เป็นนักร้องที่กลุ่มแฟนไม่หวือหวาหรือมากมายแบบซูเปอร์สตาร์ แต่ก็มีกลุ่มแฟนที่เหนียวแน่น และยังเป็นไอดอลที่พ่อแม่วางใจให้ลูกๆ เอาเยี่ยงอย่าง ขณะที่นิชคุณถือได้ว่าจะเป็นตัวจุดระเบิดให้กับแบรนด์สำหรับการเข้ามาแท็กทีมพรีเซ็นเตอร์ในครั้งนี้ เพราะเป็นคนที่มีพัฒนาการและความดังในการเป็นนักร้องสังกัดเทรนด์เกาหลีที่ได้รับความนิยมต่อเนื่องมาตลอด นับตั้งแต่เริ่มเซ็นสัญญากับเจวายพี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ตั้งแต่ปี 2006

ด้วยพัฒนาการด้านฝีมือการร้อง การเต้น การแสดง และความนิยมที่ไม่มีตก คือคุณสมบัติที่ดีของการเป็นพรีเซ็นเตอร์ของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่กลุ่มผู้บริโภคที่เป็นลูกค้าเชื่อว่าสามารถช่วยพัฒนาและบำรุงร่างกายได้จริง ที่สำคัญยังสามารถชักจูงกลุ่มลูกค้าใหม่ ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่อายุน้อย ให้หันมาทดลองและเป็นลูกค้าเพิ่มขึ้น ด้วยแรงดึงดูดของพรีเซ็นเตอร์ที่ตอบโจทย์ให้กับแบรนด์ได้อย่างลงตัว

“เซเรบอส อยู่มา 175 ปีแล้ว มีสินค้าหลายเซ็กเมนต์ บริษัทมีนโยบายที่จะสร้างบุคลิกสินค้าให้เด็กลง จึงต้องสร้างบุคลิกให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเป็นการพยายามหาช่องว่างและโอกาสทางการตลาดที่จะเจาะเข้าไป และเรามองว่าวัยรุ่นปัจจุบันหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น”

ด้วยเหตุผลทั้งมวล คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า คู่พรีเซ็นเตอร์คู่นี้ คงจะสร้าง Double Impact ให้กับแบรนด์ได้ตามเป้าหมายได้บรรลุผล